Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

1 และ 2 พงศ์กษัตริย์ (บทเรียนที่ 20)

สงครามไม่มีวันเลิก

 พระธรรม        1พงศ์กษัตริย์ 16:1-34

อ้างอิง                   1พกษ.6:11;11:2;12:30;13:32;14:7-9,11;15:30-33;16:3,7,11;20:12;25:30;2พกษ.9:9,31,34;13:6; 2พศด.19:2;16:7;20:34

บทนำ           ความบาปชั่วทำให้แผ่นดินนองเลือด อย่าให้ชีวิตของเราหลงละเลิงอยู่ในบาปและชวนผู้อื่นให้ทำบาป เพราะจะเป็นเหตุให้พระพิโรธของพระเจ้าเทลงมาเหนือพวกเรา!

บทเรียน

16:1 “แล้ว​พระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​มา​ถึง​เยฮู​บุตร​ฮานานี กล่าว​โทษ​บาอาชา​ว่า

        (And the word of the Lord came to Jehu the son of Hanani against Baasha, saying, )

16:2 “ใน​เมื่อ​เรา​ได้​เชิดชู​เจ้า​ขึ้น​มา​จาก​ผงคลี และ​ตั้ง​เจ้า​เป็น​ประมุข​เหนือ​อิสราเอล​ประชากร​ของ​เรา แต่​เจ้า​ได้​ดำเนิน​ตาม​ทาง​ของเยโรโบอัม และ​ได้​ทำ​ให้​อิสราเอล​ประชากร​ของ​เรา​ทำ​บาป ทำ​ให้​เรา​โกรธ​ด้วย​บาป​ของ​เขา​ทั้งหลาย
(“Since I exalted you out of the dust and made you leader over my people Israel, and you have walked in the way of Jeroboam and have made my people Israel to sin, provoking me to anger with their sins, )

16:3 “นี่แน่ะบาอาชา เรา​จะ​กวาดล้าง​เจ้า​และ​ราชวงศ์​ของ​เจ้า​ให้​สิ้น และ​ทำ​ให้​ราชวงศ์​ของ​เจ้า​เหมือน​กับ​ราชวงศ์​ของ​เยโรโบอัมบุตร​ เนบัท
(behold, I will utterly sweep away Baasha and his house, and I will make your house like the house of Jeroboam the son of Nebat. )

16:4 “ผู้ใด​ใน​วงศ์​บาอาชา​ที่​ตาย​ใน​เมือง สุนัข​จะ​กิน และ​ผู้ใด​ที่​ตาย​ใน​ทุ่งนา นก​ใน​อากาศ​จะ​กิน

        (Anyone belonging to Baasha who dies in the city the dogs shall eat, and anyone of his who dies in the field  the birds of the heavens shall eat.” )

16:5 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​บาอาชา และ​สิ่ง​ที่​พระองค์​ทรง​ทำ และ​พระราชอำนาจ​ของ​พระองค์ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​ กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ไม่​ใช่​ หรือ?”
(Now the rest of the acts of Baasha and what he did, and his might, are they not written in the Book of the  Chronicles of the Kings of Israel? )

16:6 “และ​บาอาชา​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์ และ​เขา​ฝัง​พระศพ​ไว้​ที่​เมือง​ทีรซาห์ และ​เอลาห์​พระราชโอรส​ก็​ ขึ้น​ครองราชย์​แทน
(And Baasha slept with his fathers and was buried at Tirzah, and Elah his son reigned in his place.)

16:7 “ยิ่งกว่า​นั้น​อีกพระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์​ได้​มา​โดย​ผู้​เผย​พระวจนะ​เยฮู​บุตร​ ฮานานี กล่าว​โทษ​บาอาชา​และ​เชื้อวงศ์​ของ​พระองค์  ทั้ง​เรื่อง​ความ​ชั่ว​ทุก​อย่าง​ซึ่ง​ทรง​ทำ​ใน​สายพระเนตร​ของ​พระยา ห์เวห์ คือ​ทำ​ให้​พระองค์​กริ้ว​ด้วย​พระราชกิจ​แห่ง​พระหัตถ์​ของ​พระราชา ที่​เป็น​เหมือน​กับ​ราชวงศ์​ของ​เยโรโบอัม และ​เรื่อง​ที่​บาอาชา​ทรง​ทำลาย​ราชวงศ์​นั้น​ด้วย

       (Moreover, the word of the Lord came by the prophet Jehu the son of Hanani against Baasha and his house,  both because of all the evil that he did in the sight of the Lord, provoking him to anger with the work of his  hands, in being like the house of Jeroboam, and also because he destroyed it. )

16:8 “ใน​ปี​ที่​ยี่สิบหก​แห่ง​รัชกาล​อาสา​กษัตริย์​ของ​ยูดาห์ เอลาห์​พระราชโอรส​ของ​บาอาชา​ทรง​เริ่ม​ครอง​อิสราเอล​ใน​เมือง​ทีรซาห์ และ​ทรง​ครอง​อยู่​สอง​ปี

       (In the twenty-sixth year of Asa king of Judah, Elah the son of Baasha began to reign over Israel in Tirzah,  and he reigned two years. )

16:9 “แต่​ศิมรี​ข้าราชการ​ของ​พระองค์ ซึ่ง​เป็น​ผู้​บัญชา​การ​กอง​รถรบ​ครึ่งหนึ่ง​ของ​พระองค์ ได้​คิด​กบฏ​ต่อ​พระองค์เมื่อ​พระองค์​ประทับ​ที่​เมือง​ทีรซาห์ พระองค์​ทรง​ดื่ม​จน​เมา​ใน​บ้าน​ของ​อารซา ผู้​บัญชาการ​ราชสำนัก​ใน​เมือง​ทีรซาห์
(But his servant Zimri, commander of half his chariots, conspired against him. When he was at Tirzah, drinking  himself drunk in the house of Arza, who was over the household in Tirzah, )

16:10 “ศิมรี​ได้​เข้า​มา​ฟัน​พระองค์​ล้มลง​และ​ประหาร​พระองค์​เสีย ใน​ปี​ที่​ยี่สิบเจ็ด​แห่ง​รัชกาล​อาสา​พระราชา​ของ​ยูดาห์ แล้ว​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์​แทน
(Zimri came in and struck him down and killed him, in the twenty-seventh year of Asa king of Judah, and  reigned in his place. )

16:11 “และ​ต่อ​มา​เมื่อ​ศิมรี​ทรง​เป็น​กษัตริย์ พอ​ประทับ​บน​บัลลังก์ ก็​ทรง​ประหาร​ราชวงศ์​ของ​บาอาชา​เสีย​สิ้นพระองค์​ไม่​ทรง​เหลือ​ชาย​สัก​คน​เดียว​ที่​เป็น​ญาติสนิท หรือ​มิตรสหาย​ของ​บาอาชา​ไว้​เลย

         (When he began to reign, as soon as he had seated himself on his throne, he struck down all the house  of Baasha. He did not leave him a single male of his relatives or his friends. )

16:12 “ดังนั้น​ศิมรี​ทรง​ทำลาย​ราชวงศ์​ของ​บาอาชา​จน​สิ้นตาม​พระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์​ซึ่ง​ทรง​กล่าว​โทษ​บาอาชา​โดย​เยฮู​ผู้​เผย​พระวจนะ

    (Thus Zimri destroyed all the house of Baasha, according to the word of the Lord, which he spoke against  Baasha by Jehu the prophet, )

16:13 “เพราะ​บาป​ทั้งสิ้น​ของ​บาอาชา​และ​บาป​ของ​เอลาห์ พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ซึ่ง​ได้​ทรง​กระทำและ​ทรง​ทำ​ให้​อิสราเอล​ทำ​บาป​ด้วย ทำ​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​กริ้ว​ด้วย​เรื่อง​ รูปเคารพ

         (for all the sins of Baasha and the sins of Elah his son, which they sinned and which they made Israel to sin, provoking the Lord God of Israel to anger with their idols. )

16:14 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​เอลาห์และ​ทุก​สิ่ง​ซึ่ง​ทรง​กระทำ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ไม่​ใช่​หรือ?”

(Now the rest of the acts of Elah and all that he did, are they not written in the Book of the Chronicles of the Kings of Israel? )

16:15 “ใน​ปี​ที่​ยี่สิบเจ็ด​แห่ง​รัชกาล​อาสา​กษัตริย์​แห่ง​ยูดาห์ ศิมรี​ทรง​ครองราชย์​ได้​เจ็ด​วัน​ใน​เมือง​ทีรซาห์ ส่วน​ไพร่พล​ได้​ตั้ง​ค่าย​รบ​กับ​เมือง​กิบเบโธน​ของ​คน​ฟีลิสเตีย

         (In the twenty-seventh year of Asa king of Judah, Zimri reigned seven days in Tirzah. Now the troops were   encamped against Gibbethon, which belonged to the Philistines, )

16:16 “เมื่อ​ไพร่พล​ซึ่ง​ตั้ง​ค่าย​อยู่​นั้น​ทราบ​ข่าว​ว่า “ศิมรี​ได้​กบฏ​และ​ได้​ปลง​พระชนม์​พระราชา​เสีย​แล้ว” คน​อิสราเอล​ทั้ง​สิ้น​จึง​ตั้ง​อม-รี​ผู้​บัญชาการ​กองทัพ​ให้​เป็น​ พระราชา​เหนือ​อิสราเอล​ใน​วัน​นั้น​ที่​ใน​ค่าย

        (and the troops who were encamped heard it said, “Zimri has conspired, and he has killed the king.” Therefore  all Israel made Omri, the commander of the army, king over Israel that day in the camp. )

16:17 “อม-รี​และ​คน​อิสราเอล​ทั้งสิ้น​ได้​ขึ้น​ไป​จาก​เมือง​กิบเบโธน เขา​ทั้งหลาย​เข้า​ล้อม​เมือง​ทีรซาห์

         (So Omri went up from Gibbethon, and all Israel with him, and they besieged Tirzah. )

16:18 “และ​ต่อ​มา​เมื่อ​ศิมรี​ทรง​เห็น​ว่า​เมือง​นั้น​แตก​แล้ว ก็​เสด็จ​เข้า​ไป​ใน​ป้อม​ของ​พระราชวัง และ​ทรง​เผา​พระราชวัง​เสีย​ด้วย​ไฟ และ​สิ้น​พระชนม์

     (And when Zimri saw that the city was taken, he went into the citadel of the king’s house and burned the king’s house over him with fire and died, )

16:19 “เพราะ​บาป​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​ทำ​ไว้ คือ​ทรง​ทำ​ชั่ว​ใน​สายพระเนตร​พระยาห์เวห์ ทรง​ดำเนิน​ใน​ทาง​ของ​เยโรโบอัมและ​ด้วย​บาป​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​ทำ ทรง​นำ​อิสราเอล​ทำ​บาป​ด้วย

        (because of his sins that he committed, doing evil in the sight of the Lord, walking in the way of Jeroboam, and for his sin which he committed, making Israel to sin. )

16:20 “ส่วน​พระราชกิจ​นอก​นั้น​ของ​ศิมรี รวมทั้ง​การ​กบฏ​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​ก่อ ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​อิสราเอล​ไม่​ใช่​ หรือ?”
(Now the rest of the acts of Zimri, and the conspiracy that he made, are they not written in the Book of the  Chronicles of the Kings of Israel? )

16:21 “แล้ว​ประชาชน​อิสราเอล​ได้​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​ส่วน ครึ่ง​หนึ่ง​ของ​ประชาชน​ติดตาม​ทิบนี​บุตร​กีนัท และ​ยก​ท่าน​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์  และ​อีก​ครึ่ง​หนึ่ง​ติดตาม​อม-รี

   (Then the people of Israel were divided into two parts. Half of the people followed Tibni the son of Ginath,   to make him king, and half followed Omri. )

16:22 “แต่​ประชาชน​ที่​ติดตาม​อม-รี​ได้​รบ​ชนะ​ประชาชน​ที่​ติดตาม​ทิบนี​ บุตร​กีนัท ทิบนี​จึง​สิ้น​ชีวิตและ​อม-รี​ก็​ขึ้น​เป็น​กษัตริย์

 (But the people who followed Omri overcame the people who followed Tibni the son of Ginath. So Tibni died,   and Omri became king. )

16:23 “ใน​ปี​ที่​สามสิบ​เอ็ด​แห่ง​รัชกาล​อาสา​พระราชา​แห่ง​ยูดาห์ อม-รี​ได้​เริ่ม​ครอง​อิสราเอล และ​ทรง​ครอง​อยู่ 12 ปี พระองค์​ทรง​ครอง​ใน​เมือง​ทีรซาห์ 6 ปี สะมาเรีย​เมือง​หลวง​ใหม่

   (In the thirty-first year of Asa king of Judah, Omri began to reign over Israel, and he reigned for twelve years;   six years he reigned in Tirzah. )

16:24 “พระองค์​ทรง​ซื้อ​ภูเขา​สะมาเรีย​จาก​เชเมอร์​ด้วย​เงิน​สอง​ตะลันต์ และ​ทรง​สร้าง​เมือง​บน​ภูเขา​นั้น และ​ทรง​ขนาน​นาม​เมืองที่​ทรง​สร้าง​นั้น​ว่า สะมาเรีย ตาม​ชื่อ​ของ​เชเมอร์​ผู้​เป็น​เจ้าของ​ภูเขา​นั้น

   (He bought the hill of Samaria from Shemer for two talents of silver, and he fortified the hill and called the  name of the city that he built Samaria, after the name of Shemer, the owner of the hill.)

16:25 “อม-รี​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ชั่ว​ใน​สายพระเนตร​พระยาห์เวห์ และ​ทรง​ทำ​ชั่ว​ยิ่งกว่า​บรรดา​กษัตริย์​ผู้​อยู่​ก่อน​พระองค์

    (Omri did what was evil in the sight of the Lord, and did more evil than all who were before him.)

16:26 “เพราะ​พระองค์​ทรง​ดำเนิน​ตาม​ทาง​ทั้งสิ้น​ของ​เยโรโบอัม​บุตร​เนบัท และ​ตาม​บาป​ของ​พระองค์​ซึ่ง​ทำ​ให้​อิสราเอล​ทำ​บาป​ด้วย ทำ​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​กริ้ว​ด้วย​รูปเคารพ​ ทั้งหลาย​ของ​พวกเขา

   (For he walked in all the way of Jeroboam the son of Nebat, and in the sins that he made Israel to sin,  provoking the Lord, the God of Israel, to anger by their idols. )

16:27 “ส่วน​พระราชกิจ​อื่นๆ ของ​อม-รี​ซึ่ง​ทรง​ทำ และ​พระราชอำนาจ​ซึ่ง​ทรง​สำแดง ได้​บันทึก​ไว้​ใน​หนังสือ​พงศาวดาร​กษัตริย์​แห่ง​ อิสราเอล​ไม่​ใช่​ หรือ?”

  (Now the rest of the acts of Omri that he did, and the might that he showed, are they not written in the Book of  the Chronicles of the Kings of Israel? )

16:28 “และ​อม-รี​ทรง​ล่วงหลับ​ไป​อยู่​กับ​บรรพบุรุษ​ของ​พระองค์ และ​เขา​ฝัง​พระศพ​ไว้​ใน​กรุง​สะมาเรีย และ​อาหับ​พระราชโอรส​ของ​พระองค์​ก็​ขึ้น​ครองราชย์​แทน

         (And Omri slept with his fathers and was buried in Samaria, and Ahab his son reigned in his place.)

16:29 “ใน​ปี​ที่​สามสิบแปด​แห่ง​รัชกาล​อาสา​พระราชา​ของ​ยูดาห์ อาหับ​พระราชโอรส​ของ​อม-รี​ทรง​เริ่ม​ครอง​อิสราเอลและ​อาหับ​ พระราชโอรส​ของ​อม-รี​ได้​ทรง​ครอง​อิสราเอล​ใน​กรุง​ สะมาเรีย 22 ปี”

    (In the thirty-eighth year of Asa king of Judah, Ahab the son of Omri began to reign over Israel, and Ahab the  son of Omri reigned over Israel in Samaria twenty-two years. )

16:30 “และ​อาหับ​พระราชโอรส​ของ​อม-รี​ได้​ทรง​ทำ​ชั่ว​ใน​สายพระเนตร​พระยาห์เวห์มาก​ยิ่ง​กว่า​บรรดา​พระราชา​ที่​อยู่​ก่อน​พระองค์  อาหับ​อภิเษก​สมรสกับ​นาง​เยเซเบล​และ​นมัสการ​พระ​บาอัล

         (And Ahab the son of Omri did evil in the sight of the Lord, more than all who were before him. )

16:31 “และ​ต่อ​มา ดู​เหมือน​ว่า การ​ที่​พระองค์​ทรง​ดำเนิน​ตาม​บาป​ของ​เยโรโบอัม​บุตร​เนบัท​นั้น​ เป็น​สิ่ง​เล็ก​น้อย พระองค์​จึง​ทรง​รับ​เยเซเบล​พระราชธิดา​ของ​เอ็ทบาอัล​พระราชา​ของ ​ชาว​ไซดอน​มา​เป็น​มเหสี และ​ไป​ปรนนิบัติ​พระบาอัล และ​นมัสการ​พระ​นั้น

   (And as if it had been a light thing for him to walk in the sins of Jeroboam the son of Nebat, he took for his  wife Jezebel the daughter of Ethbaal king of the Sidonians, and went and served Baal and worshiped him.)

 16:32 “พระองค์​ทรง​ตั้ง​แท่น​บูชา​พระบาอัล​ใน​นิเวศ​ของ​พระบาอัล ซึ่ง​พระองค์​ได้​ทรง​สร้าง​ไว้​ใน​กรุง​สะมาเรีย

          (He erected an altar for Baal in the house of Baal, which he built in Samaria. )

16:33 “และ​อาหับ​ทรง​สร้าง​พระ​อาเช-ราห์ อาหับ​ทรง​ทำ​การ​ที่​ทำ​ให้​พระยาห์เวห์​พระเจ้า​แห่ง​อิสราเอล​ทรง​ พระพิโรธมาก​ยิ่งกว่า​พระราชา​แห่ง​อิสราเอล​ทุก​พระองค์​ซึ่ง​อยู่​ก่อนพระองค์

  (And Ahab made an Asherah. Ahab did more to provoke the Lord, the God of Israel, to anger than all the kings of Israel who were before him. )

16:34 “ใน​รัชกาล​ของ​พระองค์ ฮีเอล​ชาว​เบธเอล​ได้​สร้าง​เมือง​เยรีโค ท่าน​ได้​วาง​ราก​ฐาน​เมือง​นั้น​โดย​ต้อง​เสีย​อาบีรัม​บุตร​หัวปี​ของ​ ท่าน และ​ตั้ง​ประตู​เมือง​โดย​ต้อง​เสีย​เสกุบ​บุตร​สุดท้อง​ของ​ท่าน ตาม​พระวจนะ​ของ​พระยาห์เวห์ซึ่ง​ตรัส​ทาง​โยชูวา​บุตร​นูน

  (In his days Hiel of Bethel built Jericho. He laid its foundation at the cost of Abiram his firstborn, and set up its gates at the cost of his youngest son Segub, according to the word of the Lord, which he spoke by Joshua  the son of Nun.)

ข้อมูลมีประโยชน์

16:1              “เยฮู”(Jehu)–2พศด.16:7-10- เป็นกษัตริย์ฝ่ายเหนือต่อจากบาอาชา(บิดา)ที่นำคำสาปแช่งมาสู่ราชวงศ์

16:2              “ได้เชิดชูเจ้าขึ้นมาจากผงคลี” (exalted you out of the dust) –14:7

  “ดำเนินตามทางของเยโรโบอัม” (walked in the way of Jeroboam) -14:16

16:3  “บาอาชา เราจะกวาดล้างเจ้าและราชวงศ์ของเจ้าให้สิ้น” (I will utterly sweep away Baasha and his  house)

–เปรียบเทียบกับ -14:10(วงศ์วานของเยโรโบอัม)  21:21 (วงศ์วานของอมรีและอาหับ)

16:4   เหมือนคำพยากรณ์เกี่ยวกับราชวงศ์ของเยโรโบอัม ใน 14:11

16:5      “ส่วนพระราชกิจอื่น ๆ” (the rest of the acts) -14:19

16:7  “ความชั่วทุกอย่างซึ่งทรงทำในสายพระเนตรของพระยาห์เวห์” (all the evil that he did in the sight of the Lord)

= เหมือนราชวงศ์ของเยโรโบอัม –ข.2;15:34

            “เรื่องที่บาอาชาทรงทำลายราชวงศ์นั้น” (he destroyed it) –บาอาชาทำให้พระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จในการทำลายราชวงศ์ของเยโรโบอัม (14:10,14)แต่เขาต้องรับผิดชอบต่อการกระทำที่รุนแรงและผิดกฎหมายด้วย   (ปฐก.50:20;อสย.10:5-7,12)

16:8  “ในปีที่ยี่สิบหกแห่งรัชกาลอาสากษัตริย์ของยูดาห์” (In the twenty-sixth year of Asa king of Judah)

–ปี 886 ก.ค.ศ (15:10);            “ทรงครองอยู่สองปี“ (reigned two years) = ปี 886-885 ก.ค.ศ

16:9  “พระองค์ทรงดื่มจนเมาในบ้านของอารซา” (drinking himself drunk in the house of Arza) = เอลาห์กำลังดื่มอย่างเมามายที่ทีรซาห์ ในขณะที่กองทัพกำลังโจมตี กิบเบโธน (ข.15)

16:10 “ปีที่ยี่สิบเจ็ดแห่งรัชกาลอาสา” (in the twenty-seventh year of Asa) = ปี 885 ก.ค.ศ.

16:11 “ประหารราชวงศ์ของบาอาชาเสียสิ้น” (struck down all the house of Baasha)-15:29;2พกษ.10:1-7;11:1

            “มิตรสหาย”(friends)–ในที่นี้อาจหมายถึง ที่ปรึกษาของกษัตริย์บาอาชา(2ซมอ.15:37)

16:12 “ตามพระวจนะของพระยาห์เวห์ซึ่งกล่าวโทษบาอาชาโดยเยฮูผู้เผยพระวจนะ” (according to the word of the Lord, which he spoke against Baasha by Jehu the prophet) –ข.1-4, ศีมรีเป็นเครื่องมือที่ทำให้คำ

พยากรณ์ของเยฮูสำเร็จโดยไม่รู้ตัว เมื่อเขากบฏต่อเอลาห์ และทำลายราชวงศ์ของบาอาชา (เยฮูถูกส่งมาจากอาณาจักรใต้ เพื่อมาหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรเหนือ โดยกระทำพันกิจต่อเนื่องราว  60 ปี จนถึงรัชสมัยของเยโฮชาฟัทแห่งยูดาห์ (2พศด.19:2;20:34)

16:3   “…บาปทั้งสิ้นของบาอาชา และบาปของเอลาห์พระราชโอรส” (all the sins of Baasha and the sins  of Elah his son) -15:34 , 

                 “กริ้วด้วยเรื่องรูปเคารพ” (anger with their idols) – ในที่นี้  = รูปเคารพอันไร้ค้าในศาสนพิธีต่าง ๆ รวมทั้งการใช้วัวทองคำ (12:28;14:9)

16:14  “หนังสือพงศาวดารกษัตริย์แห่งอิสราเอล” (Book of the Chronicles of the Kings of Israel?) = จดหมายเหตุกษัตริย์แห่งอิสราเอล -14:19

16:15 “ในปีที่ยี่สิบแห่งรัชกาลอาสา” (In the twenty-seventh year of Asa) –ปี 885 ก.ค.ศ.   ดู  15:1,10

  “เมืองกิบเบโธน” (Gibbethon)   -ข.9;15:27

16:16 “ศิมรีได้กบฏและได้ปลงพระชนม์พระราชาเสียแล้ว” (Zimri has conspired, and he has killed the king)

* ข.9-12; “อมรีผู้บัญชาการกองทัพ” (Omri, the commander of the army) –อมรีเป็นแม่ทัพที่มีตำแหน่งสูงกว่าศิมรี ได้รับการแต่งตั้งจากคนอิสราเอลให้เป็นพระราชาต่อจากเอสาห์ โดยไม่ยอมรับศิมรีผู้ก่อกบฏ (ข.9)

16:17 “เมืองทีรซาห์” (Tirzah) = ที่ประทับของกษัตริย์ (ข.8-10;14:17)

16:22 “ประชาชนอิสราเอลได้แบ่งแยกออกเป็นสองส่วน” (people who followed Omri overcame the people who followed Tibni)

=อิสราเอลแตกเป็น 2 พวก พวกหนึ่งตามทิบนีบุตรกีนัทอีกพวกหนึ่งตามอมรี

                    “ทิบนีจึงสิ้นชีวิต” (Tibni died) = ไม่ปรากฏชัดว่าตายตามธรรมชาติหรือถูกฆ่าตายจากการรบ

16:23 “อมรีได้เริ่มครองอิสราเอล” (Omri began to reign over Israel) = อมรีได้ปกครองอิสราเอลในฐานะกษัตริย์แต่ผู้เดียว หลังจากรบชิงบัลลังก์กับทิบนีที่ใช้เวลาสี่ปี(ข.15)ในปีที่ 31 ของกษัตริย์อาสา(ปี 880 ก.ค.ศ. ; 15:10)

-อมรีครองราชย์ได้ 12 ปี (885-874 ก.ค.ศ.) โดยครองในเมืองทีรซาร์ 6 ปี หลังจากสามารถยึดได้ภายในไม่กี่วัน (ข.15-19) เท่ากับว่า ใน 12 ปีนี้รวม 4 ปีที่ต่อสู้กับทิบนีด้วย (ข.15,29)

16:24 ”สะมาเรีย” (Samaria) = อยู่ประมาณ 11 กิโลเมตร ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเชเคม อยู่สูงกว่าหุบเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์โดยรอบประมาณ 90 เมตร (อ้างถึงโดยใช้ชื่อว่า “มงกุฎดอกไม้” ใน อสย.28:1)

-เมืองตั้งอยู่บนที่ดินซึ่งถูก(เกลี้ยกล่อมให้)ขายให้ โดยอาจมีเงื่อนไขในการตั้งชื่อตามชื่อของเจ้าที่มีนามว่า เชเมอร์ (21:3;นรธ.4:5) สถานที่นี้มีชัยภูมิตามอุดมคติในการตั้งเป็นเมืองหลวง เพราะโจมตีได้ยาก (20:1-21;2พกษ.6:25;  18:9-10) เมื่อได้รับการสถาปนาเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเหนือก็เปรียบเหมือนกับป้อมปราการเช่นเดียวกับที่ ราชวงศ์ดาวิดมีในกรุงเยรูซาเล็ม (2ซมอ.5:6-12)

-นักโบราณคดีได้ค้นพบว่า อมรีและอาหับได้ประดับเมืองนี้ด้วยสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่น่าทึ่งมาก เพื่อแข่งขันประชันกับสิ่งปลูกสร้างของซาโลมอนในกรุงเยรูซาเล็ม

-นับจากนี้ไป อาณาจักรเหนือถูกเรียกแทนด้วยชื่อเมืองหลวง “สะมาเรีย” นี้ ดังเช่น อาณาจักรใต้สามารถูกเรียก แทนได้โดยชื่อเมืองหลวงคือ เยรูซาเล็ม (21:1;อสย.10:10;อมส.6:1)

16:25 “อมรี…ทรงทำชั่วยิ่งกว่าบรรดากษัตริย์ผู้อยู่ก่อนพระองค์” (Omri did what was evil in the sight of the Lord, and did more evil than all who were before him)  -อมรีเป็นพันธมิตรกับเอ็ทบาอัลแห่งไทระ และโซดอน

(อาหับบุตรชายของอมรีแต่งงานกับเยเชเบล บุตรสาวของเอ็ทบาอัล) ทำให้การนมัสการพระบาอัลแพร่หลายในอาณาจักรเหนือ (ข.31-33) และเกือบทำให้ราชวงศ์ดาวิดในอาณาจักรใต้สิ้นสุดลง (2พกษ.11:8:18)

–อมรีอาจใช้การแต่งงานของบุตรชายเป็นการสร้างพันธมิตรเพื่อมีกำลังอำนาจในการต่อสู้กับทิบนี (ข.21-22)

16:26 “ตามบาป…ซึ่งทำให้อิสราเอลทำบาปด้วย” (walked in all the way of Jeroboam the son of Nebat, and in  the sins that he made Israel to sin)- 12:26-33;14:16

16:27 “ส่วนพระราชกิจอื่น ๆ ของอมรีซึ่งทรงทำ” (the rest of the acts of Omri that he did) –นอกจากสถาปนาสะมาเรียเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรเหนือ อมรีเป็นผู้จัดระบบโครงสร้างการปกครองที่อาหับบุตรชายนำมาใช้ตาม

-ราชวงศ์ของอมรีอยู่นานมาได้กว่า 40 ปี และในอีก 550 ปี ต่อมา (ปี 732 ก.ค.ศ.) ทิกลักปิเลเสอร์ที่ 3 แห่งอัสซีเรีย อ้างถึงอิสราเอลในชื่อ “วงศ์วานของอมรี” (14:19)

16:29 “ในปีที่สามสิบแปดแห่งรัชกาลอาสา” (In the thirty-eighth year of Asa) = ปี 874 ก.ค.ศ. (15:9-10)

                   “อาหับพระราชโอรสของอมรีทรงครองอิสราเอลในกรุงสะมาเรีย 22 ปี” (Ahab the son of Omri reigned over Israel in Samaria twenty-two years) = ปี 874-853 ก.ค.ศ.

16:30 “ได้ทรงทำชั่ว…มากยิ่งกว่าบรรดาพระราชาที่อยู่ก่อนพระองค์” (did evil in the sight of the Lord, more than all who were before him) -คำบรรยายเกือบ 1 ใน 3 ของ 1 และ 2 พงศ์กษัตริย์มีเนื้อหาเกี่ยวกับ 34 ปีของ

รัชกาลอาหับและบุตรทั้งสองคือ อาหัสยาห์และโยรัม ในช่วงนี้มีการต่อสู้อย่างดุเดือดเป็นพิเศษระหว่างอาณาจักรเหนือ(ของซาตาน) และอาณาจักรใต้(ของพระเจ้า)

16:31 “ทรงรับเยเซเบลพระราชธิดาของเอ็ทบาอัล พระราชาของชาวไซดอนมาเป็นมเหสี” (took for his wife Jezebel the daughter of Ethbaal king of the Sidonians)

 “เอ็ทบาอัล” เป็นทั้งปุโรหิตและกษัตริย์ปกครองไทระและไซดอน นาน 32 ปี อาหับแต่งงานกับเยเซเบลมา ตั้งแต่ในสมัยรัชกาลของบิดาแล้ว (ข.25)

  “พระบาอัล”(Baal)นี้อาจเป็น “เมลคาร์ท” ซึ่งเป็นพระบาอัลท้องถิ่นของไทระ และนำเข้ามาอิสราเอลโดยเยเซเบล  ชื่อของบุตรชายของอาหับคือ อาหัสยาห์ (พระยาห์เวห์ทรงฉวย) และโยรัม (พระยาห์เวห์ทรงได้รับการสรรเสริญ)  ชี้ให้เห็นว่า อาหับไม่ได้ทั้งใจเปลี่ยนจากการนมัสการพระเจ้ามาเป็นนมัสการพระบาอัล แต่คง ตั้งใจนมัสการทั้งคู่ แบบผสมผสานกันไป

16:32 “นิเวศของพระบาอัล” (house of Baal,) = อาหับนำวิธีการนมัสการพระบาอัลของชาวฟินิเซียมาจากภรรยาคือ เยเชล เข้าสู่อาณาจักรเหนือโดยสร้างวิหารพระบาอัลในสะมาเรียเหมือนซาโลมอนสร้างพระวิหารของพระเจ้าใน เยรูซาเล็ม ต่อมาภายหลังเยฮูเป็นผู้ทำลายวิหารและหินศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ เหล่านั้นลง (14:32;2พกษ.10:21-27)

16:33 “พระอาเชราห์” (Asherah) -14:15

16:34 “ได้สร้างเมืองเยรีโค” (built Jericho) =เยรีโคถูกทำลายโดยโยชูวา (ยชว.18:21;ลนต.1:16;3:13;2ซมอ.10:5)

กลายเป็นเมืองหรือหมู่บ้านที่ไม่มีกำแพงล้อมรอบ   -ในสมัยของอาหับ ฮีเอลได้เสริมสร้างเมืองให้แข็งแกร่งขึ้น โดยสร้างกำแพงและประตูเมืองขึ้นใหม่ (9:17) อันเป็นการละเมิดพระประสงค์ของพระเจ้าที่ต้องการให้ซากเมือง เยรีโคเป็นอนุสรณ์เตือนสติชาวอิสราเอลให้ตระหนักว่า แผ่นดินคานาอันเป็นของขวัญจากพระเจ้า ดังนั้น ฮีเอล ต้องทนทุกข์ตามคำสาปแช่งที่ โยชูวาประกาศไว้ในโยชูวา 6:26

คำถามนำอภิปราย

  1. หากพระเจ้าบัญชาให้เราลุกขึ้นมากล่าวตักเตือนผู้มีอำนาจหรือผู้มีตำแหน่ง(สูง) ในสิ่งที่เขากระทำผิด(บาป) คุณจะกล้าหาญกระทำด้วยความเชื่อฟังพระองค์หรือไม่?  ทำไม?   และอย่างไร?
  2. เวลานี้ คุณ(หรือองค์กร, คริสตจักร ครอบครัว ฯลฯ ขอบคุณ) กำลังกระทำอะไรที่เป็นการยั่วยุให้พระเจ้าทรงพระพิโรธบ้างหรือไม่?  ในเรื่องอะไร หรือคุณได้ชักนำให้ใครทำผิดบาปบ้างหรือไม่?  ในเรื่องอะไร?
  3. คุณเคยเห็นพระเจ้ากำจัดหรือทำลายล้างบุคคลใด(ไม่ว่าจะมีอำนาจวาสนาหรือตำแหน่งสูง? บ้างหรือไม่? คือใคร?   ในเรื่องอะไร? และอย่างไร?
  4. คุณเคยเห็นการแก่งแย่งอำนาจ (ทางการเมือง/การปกครอง) แต่ผลสุดท้ายก็ได้คนชั่วเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมมาแทนคนชั่วคนเดิมบ้างหรือไม่? อย่างไร? และคุณได้บทเรียนอะไรบ้างจากเหตุการณ์เหล่านั้น?
  5. คุณเคยหรือเคยเห็นคนบางคนได้ดีหรือได้รับเคราะห์จากการเป็นมิตรหรืออยู่ใฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของเกมการแย่งอำนาจ (ทางการเมือง) บ้างหรือไม่? ที่ไหน? และอย่างไร?
  6. เคยมีคนชวนคุณให้ทำผิดบาป(ตามเขา) แล้วคุณกระทำตามหรือคุณปฏิเสธบ้างหรือไม่? แล้วผลที่เกิดตามมาคืออะไร?
  7. คุณเคยอยู่ตรงกลางระหว่างความแตกแยกของคน 2 ฝ่ายบ้างหรือไม่?  ในเหตุการณ์อะไร?  แล้วคุณเลือกฝ่ายใด?  ทำไม?  ผลเป็นอย่างไร?

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.