เพราะว่าที่นี่เราไม่มีนครที่ถาวร แต่ว่าเราแสวงหานครที่จะมีในภายหน้า (ฮีบรู 13:14)
ผมอ่านเจอเรื่องมิชชันนารี่สองคนที่ไปประกาศในอัฟริกาอยู่หลายปี และกำลังกลับมาบ้านเกิดหลังเกษียณอายุ สุขภาพของพวกเขาย่ำแย่ แถมไม่มีเงินบำนาญด้วย เผอิญเรือลำที่พวกเขาโดยสารกลับมา มีผู้มีชื่อเสียงโด่งดังเดินทางมาด้วย ประธานาธิบดี เท็ดดี้ รูสเวลท์ เพิ่งกลับจากการไปท่องป่าล่าสัตว์
ขณะผู้โดยสารทะยอยลงจากเรือ มีฝูงชนมารอต้อนรับ พวกเขาต่างมารอรับท่านประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกากลับ วงดนตรีเริ่มบรรเลงเพลง ฝูงชนต่างตะโกนร้องต้อนรับท่านเสียงดังกึกก้อง
แต่เมื่อสองมิชชันนารี่เดินลงจากเรือ ไม่มีวงดนตรี ไม่มีเสียงปรบมือ ไม่มีแม้ใครสักคนมาต้อนรับ — ไม่มีใครมารับกลับบ้านเลย ด้วยความท้อใจ ผู้เป็นสามีปิดหน้าคร่ำครวญ “พระเจ้าครับ ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะเห็นวงดนตรี หรือขบวนพาเหรด แต่น่าจะมีใครสักคนมารับเรากลับบ้าน”
ได้ยินเช่นนี้ ผู้เป็นภรรยามองไปที่สามีและพูดว่า “ที่รักคะ เรายังไม่กลับถึงบ้านสักหน่อย”
นี่คือสิ่งที่เราต้องจำ เรายังไม่กลับถึงบ้าน แต่วันหนึ่งเราจะได้กลับไปแน่ จนกว่าจะถึงวันนั้น งานของเราคือสัตย์ซื่อกับโอกาสและทรัพยการต่างๆที่พระเจ้าประทานให้ บางคนเมื่อมาเป็นคริสเตียน เขายอมเสี่ยงภัยเพื่อพระเจ้า ยอมสละทำสิ่งยิ่งใหญ่เพื่อพระองค์ ยอมถวายทุกสิ่งที่มีให้พระองค์ และยังมีพวกที่ อยากรับใช้พระเจ้า แต่ค่อนข้างระมัดระวัง หวงตัว หวงเวลา และคิดเยอะ ขณะที่บางคนกำลังจุดไฟให้กับโลกนี้ บางคนก็ยังหาแต่ไม้ขีดไฟ
นี่คือสิ่งที่เราต้องมุ่งมั่น – สัตย์ซื่อกับพระเจ้า ใช้ของประทาน ทั้งโอกาสและทรัพยากรที่พระเจ้าประทานให้อย่างคุ้มค่านะครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514