Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

1 และ 2 พงศ์กษัตริย์ (บทที่ 9)

วิหารของซาโลมอน  

 พระธรรม        1พงศ์กษัตริย์ 6:1-37

อ้างอิง            อพย.26:33-34;25:18-20;30:1-3

บทนำ           พระวิหารคือสิ่งที่กษัตริย์ดาวิดและกษัตริย์ซาโลมอนมุ่งมั่นที่จะสร้างถวายแด่พระเจ้า และพระเจ้าทรงยอมรับพระวิหารนั้น เพราะทอดพระเนตรเห็นความตั้งใจที่ดีของท่านทั้ง 2 แต่พระองค์ก็กำชับอยู่เสมอว่า การกระทำตามพระบัญญัติและพันธสัญญาของพระองค์นั้น สำคัญยิ่งกว่าวิหารใด ๆ ที่ มนุษย์จะมอบถวายแด่พระองค์!

บทเรียน

6:1 “ต่อ​มา​ใน​ปี​ที่​สี่‌ร้อย​แปด‌สิบ หลัง‌จาก​ที่​ชน​อิส‍รา‍เอล​ออก​มา​จาก​แผ่น‌ดิน​อี‍ยิปต์ ใน​ปี​ที่​สี่​ที่​ซา‍โล‍มอน​ทรง​ครอง​อิส‍รา‍เอล ใน​เดือน​ศิฟ​ซึ่ง​เป็น​เดือน​ที่​สอง พระ‌องค์​ทรง​เริ่ม​สร้าง​พระ‌นิเวศ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์

  (In the four hundred and eightieth year after the people of Israel came out of the land of Egypt,  In the fourth year of Solomon’s reign over Israel, in the month of Ziv, which is the second month,  He began to build the house of the Lord. )

6:2 “พระ‌นิเวศ​ซึ่ง​พระ‌ราชา​ซา‍โล‍มอน​ทรง​สร้าง​สำ‍หรับ​พระ‌ยาห์‍เวห์​นั้น​ยาว 27 เมตร กว้าง 9 เมตร​และ​สูง 13.5  เมตร

 (The house that King Solomon built for the Lord was sixty cubits long, twenty cubits wide, and  thirty cubits high.)

6:3 “เฉลียง​หน้า​ห้อง‌โถง​ของ​พระ‌นิเวศ​นั้น​ยาว 9 เมตร เท่า‌กับ​ด้าน​กว้าง​ของ​พระ‌นิเวศ และ​ลึก​เข้า​ไป​หน้า​พระ‌นิเวศ   4.5 เมตร”

 (The vestibule in front of the nave of the house was twenty cubits long, equal to the width of the house, and ten cubits deep in front of the house.)

6:4 “และ​พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​หน้า‌ต่าง​สำ‍หรับ​พระ‌นิเวศ โดย​ให้​ข้าง‌ใน​กว้าง​และ​ข้าง‌นอก​แคบ”​

     (And he made for the house windows with recessed frames.)

6:5 “พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ห้อง​ระเบียง​ติด​ผนัง​พระ‌นิเวศ​โดยรอบ​ห้อง‌โถง​และ​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด”​

  (He also built a structure against the wall of the house, running around the walls of the house,  both the nave and the inner sanctuary. And he made side chambers all around.)

6:6 “โดย ​ห้อง​ชั้น​ล่าง​สุด​กว้าง 2.2 เมตร ชั้น​กลาง​กว้าง 2.7 เมตร และ​ชั้น​ที่​สาม​กว้าง 3.1 เมตร เพราะ​รอบ​ด้าน​ นอก​ของ​พระ‌นิเวศ พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ขอบ​ยื่น​ออก​มา​จาก​ผนัง เพื่อ​คาน‌หนุน​จะ​ไม่‌ได้​ทะลวง​เข้า​ไป​ใน​ผนัง​พระ‌นิเวศ

 (The lowest story was five cubits broad, the middle one was six cubits broad, and the third was  seven cubits broad. For around the outside of the house he made offsets on the wall in order that the supporting beams should not be inserted into the walls of the house. )

6:7 “ขณะ ​กำ‍ลัง​ก่อ​สร้าง พระ‌นิเวศ​นั้น​ก็​สร้าง​ด้วย​ศิลา ซึ่ง​เตรียม​มา​จาก​บ่อ​ศิลา เพราะ​ฉะ‍นั้น​จึง​ไม่‌ได้​ยิน​เสียง​ค้อน​หรือ​ขวาน หรือ​เครื่อง​มือ​เหล็ก​ใดๆ ใน​พระ‌นิเวศ ขณะ​ทำ​การ​ก่อ‌สร้าง

 (When the house was built, it was with stone prepared at the quarry, so that neither hammer nor  axe nor any tool of iron was heard in the house while it was being built. )

6:8 “ทาง‌เข้า​ห้อง​ชั้น‌กลาง​อยู่​ด้าน​ขวา​ของ​พระ‌นิเวศ และ​คน​ขึ้น​ไป​ยัง​ห้อง​ชั้น​กลาง​ทาง​บัน‍ได​เวียน และ​ขึ้น​จาก​ห้อง​ชั้น​กลาง​ไป​ห้อง​ชั้น​ที่​สาม

  (The entrance for the lowest story was on the south side of the house, and one went up by stairs to the middle story, and from the middle story to the third.)

6:9 “พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​พระ‌นิเวศ​จน​เสร็จ และ​ทรง​มุง​พระ‌นิเวศ​ด้วย​ไม้‌คร่าว​และ​กระ‍ดาน​ไม้‌สน​สี‍ดาร์”

     (So he built the house and finished it, and he made the ceiling of the house of beams and planks of cedar.

6:10 “พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ห้อง​รอบ​พระ‌นิเวศ​สูง 2.2 เมตร โดย​เชื่อม​ติด​กับ​ตัว​พระ‌นิเวศ​ด้วย​กระ‍ดาน​ไม้‌สน​สี‍ดาร์”

    (He built the structure against the whole house, five cubits high, and it was joined to the house  with timbers of cedar. )

6:11 “และ​พระ‌วจนะ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​มา​ถึง​ซา‍โล‍มอน​ว่า”

      (Now the word of the Lord came to Solomon,)

6:12 “เกี่ยว​ด้วย​พระ‌นิเวศ​นี้​ซึ่ง​เจ้า​สร้าง​อยู่ ถ้า​เจ้า​ดำ‍เนิน​ตาม​กฎ‌เกณฑ์​ของ​เราและ​เชื่อ​ฟัง​กฎ‌หมาย​ของ​เราและ​รักษา​บัญ‍ญัติ​ทั้ง‌สิ้น​ของ​เรา โดย​ดำ‍เนิน​ตาม เรา​ก็​จะ​สถา‍ปนา​ถ้อย‌คำ​ของ​เรา​กับ​เจ้า ซึ่ง​เรา​พูด​กับ​ดา‍วิด​บิดา​ของ​เจ้า

  “Concerning this house that you are building, if you will walk in my statutes and obey my rules and  keep all my commandments and walk in them, then I will establish my word with you, which I  spoke to David your father.)

6:13 “และ​เรา​จะ​อยู่​ท่ามกลาง​พงศ์‌พันธุ์​อิส‍รา‍เอล และ​จะ​ไม่​ทอด‌ทิ้ง​อิส‍รา‍เอล​ประ‍ชา‍กร​ของ​เรา​เลย”

      (And I will dwell among the children of Israel and will not forsake my people Israel.”)

6:14 “ซา‍โล‍มอน​ได้​ทรง​สร้าง​พระ‌นิเวศ​สำ‍เร็จ”

      (So Solomon built the house and finished it. )

6:15 “พระ‌องค์ ​ทรง​กรุ​ผนัง​ข้าง‌ใน​ด้วย​กระ‍ดาน​ไม้‌สน​สี‍ดาร์ ตั้ง‌แต่​พื้น​พระ‌นิเวศ​จน​ถึง​ไม้​เพ‍ดาน พระ‌องค์​ทรง​กรุ​ข้าง‌ใน​ด้วย​ไม้ และ​พระ‌องค์​ทรง​ปู​ปิด​พื้น​พระ‌นิเวศ​ด้วย​ไม้‌สน​สาม‌ใบ

   (He lined the walls of the house on the inside with boards of cedar. From the floor of the house  to the walls of the ceiling, he covered them on the inside with wood, and he covered the floor of the house with boards of cypress. )

6:16 “พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ด้าน‌หลัง​ของ​พระ‌นิเวศ ด้วย​กระ‍ดาน​ไม้‌สน​สี‍ดาร์​จาก​พื้น​ถึง​ไม้​เพ‍ดาน​สูง 9 เมตร และ​พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ห้อง​นี้​ภาย‌ใน​ให้​เป็น​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด คือ​อภิ‍สุทธิ‍สถาน

   (He built twenty cubits of the rear of the house with boards of cedar from the floor to the walls,  and he built this within as an inner sanctuary, as the Most Holy Place.)

6:17 “ตัว​พระ‌นิเวศ​คือ​ห้อง‌โถง​ซึ่ง​อยู่​ส่วน​หน้าห้อง‌ชั้น​ใน​สุด​นั้น​ยาว 18 เมตร”

       (The house, that is, the nave in front of the inner sanctuary, was forty cubits long.)

6:18 “ส่วน​ข้าง‌ใน​พระ‌นิเวศ​ที่​เป็น​ไม้‌สน​สี‍ดาร์​นั้น​แกะ​เป็น​รูป​น้ำ‌เต้า และ​ดอก‌ไม้​บานทั้ง‌หมด​เป็น​ไม้‌สน​สี‍ดาร์ใน​ที่‌นั่น​ แล​ไม่​เห็น​หิน​เลย

       (The cedar within the house was carved in the form of gourds and open flowers. All was cedar; no stone was seen.)

6:19 “พระ‌องค์​ทรง​จัด​เตรียม​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด​ไว้​ข้าง‌ใน​พระ‌นิเวศ เพื่อ​จะ​วาง​หีบ​พันธ‍สัญญา​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​ไว้​ที่‌นั่น”

       (The inner sanctuary he prepared in the innermost part of the house, to set there the ark of the  covenant of the Lord. )

6:20 “ห้อง‌ชั้น ​ใน​สุด​นั้น​ยาว 9 เมตร กว้าง 9 เมตร และ​สูง 9 เมตร และ​พระ‌องค์​ทรง​บุ​ที่​นั่น​ด้วย​ทอง‍คำ​บริ‍สุทธิ์ พระ‌องค์​ทรง​บุ​แท่น‌บูชา​ด้วย​ไม้‌สน​สี‍ดาร์​ด้วย

       (The inner sanctuary was twenty cubits long, twenty cubits wide, and twenty cubits high, and he overlaid it with pure gold. He also overlaid an altar of cedar.)

6:21 “และ ​ซา‍โล‍มอน​ทรง​บุ​ข้าง‌ใน​พระ‌นิเวศ​ด้วย​ทอง‍คำ​บริ‍สุทธิ์ และ​พระ‌องค์​ทรง​ขึง​โซ่​ทอง‍คำ​หน้า​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด ซึ่ง​บุ​ด้วย​ทอง‍คำ

    (And Solomon overlaid the inside of the house with pure gold, and he drew chains of gold  across, in front of the inner sanctuary, and overlaid it with gold. )

6:22 “และ ​พระ‌องค์​ทรง​บุ​พระ‌นิเวศ​ทั้ง​หลัง​ด้วย​ทอง‍คำ จน​พระ‌นิเวศ​นั้น​สำ‍เร็จ​ทั้ง‌สิ้น พระ‌องค์​ก็​ทรง​บุ​แท่น‌บูชา​ทั้ง​แท่น​ที่​เป็น​ของ​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด​ ด้วย​ทอง‍คำ

    (And he overlaid the whole house with gold, until all the house was finished. Also the whole altar that belonged to the inner sanctuary he overlaid with gold. )

6:23 “ใน​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​เค‍รูบ​สอง​รูป​ด้วย​ไม้​มะ‌กอก แต่​ละ​ตัว​สูง 4.5 เมตร”

       (In the inner sanctuary he made two cherubim of olivewood, each ten cubits high. )

6:24 “ปีก ​ข้าง‌หนึ่ง​ของ​เค‍รูบ​ยาว 2.25 เมตร ปีก​อีก​ข้าง‌หนึ่ง​ของ​เค‍รูบ​ยาว 2.25 เมตร จาก​ปลาย​ปีก​ข้าง‌หนึ่ง​ไป​ถึง​ปลาย​ปีก​อีก​ข้าง‌หนึ่ง​ยาว 4.5 เมตร”

     (Five cubits was the length of one wing of the cherub, and five cubits the length of the other wing of the cherub; it was ten cubits from the tip of one wing to the tip of the other.)

6:25 “เค‍รูบ​อีก​รูป​หนึ่ง​ก็​วัด​ได้ 4.5 เมตร​ด้วย เค‍รูบ​ทั้ง​สอง​มี​ขนาด​เท่า​กัน และ​รูป​อย่าง‌เดียว​กัน”

       (The other cherub also measured ten cubits; both cherubim had the same measure and the  same form. )

6:26 “ความ‌สูง​ของ​เค‍รูบ​รูป​หนึ่ง​เป็น 4.5 เมตร และ​เค‍รูบ​อีก​รูป​หนึ่ง​ก็​เหมือน‌กัน”

      (The height of one cherub was ten cubits, and so was that of the other cherub. )

6:27 “พระ‌องค์ ​ทรง​วาง​เค‍รูบ​ไว้​ใน​ส่วน​ชั้น​ใน​ที่‌สุด​ของ​พระ‌นิเวศ ปีก​ของ​เค‍รูบ​นั้น​กาง​ออก​เพื่อ​ให้​ปีก​หนึ่ง​จด​ผนัง​ข้าง‌หนึ่ง และ​ปีก​ของ​เค‍รูบ​อีก​รูป‌หนึ่ง​จด​ผนัง​อีก​ข้าง‌หนึ่ง ส่วน​ปีก​ข้าง​อื่น​ก็​มา​จด​กัน​ตรง‌กลาง​พระ‌นิเวศ

   (He put the cherubim in the innermost part of the house. And the wings of the cherubim were  spread out so that a wing of one touched the one wall, and a wing of the other cherub touched  the other wall; their other wings touched each other in the middle of the house. )

6:28 “และ​พระ‌องค์​ทรง​บุ​เค‍รูบ​ด้วย​ทอง‍คำ”

      (And he overlaid the cherubim with gold.)

6:29 “พระ‌องค์ ​ทรง​สลัก​ผนัง​ของ​พระ‌นิเวศ​นั้น​โดย​รอบ ด้วย​รูป​แกะ‌สลัก​เป็น​รูป​เค‍รูบ ต้น​อิน‍ท‍ผลัม และ​ดอก‌ไม้​บาน ทั้ง​ห้อง​ข้าง‌ใน​และ​ห้อง​ข้าง‌นอก

      (Around all the walls of the house he carved engraved figures of cherubim and palm trees and open flowers, in the inner and outer rooms.)

6:30 “พื้น​ของ​พระ‌นิเวศ​นั้น พระ‌องค์​ทรง​บุ​ด้วย​ทอง‍คำ​ทั้ง​ข้าง‌ใน​และ​ข้าง‌นอก”

       (The floor of the house he overlaid with gold in the inner and outer rooms.)

6:31 “สำ‍หรับ​ทาง​เข้า​สู่​ห้อง‌ชั้น​ใน​สุด พระ‌องค์​ทรง​ทำ​บาน​ประ‍ตู​คู่​ด้วย​ไม้‌มะ‍กอก กรอบ​ประ‍ตู​เป็น​รูป​ห้า​เหลี่ยม”

     (For the entrance to the inner sanctuary he made doors of olivewood; the lintel and the  doorposts were five-sided. )

6:32 “บาน ​ประ‍ตู​ทั้ง​คู่​ทรง​ทำ​ด้วย​ไม้‌มะ‍กอก​แกะ​สลัก​เป็น​รูป​เค‍รูบ ต้น​อิน‍ท‍ผลัม และ​ดอก‌ไม้​บาน ทรง​บุ​บาน​ประตู​ ด้วย​ทอง‍คำ ทรง​แผ่​ทอง‍คำ​หุ้ม​เค‍รูบ​และ​หุ้ม​ต้น​อิน‍ท‍ผลัม

   (He covered the two doors of olivewood with carvings of cherubim, palm trees, and open  flowers. He overlaid them with gold and spread gold on the cherubim and on the palm trees. )

6:33 “พระ‌องค์​ทรง​ทำ​วง‌กบ​ประ‍ตู​ทาง​เข้า​ห้อง​โถง​ด้วย​ไม้​มะ‍กอก​เป็น​รูป​สี่‌เหลี่ยม”

       (So also he made for the entrance to the nave doorposts of olivewood, in the form of a square,)  

6:34 “และ ​ทรง​ทำ​ประ‍ตู​สอง​ประ‍ตู​ด้วย​ไม้‌สน​สาม‌ใบ บาน​ประ‍ตู​สอง​บาน​ของ​ประ‍ตู​หนึ่ง​พับ​หา​กัน​ได้ และ​อีก​สอง​บาน​ของ​อีก​ประ‍ตู​หนึ่ง​ก็​พับ​ได้​เช่น‌กัน

   (and two doors of cypress wood. The two leaves of the one door were folding, and the two leaves of the other door were folding. )

6:35 “พระ‌องค์ ​ทรง​แกะ‌สลัก​เค‍รูบ ต้น​อิน‍ท‍ผลัม และ​ดอก‌ไม้​บาน​บน​บาน​ประ‍ตู​นั้น และ​ทรง​บุ​ด้วย​ทอง‍คำ​สม่ำ‌เสมอ​กัน​บน​งาน​แกะ‌สลัก​นั้น

   (On them he carved cherubim and palm trees and open flowers, and he overlaid them with gold  evenly applied on the carved work. )

6:36 “พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​ลาน​ชั้น​ใน​ด้วย​กำ‍แพง​หิน​สกัด​สาม​ชั้น และ​ด้วย​ไม้‌สน​สี‍ดาร์​หนึ่ง​ชั้น”

      (He built the inner court with three courses of cut stone and one course of cedar beams. )

6:37 “ใน​ปี​ที่​สี่ เดือน​ศิฟ พระ‌นิเวศ​ของ​พระ‌ยาห์‍เวห์​ก็​ถูก​วาง​รากฐาน”

        (In the fourth year the foundation of the house of the Lord was laid, in the month of Ziv. )

6:38 “และ​ใน​ปี​ที่​สิบ‌เอ็ด ใน​เดือน​บูล ซึ่ง​เป็น​เดือน​ที่​แปด พระ‌นิเวศ​นั้น​ก็​สำ‍เร็จ​หมด​ทุก​ส่วน ตาม​ที่​กำ‍หนด​ไว้​ทุก​อย่าง  พระ‌องค์​ทรง​สร้าง​พระ‌นิเวศ​นั้น​เจ็ด​ปี

     (And in the eleventh year, in the month of Bul, which is the eighth month, the house was finished   in all its parts, and according to all its specifications. He was seven years in building it. )

ข้อมูลมีประโยชน์

6:1       “ปีที่สี่ร้อยแปดสิบ…” (four hundred and eightieth year)= “ปีที่สี่ที่ซาโลมอนทรงครองอิสราเอล”

(in the fourth year of Solomon’s reign over Israel, ) -จากข้อมูลทางประวัติศาสตร์ ทำให้ระบุได้ว่า “ปีที่ 4” ของรัชกาลซาโลมอนตรงกับปี 966 ก.ค.ศ.

-ถ้าการอพยพของอิสราเอลเกิดขึ้น 480 ปีก่อน ปี 966 ก.ค.ศ. ก็จะตรงกับช่วงรัชกาลฟาโรห์อามุนโฮเทปที่ 2 แห่งราชวงศ์ลำดับที่ 18 ของอียิปต์   = 1446 ปีก่อนคริสตศักราช (แต่คำว่าปีที่ 480 นี้อาจเป็นเพียงตัวเลขคร่าวๆ หมายถึงคน 12 รุ่นคูณด้วยระยะเวลารุ่นละ 40 ปีตามประเพณีนิยม)

6:2       “พระนิเวศซึ่งพระราชาซาโลมอนทรงสร้าง” (The house that King Solomon built) = สร้างขึ้นตามแบบของพลับพลา ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ อภิสุทธิสถาน วิสุทธิสถาน และลานด้านนอกอภิสุทธิสถาน มีรูปทรงเป็นลูกบาศก์ สัดส่วนของพระวิหารนั้นเป็นสองเท่าของพลับพลา(อพย.26:15-30;36:20-34)

6:6       “สร้างขอบยื่นออกมาจากผนัง” (made offsets on the wall in order that the supporting beams should not be inserted into the walls of the house.)= ผนังด้านนอกพระวิหารจะหยักเข้าเป็นบ่าเพื่อไม่ให้คานยื่นเข้าไปในผนังพระวิหาร

= เพื่อหลีกเลี่ยงการเจาะรูที่ผนังพระวิหาร จึงมีการสร้างบ่าเพื่อลองรับคานของห้องด้านข้างทั้ง 3 ชั้น การทำเช่นนั้นทำให้ความกว้างของห้องชั้นในแต่ละชั้นไม่เท่ากัน

6:8       “ทางเข้าห้องชั้นกลาง” (stairs to the middle story)= ในภาษาฮีบรูเรียกว่า “ชั้นที่ 2”

6:11     “…พระวจนะของพระยาห์เวห์มาถึงซาโลมอนว่า” (Now the word of the Lord came to Solomon,)

= เมื่อสร้างพระวิหารใกล้เสร็จสิ้น พระเจ้าตรัสกับซาโลมอน ซึ่งอาจตรัสผ่านผู้เผยพระวจนะที่ไม่ทราบชื่อ (ปท. 3:5,11-14;9:2-9)

6:12     “ถ้าเจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา…เราก็จะสถาปนาถ้อยคำของเรากับเจ้า” (    if you will walk in my statutes ……. I will establish my word with you,) = คล้ายกับที่ดาวิดได้กล่าวไว้ (2:1-4) –พระเจ้ายืนยันกับซาโลมอนว่า วงศ์วานของท่านจะยืนยง (2ซมอ.7:12-16) แต่ท่านต้องสัตย์ซื่อต่อพันธสัญญาที่พระเจ้าประทานให้ที่ภูเขาซีนาย เพื่อพันธสัญญาที่พระองค์ประทานแก่ดาวิดจะสำเร็จ

6:13     “เราจะอยู่ท่ามกลางพงศ์พันธ์อิสราเอล” (I will dwell among the children of Israel) = พระเจ้าจะสถิตกับชนชาติอิสราเอลในพระวิหารที่กำลังสร้างอยู่ (9:3)  = พระเจ้าไม่ต้องการให้พวกอิสราเอลกังวล เกี่ยวกับการสถิตอยู่ของพระเจ้า พระองค์จึงย้ำว่า จะทรงสถิตอยู่ท่ามกลางพวกเขา (ปท.สดด.78:60;ยรม.26:6,9;1ซมอ.7:1;8:10-13;ลนต.26:11)

6:16     “อภิสุทธิสถาน” (Most Holy Place.) = ศัพท์เฉพาะที่ หมายถึง พื้นที่ในสุด ซึ่งใช้เก็บรักษาหีบพันธสัญญาในพลับพลา –อพย.26:33-34;ลนต.16:2,16-17,20,23

6:19     “หีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์” (ark of the covenant of the Lord.)-พระบัญญัติ 10 ประการถูกเรียกว่า “ข้อความแห่งพันธสัญญา”  -ใน อพยพ 34:28  -แผ่นหินที่จารึกพระบัญญัติ 10 ประการ ถูกเรียกว่า “แผ่นจารึกพันธสัญญา” (ฉธบ.9:9)

-หีบที่ใช้เก็บแผ่นศิลานี้ บางครั้งเรียกว่า “หีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์” (ฉธบ.10:8;31:9,25;

ยชว.3:11; ปท. ยชว.3:13;อพย.30:6;31:7;1ซมอ.4:11,17,21;5;1)

6:20     “ทองคำบริสุทธิ์” (pure gold) = ซาโลมอนใช้ทองคำจำนวนมากเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์แห่งพระสง่าราศีของพระเจ้า และพระวิหารของพระองค์ในสวรรค์ (วว.21:10-11,18,21)

6:21     “โซ่ทองคำ” (chains of gold across)= ม่านที่กั้นทางเข้าอภิสุทธิสถานคงแขวนอยู่บนโซ่เหล่านี้  -2พศด.3:14;มธ.27:51;ฮบ.6:19

6:22     “แท่นบูชา” (the whole altar)= แท่นเผ่าเครื่องหอม -7:48;อพย.30:1,6;37:25-28;ฮบ.9:3-4

6:23     “เครูบสองรูป” ( two cherubim) -อยพ.25:18= คล้ายกับตัวสฟิงซ์มีปีก

= สัญลักษณ์ของผู้ที่ทำหน้าที่ต้อนรับอยู่ ณ ที่ ๆ พระเจ้าทรงครองบัลลังก์ ในอาณาจักรของพระองค์ในโลกนี้ซึ่งอยู่ที่บนฝาหีบพันธสัญญา (ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระบัลลังก์ของพระเจ้า -1ซมอ.4:4;2ซมอ.6:2;2พกษ.19:15;สดด.99:1)

-การวางหีบพันธสัญญาของพระเจ้าที่มีเครูบนี้ไว้ในพระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม  เป็นการประกาศว่า เยรูซาเล็มเป็นนครของพระเจ้าบนโลกนี้ (สดด.9:11)

-มีเครูบ 2 ตนบนหีบพันธสัญญาคือ ข้างละ 1 ตนบนปลายทั้ง  2 ด้านของพระที่นั่งกรุณา (อพย.25:17-22)

เครูบแต่ละตัวสูง 4.5 เมตร (10 ศอก มีปีกยาว 2.25 เมตร)  ส่วนอภิสุทธิสถานซึ่งเครูบตั้งอยู่นั้นสูง 9 เมตร (20 ศอก) –ข้อ 16

6:29     “รูปสลักเป็นรูปเครูบ” (carved engraved figures of cherubim)= ไม่ได้ละเมิดบัญญัติ 10 ประการ ที่ ห้ามสร้างรูปเคารพ หรือสิ่งใดเพื่อการนมัสการในฐานะเป็นพระเจ้าหรือตัวแทนของพระเจ้า (อพย.20:4)

“ต้นอินทผลัม และดอกไม้บาน” (palm trees and open flowers, ) = เป็นภาพของเครูบและต้นไม้ดอกที่งดงามราวกับสวนเอเดนที่อาดัมและเอวาเคยอยู่ก่อนถูกขับออกมา เนื่องจากทำบาป (ปฐก.3:24)

= เป็นสัญลักษณ์เพื่อบ่งบอกว่า การจะกลับสู่เมืองบรมสุขเกษม (เอเดน) อีกครั้งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อมีการชำระบาปในสถานศักดิ์สิทธิ์อย่างในพระวิหารเท่านั้น (อพย.26:1)

-ต่อมาในธรรมศาลาของชาวยิวในยุคแรก ๆ ก็มีการประดับประดาในรูปแบบคล้าย ๆ กัน

6:36     “ลานชั้นใน” (inner= บ่งเป็นนัยว่ามีลานชั้นนอก (8:64) ใน 2พศด.4:9 อ้างถึง “ลานของปุโรหิต” (ชั้นใน) และ ลานใหญ่ (ชั้นนอก) ลานชั้นในยังเรียกว่า ลานด้านบน (ยรม.36:10) เพราะอยู่ในพระวิหารซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งบนเนินที่สูงกว่า

6:37     “ปีที่สี่เดือนศิฟ” (fourth year the foundation of the house of the Lord was laid, in the month of Ziv)

“ปีที่สี่” = ปีที่ 4 ในรัชกาลของกษัตริย์ซาโลมอน

          “ศิฟ” = เดือนที่ 2 ตามปฏิทินของอิสราเอล (ประมาณกลางเมษายน – กลางพฤษภาคม)

6:38     “ปีที่สิบเอ็ดในเดือนบลู” (the eleventh year, in the month of Bul,)

          “ปีที่สิบเอ็ด” = ในรัชกาลของกษัตริย์ซาโลมอน (ปี 959 ก่อนคริสตศักราช)

“บลู” = เดือนที่ 8 ตามปฏิทินของชาวอิสราเอล (ประมาณกลางตุลาคม – กลางพฤศจิกายน)

คำถามนำอภิปราย

  1. เมื่อคุณอ่านพระธรรม  1พงษ์กษัตริย์บทที่ 6 จบลง ความประทับใจแรกเกิดจากการอ่านหรือฟังพระธรรมตอนนี้คืออะไร ขอแบ่งปัน?
  2. คุณเคยทำงานชิ้นใดและให้แก่ใครที่ประณีตที่สุด (และคุณภูมิใจมากที่สุด?) ในชีวิตของคุณ? อย่างไร?
  3. พระเจ้าตรัสสัญญาเกี่ยวกับวิหารที่ซาโลมอนสร้างถวายแด่พระองค์ว่าอย่างไรบ้าง? สิ่งที่พระองค์ตรัสนั้นเตือนสติอะไรคุณบ้าง?
  4. คุณเคยมีประสบการณ์กับความทุกข์ยากลำบากหรือเผชิญกับปัญหาหนักหนาสาหัส แต่คุณกลับรู้สึกมั่นใจว่าพระเจ้าสถิตอยู่กบคุณจริง ๆ และไม่ได้ทอดทิ้งคุณเลยบ้างหรือไม่? เมื่อไร?  และอย่างไร?
  5. คุณมีอะไรบ้างที่เป็นสิ่งก่อสร้าง(หรือปฏิมากรรม)ที่คุณสร้างหรือมีครอบครองอยู่ที่อาจเข้าข่ายรูปเคารพ     แต่ไม่ใช่บ้างหรือไม่?  (อย่างเช่น รุปเครูบ) และคุณมีไว้เพื่ออะไร?  มีคนสะดุดหรือไม่?  อย่างไร?
  6. คุณได้ข้อคิด (ที่มีความหมายต่อจิตวิญญาณของคุณ) อะไรจากวิหารหรือกระบวนการก่อสร้างวิหารของซาโลมอนในครั้งนี้บ้าง?

ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.