อภิมหาโปรเจ็ค!
พระธรรม 1พงษ์กษัตริย์ 5:1-18
อ้างอิง 2พศด.2:1-18;2ซมอ.5:11;7:13;1พศด.22:8-9;28:3;1พกษ.10:9;5:11;4:6;3:12;ปฐก.49:15
บทนำ บางครั้งเจตนาดีที่เรามีให้กับพระเจ้าอาจสร้างความยากลำบากให้แก่คนจำนวนมากมาย
เราจึงต้องระมัดระวังในการทำดีใด ๆ ที่อาจนำภาระหนักมาวางบนบ่าของผู้หนึ่งผู้ใด หรือนำความเจ็บปวด
มาสู่คนเหล่านั้นอย่างไม่สมควร!
บทเรียน
5:1 “ฮีรามกษัตริย์เมืองไทระได้ส่งข้าราชการของท่านมาเฝ้าซาโลมอน เมื่อท่านได้ยินว่า เขาได้เจิมตั้งพระองค์ไว้ แทนพระราชบิดาของพระองค์ เพราะฮีรามเป็นสหายของดาวิดอยู่เสมอ”
(Now Hiram king of Tyre sent his servants to Solomon when he heard that they had anointed him king in place of his father, for Hiram always loved David. )
5:2 “และซาโลมอนได้ส่งพระดำรัสไปยังฮีรามว่า”
(And Solomon sent word to Hiram, )
5:3 “ท่าน คงทราบอยู่แล้วว่า ดาวิดพระราชบิดาของเราไม่ทรงสามารถสร้างพระนิเวศ สำหรับพระนามของพระยาห์เวห์พระเจ้าของพระองค์ได้ เพราะสงครามล้อมรอบพระองค์อยู่ จนกว่าพระยาห์เวห์จะทรงปราบศัตรูให้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของ พระองค์”
(“You know that David my father could not build a house for the name of the Lord his God because of the warfare with which his enemies surrounded him, until the Lord put them under the soles of his feet. )
5:4 “แต่บัดนี้พระยาห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้าทรงให้ข้าพเจ้าได้หยุดพักรอบด้านปฏิปักษ์หรือเหตุร้ายก็ไม่มี”
(But now the Lord my God has given me rest on every side. There is neither adversary nor misfortune. )
5:5 “ฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงประสงค์จะสร้างพระนิเวศสำหรับพระนามของพระยา ห์เวห์พระเจ้าของข้าพเจ้า ดังที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้าว่า ‘บุตรชายของเจ้า ผู้ที่เราจะตั้งไว้บนบัลลังก์แทนเจ้าจะสร้างพระนิเวศสำหรับนามของเรา’”
(And so I intend to build a house for the name of the Lord my God, as the Lord said to David my father,”Your son, whom I will set on your throne in your place, shall build the house for my name.”)
5:6 “ฉะนั้น บัดนี้ขอท่านสั่งให้ตัดไม้สนสีดาร์จากเลบานอนเพื่อข้าพเจ้า และข้าราชการของข้าพเจ้าจะสมทบกับข้าราชการของท่าน ข้าพเจ้าจะมอบเงินค่าจ้างข้าราชการของท่านแก่ท่านตามที่ ท่านตั้งไว้ เพราะท่านทราบแล้วว่าท่ามกลางเรานี้ไม่มีใครรู้จักตัดไม้เหมือนชาวไซดอน”
(Now therefore command that cedars of Lebanon be cut for me. And my servants will join your servants, and I will pay you for your servants such wages as you set, for you know that there is no one among us who knows how to cut timber like the Sidonians.” )
5:7 “ต่อ มาเมื่อฮีรามได้ยินพระดำรัสของซาโลมอน ท่านก็ชื่นชมยินดียิ่งนักและว่า “สาธุการแด่พระยาห์เวห์ในวันนี้ ผู้ประทานบุตรชายที่มีปัญญาคนหนึ่งแก่ดาวิด ให้อยู่เหนือชนชาติใหญ่นี้”
(As soon as Hiram heard the words of Solomon, he rejoiced greatly and said, “Blessed be the Lord this day, who has given to David a wise son to be over this great people.” )
5:8 “และ ฮีรามก็ใช้คนไปยังซาโลมอน ทูลว่า “ข้าพเจ้าทราบข่าวที่ท่านส่งไปยังข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าพร้อมจะทำตามที่ท่านปรารถนาในเรื่องไม้สนสีดาร์ และไม้สนสามใบ”
(And Hiram sent to Solomon, saying, “I have heard the message that you have sent to me. I am ready to do all you desire in the matter of cedar and cypress timber. )
5:9 “ข้า ราชการของข้าพเจ้าจะนำไม้ลงมาจากเลบานอนถึงทะเล และข้าพเจ้าจะผูกแพล่องมาตามทะเลถึงที่ที่ท่าน จะกำหนดให้ และข้าพเจ้าจะให้พวกเขาแก้แพที่นั่น ขอท่านมารับเอา และขอท่านส่งเสบียงอาหารแก่วังของข้าพเจ้า นี่ก็สมประสงค์ข้าพเจ้าแล้ว”
(My servants shall bring it down to the sea from Lebanon, and I will make it into rafts to go by sea to the place you direct. And I will have them broken up there, and you shall receive it. And you shall meet my wishes by providing food for my household.”)
5:10 “ฮีรามจึงได้จัดส่งไม้สนสีดาร์และไม้สนสามใบให้แก่ซาโลมอน ตามพระประสงค์ทุกประการ”
(So Hiram supplied Solomon with all the timber of cedar and cypress that he desired, )
5:11 “แล้วซาโลมอนได้ประทานข้าวสาลีให้เป็นอาหารแก่วังของฮีราม 2,000 ตัน และน้ำมันบริสุทธิ์ 4,000 ลิตร ซาโลมอนประทานอย่างนี้แก่ฮีรามทุกปี”
(while Solomon gave Hiram 20,000 cors of wheat as food for his household, and 20,000 cors of beaten oil. Solomon gave this to Hiram year by year. )
5:12 “และ พระยาห์เวห์ประทานสติปัญญาแก่ซาโลมอน ดังที่ทรงสัญญาไว้ และมีสันติภาพระหว่างฮีรามกับ ซาโลมอน และทั้งสองก็ทำสนธิสัญญากัน”
(And the Lord gave Solomon wisdom, as he promised him. And there was peace between Hiram and Solomon, and the two of them made a treaty. )
5:13 “พระราชาซาโลมอนทรงเกณฑ์คนงานโยธาจากอิสราเอลทั้งหมด คนที่ถูกเกณฑ์มีจำนวน 30,000 คน”
(King Solomon drafted forced labor out of all Israel, and the draft numbered 30,000 men.)
5:14 “และ พระองค์ทรงใช้เขาทั้งหลายไปยังเลบานอน โดยผลัดเปลี่ยนเวรกัน ผลัดละ 10,000 คนต่อเดือน พวกเขาจะอยู่ที่เลบานอนเดือนหนึ่งและอยู่บ้านสองเดือน และอาโดนีรัมเป็นผู้ดูแลคนงานโยธา”
(And he sent them to Lebanon, 10,000 a month in shifts. They would be a month in Lebanon and two months at home. Adoniram was in charge of the draft. )
5:15 “ซาโลมอนมีคนขนของหนัก 70,000 คน และคนสกัดหินในถิ่นเทือกเขา 80,000 คน”
(Solomon also had 70,000 burden-bearers and 80,000 stonecutters in the hill country,)
5:16 “นอกจาก นี้ยังมีข้าราชการผู้ใหญ่ของซาโลมอนอีก 3,300 คน เป็นผู้ดูแลการงาน และเป็นหัวหน้าดูแล ประชาชนผู้ปฏิบัติงาน”
(besides Solomon’s 3,300 chief officers who were over the work, who had charge of the people who carried on the work.)
5:17 “พระราชา ทรงบัญชา และเขาทั้งหลายได้สกัดก้อนหินใหญ่ล้ำค่าออกมา เพื่อวางรากฐานของพระนิเวศด้วย หินที่แต่งแล้ว”
(At the king’s command they quarried out great, costly stones in order to lay the foundation of the house with dressed stones. )
5:18 “ดังนั้น คนงานก่อสร้างของซาโลมอน คนงานก่อสร้างของฮีราม และชาวเกบาลก็ตระเตรียมไม้และหินเพื่อสร้างพระนิเวศ”
(So Solomon’s builders and Hiram’s builders and the men of Gebal did the cutting and prepared the timber and the stone to build the house.)
ข้อมูลมีประโยชน์
5:1 “ฮีรามกษัตริย์เมืองไทระ” (Hiram king of Tyre) –ฮีรามปกครองไทระประมาณ ปี ค.ศ. 978-944 ก่อน ค.ศ. -ท่านอาจร่วมปกครอง (ร่วมสำเร็จราชการ) กับอาบีบาอัล ราชบิดา ตั้งแต่ปี 993 ก.ค.ศ.
-ท่านได้จัดสรรไม้และคนงานสำหรับก่อสร้างพระราชวังของดาวิดไว้ตั้งแต่ก่อนซาโลมอนเกิด (2ซมอ.5:11)
5:3 “ไม่ทรงสามารถสร้างพระนิเวศ” (not build a house) –แม้ดาวิดไม่ได้รับอนุญาตให้เป็นผู้สร้างพระวิหาร แต่ท่านก็วางแผนและจัดเตรียมวัสดุปกรณ์ก่อสร้างไว้ให้ (1พศด.22:2-5;28:2; ปท. สดด.30; 2ซมอ.7:5)
5:3 “เพราะสงครามล้อมรอบพระองค์อยู่” ( because of the warfare with which his enemies surrounded him) = มีศึกติดพันรอบด้าน -1พศด.22:8;28:3
“ทรงปราบศัตรูให้อยู่ใต้ฝ่าพระบาทของพระองค์” (put them under the soles of his feet) -2ซมอ.22:40;สดด.8:6;110:1;มธ.22:44;1คร.15:25
5:4 “ได้หยุดพักรอบด้าน” ( rest on every side) = ได้พักสงบ นั่นคือ ไม่มีข้าศึกหรือภัยพิบัติประการใดเกิดขึ้น
= พระสัญญาของพระเจ้าต่อประชาชนของพระองค์ (อพย.33:14;ฉธบ.25:19;ยชว.1:13;15) และต่อดาวิด (2ซมอ.7:11) ได้ปรากฎขึ้นเป็นจริงในตอนนี้แล้ว = ดังนั้น จึงทำให้ประชาชนมีอิสระที่จะทุ่มเททรัพยากรและกำลังเรี่ยวแรงในการก่อสร้างพระวิหารของพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขา! -ยชว.14:15;1พศด.22:9;ลก.2:14
“ปรปักษ์หรือเหตุร้ายก็ไม่มี” (There is neither adversary nor misfortune.) = ไม่มีข้าศึกหรือภัยพิบัติประการใด -1พกษ.11:14,23
5:5 “ประสงค์จะสร้างพระนิเวศ” (intend to build a house) = ตั้งใจจะสร้างพระวิหาร -1ฉธบ.12:5; 1พศด.17:12;1คร.3:16;วว.21:22
“พระนามของพระยาห์เวห์” (name of the Lord my God ) -1คร.3:16;วว.21:22;3:2
“ดังที่พระยาห์เวห์ได้ตรัสไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพเจ้า” (as the Lord said to David my father) -2ซมอ.7:12-13;1พศด.22:8-10
5:5 “สำหรับนามของเรา” ( for my name.) –ฉธบ.12:5;2ซมอ.7:13
5:6 “ขอท่านสั่ง” (therefore command) = คำขอร้องของซาโลมอนที่บันทึกรายละเอียดอยู่ใน 2พศด.2:3-10
“ไม้สนสีดาร์จากเลบานอน” (cedars of Lebanon) = เป็นไม้ที่ใช้อย่างกว้างขวางในตะวันออกกลางใกล้ยุคโบราณในการสร้างวิหารและพระราชวัง -1พศด.14:1;22:4
5:7 “สาธุการแก่พระยาห์เวห์” (“Blessed be the Lord) = เป็นเรื่องปกติที่คนชนชาติหนึ่งจะรู้จักพระเจ้าของอีกชนชาติหนึ่ง (10:9;11:5) รวมทั้งอาจยกย่องอำนาจของพระเหล่านั้นด้วย (2พกษ.18:25;2พศด.2:12)
5:9 “ผูกแพล่องมาตามทะเล” (rafts to go by sea) = ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
“ที่ที่ท่านจะกำหนดให้” (to the place you direct. ) = สู่จุดมุ่งหมายตามที่ซาโลมอนกำหนด
= ที่ยัฟฟา -2พศด.2:16;1พกษ.13:1
“ส่งเสบียงอาหารแก่วังของข้าพเจ้า” (providing food for my household.) = ฮีรามบอกให้ซาโลมอนจ่ายค่าไม้สนสีดาร์เป็นอาหารสำหรับราชสำนักของท่านแทน -1พกษ.5:11;อสค.27:17;กจ.12:20
แต่ซาโลมอนยังต้องจ่ายค่าจ้างของชาวฟินิเซีย (ข.6) ปท. ข้อ 11 กับ 2พศด.2:10 บอกว่า นอกจากข้าวสาลีและน้ำมันมะกอกเทศแล้ว ซาโลมอนยังส่งข้าวบาร์เลย์และเหล้าองุ่นสำหรับเป็นค่าแรงงาน ฮีรามอาจขายเสบียงเหล่านี้บางส่วนเพื่อจ่ายคนงาน (9:11)
5:11 “ข้าวสาลี…2000 ตัน” ( 20,000 cors of wheat) = ข้าว 4400 กิโลลิตร
ปท. กับที่ซาโลมอนได้รับแป้งละเอียด 2409 กิโลลิตร และแป้งขนม 4818 กิโลลิตรต่อปี
= ราชสำนักของซาโลมอนได้รับแป้งละเอียด 2409 กิโลลิตรและแป้งขนม 4818 กิโลลิตรต่อปี (4:22)
-การจ่ายข้าวสาลี 4400 กิโลลิตร และข้าวบาร์เลย์ อีก 4400 กิโลลิตร (2พศด.2:70) แก่ฮีรามน่าจะทำเป็นแป้งละเอียดและแป้งขนมได้ราว 5866 กิโลลิตร หรือน้อยกว่าที่ซาโลมินใช้ประมาณร้อยละ 20
“น้ำมันบริสุทธิ์ 4000 ลิตร” (20,000 cors of beaten oil. ) –สำเนาโบราณบางฉบับว่า 400,000 ลิตร บางฉบับว่า = 440 กิโลลิตร
5:12 “พระยาห์เวห์ประทานสติปัญญาแก่ซาโลมอน” (Lord gave Solomon wisdom) -1พกษ.3:12
5:13 “เกณฑ์” (drafted forced) = เกณฑ์แรงงาน -9:15;2ซมอ.20:24
-ประชาชนไม่พอใจกับการกดขี่เกณฑ์แรงงานเช่นนั้น ต่อมาจึงได้กบฎและแบ่งแยกดินแดนเป็น 2 ส่วนในทันที่ที่ซาโลมอนสิ้นพระชนม์ (12:1-18)
5:15 “มีคนขนของหนัก 70000 คน ( had 70,000 burden-bearers) และคนสกัดหินในถิ่นเทือกเขา 80,000คน” (and 80,000 stonecutters in the hill country) -มีกรรมกรแบกหาม 70,000 คน และช่างสกัดหิน 80,000 คน ที่เกณฑ์มาจากคนต่างชาติที่ดาวิดเคยกำราบและนำเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร (2พศด.2:18-18)
5:16 “ข้าราชการผู้ใหญ่ของซาโลมอนอีก 3300” (3,300 chief officers who were over the work)
–ในบางฉบับแปลว่า “หัวหน้าคนงาน” 3300 คน ใน 1พกษ.9:23 กล่าวถึง เจ้าหน้าที่ 500 คน ถ้าทั้ง 2 เป็นหัวหน้าคนงานคนละประเภทหรือคนละตำแหน่ง ยอดรวมจะเท่ากับ 3850 คน
-ใน 2พศด.2:2 ระบุหัวหน้าคนงาน 3,600 คน และใน 2 พศด.8:10 กล่าวถึงหัวหน้าข้าราชการ 250 คน ซึ่งรวมกันเป็น 3850 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแล
5:17 “สกัดก้อนหินใหญ่ล้ำค่า” (costly stones) = หินก้อนมหึมาที่คัดสรรมาแล้ว ขนาดหินปรากฎใน 7:10 -การเคลื่อนย้ายหินเหล่านี้มายังกรุงเยรูซาเล็มต้องใช้แรงงานคนจำนวนมาก
5:18 “ชาวเกบาล” (men of Geba) = ผู้คนที่มาจากเกบาล (อสค.27:9)
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยได้รับการอุปการะเกื้อหนุนโดยสหายของบิดา(หรือญาติผู้ใหญ่)ของคุณบ้างหรือไม่? เขาเป็นใคร? ในเรื่องอะไร? และอย่างไร?
- คุณ(หรือครอบครัวหรือคริสตจักร) เคยมีโครงการใดที่คิดจะกระทำแต่ต้องเลื่อนออกไปอยู่นานเพราะมีอุปสรรคหรือปัญหาถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องบ้างหรือไม่? (แบ่งปัน)
- คุณเคยมีช่วงเวลาใดในชีวิตที่เหมือนกับได้หยุดพักสงบอย่างยาวนานบ้าง? อย่างไร? (แบ่งปัน)
- คุณเคยคิดจะกระทำสิ่งใดที่เป็นโครงการใหญ่ถวายพระเจ้าบ้างหรือไม่? คืออะไร? อย่างไร? และผลสุดท้ายได้ทำหรือไม่? ผลลัพธ์เป็นอย่างไร?
- คุณเคยทำโครงการหรือพันธกิจอะไรที่ต้องใช้ทุนและคนจำนวนมาก? แล้วผลที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไรบ้าง?
- คุณหรือบุคคลใดเคยได้รับผลกระทบในเชิงลบจากพันธกิจหรือโครงการที่คุณคิดว่าดีบ้างหรือไม่? อย่างไร? และทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?
- คุณคิดว่า จากชีวิตของคุณที่ผ่านมา มีสิ่งใดหรือโครงการใด
1) ที่คุณคิดว่าพระเจ้าทรงได้รับเกียรติจากคุณมากที่สุด?
2) ที่คุณคิดว่าพระเจ้าทรงเสียพระทัยจากสิ่งที่คุณทำมากที่สุด? ทำไม
ศจ. ธงชัย ประดับชนานุรัตน์