ไม่น่าเชื่อ แต่ต้องเชื่อ นั่นคือศัตรูตัวเลวร้ายที่สุดในชีวิตของคนเราแท้จริงก็คือ ตัวของเขาเอง!
ใช่ครับ ศัตรูที่ร้ายที่สุดของตัวเราก็คือ “ตัวของเราเอง!”
ในตัวของเรามีทั้งพลังสร้างสรรค์และพลังทำลายล้าง ในขณะที่พลังสร้างสรรค์บรรจงสร้างสิ่งดี พลังทำลายล้างก็สร้างความเสียหายย่อยยับให้แก่ผู้อื่น และแก่ตัวเราเอง ผ่านความคิด คำพูด และการกระทำของตัวเราเอง!
และน่าขันที่เรามักเห็นแต่ “จุดบอด” ในตัวบุคคลอื่น แต่เราเองกลับไม่เห็น “จุดบอด” ในชีวิตของตัวเอง เราจึงจำเป็นที่จะต้องมีกระจกเอาไว้ส่องดูตัวของเรา แต่น่าเสียใจที่กระจกดี ๆ นั้นหายากมาก และไม่ค่อยมีผู้ใดอยากหรือกล้าเป็นกระจกให้กับเรา เพราะกลัวถูกเราทุบแตก!
ดังนั้น หากเราพบผู้ใดที่รักเรามากพอที่พร้อมยอมเสี่ยงเอาตัวของเขามาเป็น “กระจก” ให้เราส่องดูตัวเอง เราก็ควรที่จะทะนุถนอมรักษาเขาให้ดี และหมั่นแสดงความซาบซึ้งชื่นชมต่อเขา อีกทั้งควร “ยอมฟัง” หรือ “เชื่อฟัง” และอย่าเถียงหรืออย่าทะเลาะกับกระจก เพราะมีแต่จะสร้างความเสียหายให้แก่ตัวเองและทำให้ “กระจก” ที่ดีต้องจากเราไป!
ความจริงเกี่ยวกับ “กฎแห่งกระจก” หรือ “หลักการแห่งกระจก” ต่อไปนี้มีคุณค่าที่เราควรจะนำมาพิจารณาใคร่ครวญ เพื่อจะได้เรียนรู้จักตัวเองให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นและสามารถปรับปรุงการปฏิบัติตนของเราให้สอดคล้องกับมุมมองใหม่ที่เรียนรู้ ดังนี้
- บุคคลแรกที่ฉันต้องรู้จักคือ ตัวฉันเอง (My self) -นี่คือ “การตระหนักตน” (Self-Awareness)
-ปกติคนเรามักจะคิดถึงตนเอง แต่มักจะเห็นตัวเองอยู่ในสภาพที่แตกต่างจากความเป็นจริง (บางคนถึงกับคิดว่าตนเองเป็นเหยื่อก็มี)
2. บุคคลแรกที่ฉันต้องเข้ากันให้ได้คือ ตัวฉันเอง (My Self) –นี่คือ “ภาพลักษณ์ของตน” (Self –Image)
มีคำกล่าวว่า “ถ้าคุณรู้สึกอึดอัดกับตัวคุณเอง คุณคงไม่สามารถรู้สึกผ่อนคลายได้เมื่ออยู่กับคนอื่น”
นั่นคือ ถ้าคุณไม่เชื่อ(มั่น) ในตัวคุณเอง คุณจะบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนอื่น
“ฉันพูดอยู่เสมอว่า ความสัมพันธ์สำคัญที่สุดที่คุณจะต้องมีก็คือ กับตัวคุณเอง คุณต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวคุณเองก่อน!” -ฟิล แมคโกรว์-
3. บุคคลแรกที่จะสร้างปัญหาให้แก่ฉันก็คือ ตัวฉันเอง (My Self) -นี่คือ “ความซื่อตรงต่อตน” (Self – Honesty)
หากคุณต้องการหลีกห่างจากการเป็นศัตรูที่เลวร้ายที่สุดของตัวเอง คุณต้องมองดูตัวคุณเองตามความเป็นจริงอย่างซื่อตรง อย่าให้คุณกลายเป็นตัวปัญหา เพราะความคิดหรือความคาดหวังของตัวคุณเอง
4. บุคคลแรกที่ฉันต้องเปลี่ยนแปลง คือ ตัวฉันเอง (My Self) –นี่คือ “การปรับปรุงตน” (Self – Improvement)
-อย่าให้ตัวเราเองหรือคนอื่นคิดทึกทักเอาว่า เราเป็นผู้รู้ทุกสิ่งหรือทำได้ทุกอย่าง แต่เราก็ต้องเรียนรู้จักพัฒนา ทักษะในเรื่องสัมพันธภาพและการพัฒนาตัวเราเองอยู่เสมอ
5. บุคคลแรกที่สามารถสร้างสิ่งที่แตกต่างขึ้นก็คือ ตัวฉันเอง (My Self) –นี่คือ “ความรับผิดชอบส่วนตน” (Self – Responsibility)
-แม้ว่าไม่มีผู้ใดเพียงลำพังผู้เดียวเท่านั้นจะกระทำให้เกิดความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ได้ แต่ทุก ๆ ความสำเร็จที่ ยิ่งใหญ่มักจะเริ่มต้นมาจากความฝันหรือวิสัยทัศน์ของคนพียงคนเดียว!
อย่างไรก็ตาม คนเราต้องไม่เพียงแค่ฝัน แค่เราต้องรับผิดชอบในการส่ง “ความฝัน” นั้นต่อให้ผู้อื่นร่วมกันกระทำจนกว่าจะเกิดผลสำเร็จขึ้น!
พี่น้องที่รัก!
วันนี้ คุณต้องมีกระจกที่ใช้ส่องดูตัวคุณเองอยู่แล้วหรือยัง? คุณควร หยุดบ่น หยุดตำหนิ หยุดวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่นและมองดูตัวคุณเองอย่างซื่อตรงตามที่เป็นจริง และเอาจริงเอาจังในการจัดการกับปัญหาภายในตัวของคุณเองและหากว่าคุณต้องการมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับคนอื่น คุณก็จงหยุดมองดูหรือมองหาข้อบกพร่องในตัวของคนอื่น และเริ่มต้นมองตัวเองและปรับปรุงแก้ไข(มุมมอง/นิสัย)ของตัวคุณเองให้ดีขึ้น โดยเริ่มต้น ณ บัดนี้เลย
จะดีไหมครับ?
“ทำไมท่านมองเห็นผงที่อยู่ในตาพี่น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของตนเอง?” (ลูกา 6:41)
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer