อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งเมื่อข้าพเจ้าขอบางสิ่งจากพระองค์ และพระองค์ไม่ตอบคำอธิษฐาน ด้วยความผิดหวังเสียใจ ข้าพเจ้าตั้งใจจะเลิกติดตามพระองค์ แต่เช้าวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าได้รับจดหมายที่เขียนข้อพระคัมภีร์ ที่ว่า “อย่ากระวนกระวายถึงพรุ่งนี้ เพราะว่าพรุ่งนี้คงมีการกระวนกระวายสำหรับพรุ่งนี้เอง”
ผู้ที่เขียนจดหมายได้บอกกับข้าพเจ้าว่า รู้สึกอยากจะฝากข้อพระคัมภีร์ข้อนี้ ทั้งที่ทราบว่า ปกติข้าพเจ้าเป็นคนร่าเริง ไม่มีทุกข์ร้อนเรื่องอะไร ต่อมามีพี่น้องจากโบสถ์อื่นมาเยี่ยมเยียนที่ทำงาน และหนุนใจมาก (ขณะนั้นคนรอบข้างข้าพเจ้าไม่มีใครเป็นคริสเตียนเลย) ข้าพเจ้าหยิบพระคัมภีร์มาอ่าน และพบข้อความที่ตรงกับความรู้สึกในขณะนั้นพอดี และเมื่อเปิดวิทยุฟังก็เป็นเพลง His Love is Mine พอดีอีกเช่นกัน
ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีเหตุการณ์ 4 อย่างเกิดขึ้นเพื่อเตือนให้ข้าพเจ้าทราบว่า พระองค์ยังคงเป็นพระเจ้าที่สัตย์ซื่อ พระองค์มาตามข้าพเจ้ากลับไป ข้าพเจ้ารู้สึกถึงความรักยิ่งใหญ่ที่หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจ ข้าพเจ้าถึงกับร้องไห้ด้วยความตื้นตันเป็นความสุขยิ่งใหญ่ที่ทราบว่าตนเองเป็นที่รัก ทั้งที่ทำตัวไม่น่ารัก ท่ามกลางคน 6,000 ล้านคนในโลกนี้ ข้าพเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งที่เอาแต่ใจ พระองค์ยังตามหาเพื่อจะบอกว่า แม้มนุษย์ต่ำต้อยคนเดียว ก็มีความหมายในสายพระเนตรของพระองค์
ข้าพเจ้าได้ตระหนักว่า ทั้งที่ข้าพเจ้าเองไม่ได้เป็นคนที่ขาดความรัก เมื่อพระเจ้าเทความรักของพระองค์ลงมา ข้าพเจ้ายังมีความสุขถึงเพียงนี้ หากคนที่ไม่ค่อยได้สัมผัสความรักจะมีความสุขสักเพียงใด
เหตุการณ์นี้ยังได้สอนบทเรียนที่ยิ่งใหญ่แก่ข้าพเจ้าด้วย ก่อนหน้านี้ข้าพเจ้าคิดเสมอว่า การที่พระเจ้าทรงตอบคำอธิษฐานมากมายของข้าพเจ้า เป็นเพราะข้าพเจ้าเองแสวงหาพระองค์ ความรู้สึกดังกล่าวก่อให้เกิดความไม่ถ่อมใจ แต่เหตุการณ์นี้กระทำให้ข้าพเจ้าเห็นว่า แท้จริงข้าพเจ้าไม่ได้แสวงหาพระองค์ พระองค์ต่างหากที่แสวงหาข้าพเจ้า สิ่งที่พระเยซูทำที่กางเขนเมื่อ 2000 ปีก่อน เป็นเครื่องพิสูจน์เรื่องนี้อย่างดี ไม่ใช่เฉพาะข้าพเจ้าที่พระองค์ตามหา หากแต่เป็นมนุษย์ทุกคนที่ถ่อมใจลงฟังเสียงเรียกด้วยความรักความห่วงใยของพระองค์ เพื่อให้ทุกคนที่เชื่อในการกระทำที่เสียสละนี้จะรอด ไม่ว่าจะเป็นคนโง่หรือฉลาด ยากจนหรือร่ำรวย เป็นกษัตริย์หรือสามัญชน พิการหรือปกติ เจ็บป่วยหรือแข็งแรง ทุกคนสามารถจะมีความเชื่อ และรับความรอดได้เท่า ๆ กัน นี่คือความยุติธรรมจากของขวัญแห่งความรักขององค์พระผู้เป็นเจ้า
หลังเหตุการณ์นี้ผ่านไป 3 เดือน พระองค์ทรงทำให้ข้าพเจ้าทราบว่า ทำไมพระองค์จึงไม่ตอบคำอธิษฐานในวันนั้น หากข้าพเจ้าได้ตามที่ขอในวันนั้น วันนี้ข้าพเจ้าคงเดือดร้อนพอสมควร ข้าพเจ้าแน่ใจว่า เรื่องราวบางอย่างที่เราคิดว่าดี และทูลขอต่อพระองค์ แต่พระเจ้าจะทรงรู้ดีกว่า และจัดเตรียมให้เฉพาะสิ่งที่ดีต่อเราเท่านั้น ข้าพเจ้าตัดสินใจที่จะติดตามพระองค์ไปชั่วชีวิต ไม่ว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของข้าพเจ้าหรือไม่ เพราะข้าพเจ้าได้ตระหนักแล้วว่า ความรัก ความรอด ที่พระองค์มอบให้ ทั้งที่ข้าพเจ้าไม่สมควรได้รับนั้น เป็นพระคุณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว
ทุกวันนี้ ข้าพเจ้ายังคงมีชีวิตอยู่ท่ามกลางคนไม่เชื่อ แต่ด้วยท่าที และความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ข้าพเจ้าไม่มีความรู้สึกอับอายอีกต่อไป ตรงข้าม ข้าพเจ้ากลับรู้สึกเป็นห่วงคนที่ไม่รู้จักพระเจ้า เข้าเหล่านั้นไม่ตระหนักว่าทรัพย์สิน เงินทอง การยกย่องสรรเสริญจากมนุษย์ เกียรติยศ และของทุกอย่างในโลกนี้ไม่อะไรเลยที่ทำให้อิ่มใจได้ มีเพียงองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะเติมหัวใจของเราให้เต็มด้วยความรักของพระองค์ คนที่ไม่รู้จักพระเจ้าจึงต้องวิ่งหาสิ่งต่าง ๆ จนตลอดชีวิต และตายไปทั้งที่ยังหิวกระหาย เราในฐานะที่เป็นคริสเตียน เรามีสิ่งที่ดีที่สุดที่ไม่มีใครจะแย่งชิงไปได้ นั้นคือ องค์พระเยซูคริสต์ ความรัก และความรอดของพระองค์
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
นท.นพ. ภากร จันทนมัฎฐะ รน.
จากหนังสือ คำตอบชีวิต
1 reply on “คำพยานจาก นท.นพ. ภากร จันทนมัฎฐะ รน.”
ได้ฟังคำพยาน..ของคุณหมอที่โบสถ์สืบฯ…เป็นคำพยานที่ดีมากดีใจที่ได้เห็นพิมพ์ออกมาเป็นบทความให้อ่าน..ขออนุญาติ forward mail ต่อนะค่ะ 😀