ประมาณเที่ยงคืน เปาโลกับสิลาสก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายในคุกก็ฟังอยู่ (กิจการ 16:25)
ถ้าผมจะประเมินการเป็นคริสเตียนโดยยึดบนพื้นฐานดนตรีอย่างเดียว มันก็ชัดเจนว่าคริสเตียนเป็นเจ้าของดนตรี เพื่อนของผม มาร์ตี โกเอซ พูดว่า ในฐานะเป็นเด็กชายชาวยิว เขาอิจฉาคริสเตียน เพราะระหว่างที่เขาฉลองเทศการฮานุกคา คริสเตียนกำลังฉลองเทศกาลคริสตมาสด้วยบทเพลงมากมายเช่น “จงฟังเพลงแห่งทูตสวรรค์” ราตรีสงัด ราตรีสวัสดิ์” และ “ชาวโลกทั้งหลายจงชื่นใจยินดี” เขาชื่นชมในเสียงเพลงของพวกเรา
แต่เราไม่ได้ประเมินความเชื่อของเราบนเสียงเพลง แต่บนพื้นฐานว่าเราเชื่ออะไร และเราเชื่อในผู้ใด คริสเตียนร้องเพลงมากมายเพราะเรามีบทเพลงมากมายที่ต้องร้องบอกไป
เมื่อผู้เชื่อสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้ในท่ามกลางการทดลอง และความทุกข์ยาก โลกที่หลงหายสังเกตเห็น เมื่อคุณกำลังเผชิญกับความยากลำบาก และยังสามารถสรรเสริญพระเจ้าได้ ผู้ที่ไม่เชื่อจะสนใจฟัง
ในกรณีของเปาโลและสิลาสที่ถูกจับโยนเข้าคุกเพราะออกไปเทศนาสั่งสอนข่าวประเสริฐ พวกเขาถูกเฆี่ยนอย่างหนัก และถูกใส่ขื่อเท้า แต่ในกิจการ 16:25 กล่าวว่า – ประมาณเที่ยงคืน เปาโลกับสิลาส ก็อธิษฐานและร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้า นักโทษทั้งหลายในคุกก็ฟังอยู่
ในวิวรณ์บทที่ 15 เราพบว่าผู้พลีชีพจากยุคภัยพิบัติกำลัง “ร้องเพลงของโมเสส ซึ่งเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า และเพลงของพระเมษโปดก” (ข้อ 3) พวกเขาได้ผ่านไฟเลวร้ายที่สุดมาแล้ว พวกเขาถูกฆ่าตายเพราะความเชื่อ แต่พวกเขาอยู่ในสวรรค์ และกำลังร้องเพลงของพวกเขา
เพลงนมัสการไม่ได้มีเพื่อให้เราเพลิดเพลินใจ นักดนตรีและนักร้องในคริสตจักรต้องการนำเราเข้าสู่การนมัสการ คุณอาจพูดว่า “แต่เสียงฉันไม่ค่อยดี” แต่นั่นไม่อาจหยุดคนเป็นพันๆที่ไปยืนคอยทดสอบร้องเพลงในรายการประกวดต่างๆ และก็ไม่อาจหยุดคุณด้วย คุณไม่ได้กำลังแสดงให้ใครชม เมื่อคุณนมัสการ คุณกำลังร้องให้ผู้ชมเพียงท่านเดียวฟัง – พระเจ้า – ดังนั้นหมั่นซ้อมไว้นะครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514