“อย่าส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตัวในโลก ที่อาจเป็นสนิมและที่แมลงกินเสียได้ และที่ขโมยอาจขุดช่องลักเอาไปได้ แต่จงส่ำสมทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์ ที่ไม่มีแมลงจะกินและไม่มีสนิมจะกัด และที่ไม่มีขโมยขุดช่องลักเอาไปได้ (มัทธิว 6:18-20)
สวรรค์เป็นเรื่องจริง เป็นที่อาศัยชั่วนิรันดร์ของเรา โลกเป็นเพียงที่อาศัยชั่วคราว สวรรค์เป็นต้นฉบับและโลกก็เป็นเพียงสำเนา นำสิ่งดีที่สุดที่คุณเคยเห็น หรือสัมผัสได้จากในโลกนี้ วันที่ดีที่สุดในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นวันแต่งงาน วันที่ลูกคลอด หรือช่วงเวลาสุดพิเศษกับใครบางคนที่คุณรัก และนี่เป็นเพียงแวบเดียวของสง่าราศี เป็นการชิมลางของสิ่งที่กำลังมาถึง
งานเขียนของ ซี.เอส. เลวิสที่ชื่อ “จดหมายถึงมัลคอล์ม” กล่าวว่า “เนินและหุบเขาในสวรรค์ จะเป็นสิ่งที่คุณสัมผัสได้ ไม่ใช่เหมือนสัมผัสสำเนาจากต้นฉบับ แต่เหมือนสัมผัสดอกไม้ที่งอกจากราก หรือเพชรที่เจียระไนจากคาร์บอน”
พระคัมภีร์บอกว่าวันหนึ่งในฐานะผู้เชื่อ เราต้องยืนอยู่ต่อหน้าพระบัลลังก์พิพากษา หรือที่นั่งใหญ่สีขาวของพระเยซู เพื่อจะรับบำเหน็จสำหรับความสัตย์ซื่อที่มีต่อพระเจ้า อ.เปาโลเขียนถึงคริสตจักรกาลาเทียว่า “อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร” (กาลาเทีย 6:9)
และยังมีคำเตือนใน 1โครินธ์ 3:8 ว่า “คนที่ปลูกและคนที่รดน้ำก็เป็นพวกเดียวกัน แต่ทุกคนก็จะได้ค่าจ้างตามการที่ตนได้กระทำไว้”
ครับ มีบำเหน็จรออยู่ และนี่ควรเป็นสิ่งที่ทำให้เราอยากทำทุกสิ่งที่ทำได้เพื่อพระสิริของพระเจ้า อย่างที่ผมชอบพูด เรานำติดตัวไปไม่ได้ แต่เราส่งไปล่วงหน้าได้ ทุกๆการลงทุนที่เราทำในชีวิตเพื่อถวายพระสิริแด่พระเจ้าจะส่งผลถึงบำเหน็จนิรันดร์กาล ยอมสละเวลา นำของประทานมาใช้ ลงทุนกับสิ่งต่างๆที่เรามี โดยสัตย์ซื่อต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า เราก็กำลังสะสมทรัพย์สมบัติในสวรรค์ไว้ให้ตัวเราเอง
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514