1) เมลคีเซเดค เป็นปุโรหิตของพระเจ้า และเป็นผู้ครอบครองเมืองซาเล็มในดินแดนคานาอัน(ต่อมาถูกเรียกว่า เยรูซาเล็ม)ท่านได้เตือนอับราฮัมให้ตระหนักว่าพระเจ้าเป็นผู้ประทานชัยชนะในการรบให้แก่เขา
2) อับราฮัมยอมรับความจริงนี้ และถวายหนึ่งในสิบจากของที่ได้มาให้แก่เมลคีเซเดค
ปฐก.14:17-20 “เมื่ออับรามกลับจากการรบชนะกษัตริย์เคโดร์ลาโอเมอร์และกษัตริย์ ทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันแล้ว กษัตริย์เมืองโสโดมก็มาพบอับรามที่หุบเขาชาเวห์(คือหุบเขา ของกษัตริย์) เมลคีเซเดคผู้เป็นทั้งกษัตริย์ซาเลมและ ปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด ก็นำขนมปังกับเหล้าองุ่นมาให้ แล้วอวยพรท่านกล่าวว่า “ขอให้อับรามรับพรจาก พระเจ้าผู้สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ขอพระเกียรติเป็นของพระเจ้าผู้สูงสุด ผู้ทรงมอบศัตรูทั้งหลายไว้ในมือของท่าน” อับรามก็มอบหนึ่งในสิบจากข้าวของทั้งหมดนั้นถวายแก่กษัตริย์ เมลคีเซเดค”
ฮบ.7:1-4 “เมลคีเซเดค ผู้นี้คือกษัตริย์เมืองซาเลม เป็นปุโรหิตของพระเจ้าผู้สูงสุด มาพบอับราฮัมขณะที่อับราฮัม กำลังกลับมาจากการรบชนะ กษัตริย์ทั้งหลาย ท่านได้อวยพรอับราฮัม อับราฮัม ก็ถวายทศางค์ จากสิ่งสารพัด แก่เมลคีเซเดค ประการแรก นามของท่านแปลว่า กษัตริย์แห่งความชอบธรรม และประการต่อมา ท่านเป็นกษัตริย์เมืองซาเลม ด้วยซึ่งหมายถึงกษัตริย์แห่งสันติสุข บิดามารดาและตระกูลของท่านไม่มีกล่าวไว้ วันเกิดวันตายก็เช่นกัน แต่เป็นเหมือนพระบุตรของพระเจ้า เมลคีเซเดคนั้นดำรงอยู่เป็นปุโรหิตตลอดไป จงคิดดูเถิด ท่านผู้นี้ยิ่งใหญ่เพียงไร ที่อับราฮัมผู้เป็นบรรพบุรุษของเรานั้น ยังได้ถวายทศางค์จากสิ่งที่ริบได้นั้นแก่ท่าน”
3) หลายศตวรรษต่อมา เมื่ออิสราเอลอยู่ในคานาอันแล้ว ดาวิดรบชนะเยรูซาเล็ม และตั้งเมืองนี้เป็นเมืองหลวง พระองค์ประพันธ์เพลงสดุดีให้นักร้องเผ่าเลวีขับร้องเพื่อฉลองชัยชนะราวกับว่าดาวิดได้รับตำแหน่งเป็นปุโรหิตของพระเจ้าสืบต่อมาจากเมลคีเซเดคและดาวิดฉลองชัยชนะ
สดด.110:1-7 “พระยาห์เวห์ตรัสกับกษัตริย์ของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะทำให้ศัตรูของเจ้าเป็นแท่นรองเท้าของเจ้า” พระยาห์เวห์ทรงยื่นคทาแห่งการปกครองของท่านจากศิโยน ท่านจงครอบครองท่ามกลางศัตรูของท่านเถิด ชนชาติ ของท่านจะเต็มใจถวายตัว ในวันแห่งอำนาจของท่านในเครื่องแต่งกายบริสุทธิ์ จากครรภ์ของอรุโณทัย น้ำค้างแห่งวัยหนุ่มเป็นของท่าน พระยาห์เวห์ทรงปฏิญาณแล้ว และจะไม่เปลี่ยนพระทัยของพระองค์ “เจ้าเป็นปุโรหิตเป็นนิตย์ ตามอย่างเมลคีเซเดค” องค์เจ้านายประทับที่ขวามือของท่าน พระองค์ทรงบดขยี้บรรดาพระราชา ในวันแห่งความกริ้วของพระองค์ พระองค์ จะทรงพิพากษาท่ามกลางบรรดาประชาชาติ ให้ซากศพเต็มไปหมด พระองค์จะทรงบดขยี้ผู้เป็นประมุข ทั่วแผ่นดินโลกอันกว้างขวาง กษัตริย์จะทรงดื่มจากลำธารข้างทาง สุดท้ายจะทรงมีชัยชนะ”
1)เพลงสดุดีนี้เดิมเข้าใจว่ากล่าวถึงดาวิด แต่ชาวยิวในสมัยต่อมาถือว่าเล็งถึงพระเมสิยาห์
2) พระเยซูคริสต์สนับสนุนความคิดและการตีความหมายของเพลงสดุดีว่า หมายถึงองค์พระเมสิยาห์
มธ.22:42-45 “ท่านทั้งหลายคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องพระคริสต์? พระองค์ทรงเป็นเชื้อสายของใคร?” พวกเขาตอบว่า “เป็นเชื้อสายของดาวิด” พระองค์ตรัสถามว่า “ถ้าอย่างนั้นทำไมดาวิดจึงทรงเรียกพระองค์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าโดยเดชพระวิญญาณ และทรงกล่าวว่า ‘พระเจ้าตรัสกับองค์พระผู้เป็นเจ้าของข้าพเจ้าว่า “จงนั่งที่ขวามือของเรา จนกว่าเราจะปราบศัตรูของท่านให้อยู่ใต้เท้าของท่าน”’ฉะนั้นถ้าดาวิดทรงเรียกท่านว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า ท่านจะเป็นเชื้อสายของดาวิดได้อย่างไร?”
1) บทเพลงสดุดีแท้จริงหมายถึง พระเยซูคริสต์นั่นเอง นั่นคือพระองค์ทรงเป็นองค์พระเมสิยาห์ที่ชาวยิวและชาวโลกรอคอย
4) พระเยซูคริสต์เป็นมหาปุโรหิตตามระบอบปุโรหิตที่ดำรงอยู่นิรันดร์
1) พระเยซูเป็นทั้งกษัตริย์
2) พระเยซูเป็นปุโรหิตเหมือนเมลคีเซเดค
3) พระเยซูเป็นพระเมสิยาห์องค์นิรันดร์
5) พวกยิวไม่มีบันทึกเกี่ยวกับการสืบเชื้อสายของเมลคีเซเดค ทั้ง ๆ ที่ปกติชาวยิวจะมีการบันทึกวันเกิด วันตายของบรรดาปุโรหิต
6) ระบอบปุโรหิตของเมลคีเซเดค ไม่ถูกจำกัดด้วย
1) เวลา หรือ
2) กฎเกณฑ์ ของชาติหนึ่งชาติใด
7) เมลคีเซเดค จึงเป็นดุจเงาสะท้อนถึงพระเยซูคริสต์ เพราะพระเยซูเป็นปุโรหิตสำหรับทุกคน ทุกยุค ทุกชาติ และทุกภาษา
ฮบ.7:3 “บิดามารดาและตระกูลของท่านไม่มีกล่าวไว้ วันเกิดวันตายก็เช่นกัน แต่เป็นเหมือนพระบุตรของพระเจ้า เมลคีเซเดคนั้นดำรงอยู่เป็นปุโรหิตตลอดไป”
7:15-17 “ข้อนี้ประจักษ์ชัดยิ่งขึ้นอีก เมื่อปรากฏว่ามีปุโรหิตอีกผู้หนึ่งตามแบบอย่างของเมลคีเซเดคเกิดขึ้น ผู้ซึ่งเป็นปุโรหิตโดยไม่ได้รับการแต่งตั้งตามธรรมบัญญัติ เรื่องเชื้อสาย แต่โดยฤทธิ์เดชแห่งชีวิตอันไม่สามารถจะทำลายได้ เพราะมีพยานกล่าวถึงพระองค์ว่า “พระเจ้าตรัสว่า ‘เจ้าจะเป็นปุโรหิตชั่วนิรันดร์ ตามแบบอย่างของเมลคีเซเดค’”
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer