แล้วพระวจนะของพระเจ้ามาถึงโยนาห์เป็นคำรบสองว่า “จงลุกขึ้นไปยังนีนะเวห์นครใหญ่ และประกาศข่าวแก่เมืองนั้นตามที่เราบอกเจ้า” (โยนาห์ 3:1-2)
โยนาห์ชาวอิสราเอล ได้รับมอบหมายงานให้ทำ แต่ท่านไม่อยากทำ ท่านถูกเรียกมาให้ไปประกาศพระวจนะของพระเจ้าที่เมืองนีนะเวห์ ซึงเป็นหนึ่งในเมืองที่ชื่อว่าชั่วร้ายที่สุดในโลก ชาวนีนะเวห์เป็นศัตรูของอิสราเอล ผู้เผยพระวจนะได้บอกประชาชนอิสราเอลว่าวันหนึ่งพวกอัสซีเรียจะมาบุกและมีชัยเหนือพวกเขา และนีนะเวห์เป็นเมืองหลวงของอัสซีเรีย
โยนาห์อาจจะคิดว่า “เดี๋ยวก่อน ถ้าไปประกาศพระวจนะกับพวกนั้น มันอาจกลับใจ และถ้าเกิดพวกมันกลับใจจริงๆ พระเจ้าก็จะไม่ลงโทษ แล้วมันก็จะมาบุกโจมตีประเทศเรา แต่ถ้าเราไม่ไป พวกมันก็ไม่กลับใจ แล้วก็จะถูกพระเจ้าพิพากษา อย่างน้อยศัตรูของเราก็ลดลงไปหนึ่งพวกแล้ว”
โยนาห์จึงพยายามเดินทางไปในทิศตรงข้าม ซื้อตั๋วเรือ (ทำบาปยังต้องจ่ายราคา) และเดินทางไปเมืองยัฟฟา ใกลจากสายพระเนตรของพระเจ้า แต่ก้าวใดก็ตามที่ออกห่างจากพระเจ้า ก็เป็นก้าวที่ถลำลงไปเรื่อยๆ พระเจ้าจึงให้เกิดพายุใหญ่ (พระคำของพระเจ้าต้องเป็นคำสุดท้ายเสมอ)
เมื่อโยนาห์ยอมรับว่าตนเองเป็นต้นเหตุของพายุ ท่านถูกโยนลงทะเล เรื่องที่เหลือเราก็รู้ๆกันอยู่ : “และพระเจ้าทรงกำหนดให้ปลามหึมาตัวหนึ่งกลืน โยนาห์เข้าไป โยนาห์ก็อยู่ในท้องปลานั้นสามวันสามคืน (โยนาห์ 1:17) โยนาห์กลับใจ ปลามหึมานั้นจึงสำรอกท่านออกมาไว้บนชายฝั่ง และในที่สุดโยนาห์ก็พร้อมจะไปทำตามที่พระเจ้าตรัสสั่ง
เราถูกเรียกให้ไปประกาศพระวจนะ แม้กับคนที่เราไม่ชอบหน้า คนที่ไม่เชื่อไม่ใช่ศัตรูของเรา เขาถูกพระของโลกนี้กักตัวเอาไว้เพื่อให้ทำตามที่ต้องการให้ทำ (ดู 2ทิโมธี 2:26) และจนกว่าพระเยซูจะเสด็จกลับมา หน้าที่ของเราคือเอื้อมออกไปหาพวกเขาครับ
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA9251