“นักการเมืองยื่นปลา พระราชา ทรงยื่นเบ็ด
นักการเมืองแจกแท็บเล็ต กษัตริย์แนะ เคล็ดวิชา
นักการเมืองห่วงอำนาจ มหาราช ห่วงประชา
นักการเมืองสร้างสัญญา องค์เจ้าฟ้า สร้างสรรธรรม
นักการเมืองหาเรื่องกิน องค์ภูมินทร์ หาเรื่องทำ
นักการเมืองยุให้รำฯ ในหลวงย้ำ ให้ทำดี
นักการเมืองมักแบ่งชั้น องค์เหนือหัว ไม่แบ่งสี
นักการเมืองทำสี่ปี องค์ภูมี ทำทุกวัน
นักการเมืองชอบแบ่งเสียง พ่อพอเพียง ชอบแบ่งปัน
นักการเมืองคิดสั้น ๆ องค์ราชันย์ คิดการไกล”
ผมอ่านบทประพันธ์นี้แล้วรู้สึกทึ่งในสิ่งที่ผู้เขียนได้ถ่ายทอดออกมาช่างให้ภาพพจน์ที่ชัดเจนแทบไม่ต้องพรรณนาเพิ่มเติมเลย!
ใจของพ่อและใจของนักการเมืองประเภทไม่ดีนี้ช่างแตกต่างกันอย่างราวฟ้ากับดิน
นักการเมือง(ไม่ดี)คิดถึงแค่ปลาเฉพาะหน้า แต่องค์ราชา(ที่ดี)คิดถึงความสามารถและอุปกรณ์ในการหาปลาในมื้อต่อ ๆ ไปที่ช่วยให้มีปลากินอย่างยาวนานถึงในอนาคต !
นักการเมือง คิดถึงแต่เอาเงินของรัฐของแผ่นดินมาหากินหาประโยชน์ระยะสั้น และใช้เงินเหล่านั้นทำโครงการแจกปัจจัยซื้อความนิยมที่ส่งผลทำให้ประชาชนเสียนิสัยและอ่อนแอลง แต่พระราชาที่มีปัญญาห่วงใยปวงประชาในแผ่นดินและคิดถึงโครงการที่สร้างคุณประโยชน์ระยะยาวแก่พสกนิกรและแผ่นดิน ที่สร้างนิสัยให้รู้จักประมาณตนและช่วยตัวเองได้!
ผมชื่นชมที่ผู้ประพันธ์ได้กล่าวถึงอีกหลาย ๆ จุดที่สะกิดใจผู้อ่านได้เป็นอย่างดี หวังว่าผู้อ่านทุกคนจะมีจิตสำนึกในคำเตือนสติเหล่านั้น!
ขอให้เรามาสนับสนุนส่งเสริมสิ่งดีที่องค์ราชาได้เริ่มต้นไว้ และต่อยอดให้ยิ่งสมบูรณ์ ไปไกลกว่านั้นในทางสร้างสรรค์ และช่วยกันปลุกจิตสำนึกของประชาชนไทยให้พร้อมใจกันปฏิเสธเศษ ผลประโยชน์ที่นักการเมืองทุจริตหยิบยื่น ทั้ง ๆ ที่เป็นของประชาชน โดยที่พวกเขายักยอกฉ้อราษฏร์บัวหลวงกันไปอย่างมหาศาล โดยไม่รู้สึกละอายต่อบาป
จึงสมควรที่เราทั้งหลายจะต้องปลุกประชาชนให้มีจิตสำนึกในความดีความชั่ว พร้อมใจกันต่อต้านคอรัปชั่น ไม่ขอรับหรือมีส่วนร่วมใด ๆ ในทางเสื่อมทราม ผิดศีลธรรม จรรยา แต่จะไม่ใช้ความรุนแรงหรือทำผิดกฏหมาย!
ใช่ครับ! เราควรยอมรับอำนาจปกครองของผู้บริหารประเทศ แต่เราก็ไม่ควรนิ่งเฉยปล่อยให้ คนเหล่านั้นทำร้ายประเทศชาติ เราจึงควรทำทุกอย่างด้วยวิถีแห่งอหิงสา ปลอดจากโทสะจริตคิดร้ายต่อผู้ใดในการแสดงความไม่เห็นด้วย!
แท้จริงแล้ว การทำลายคนชั่วนั้นไม่ยาก แต่นั่นยังไม่ท้าทายมากเท่ากับการได้เปลี่ยนคนเลวคนชั่วนั้นให้กลับกลายเป็นคนดี!
วันนี้ ขอพระเจ้าทรงใช้พวกเราให้เป็นพลังส่วนหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงสังคมนี้ให้ดีขึ้น โดยขอให้เราทุกคนยืนอยู่เคียงข้างพระราชา!
ดังสุภาษิตที่ว่า…
“ศักดิ์ศรีของพระราชาอยู่ในมวลชน หากไร้ประชาชน เจ้านายก็วิบัติ!”
(In a multitude of people is the glory of a king, but without people a prince is ruined.) -สุภาษิต 14:28
อย่างน้อยก็ขอให้เรามาเริ่มต้นอย่างง่าย ๆ โดยการรณรงค์ให้นักการเมืองได้อ่านบทประพันธ์นี้ และเกิดสำนึกที่จะปรับเปลี่ยนวิถีคิดวิถีปฏิบัติให้ดีขึ้น!
จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, e-mail thongchaibsc@gmail.com