แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า (ฮะบากุก 3:17-18)
ไม่ว่าอะไรที่เราได้มาในชีวิต ความแปลกใหม่จะลดลงไปตามเวลา เช่นรถยนตร์คันใหม่ คุณชอบกลิ่นรถใหม่ๆหรือไม่? คุณหาข้ออ้างเอารถออกไปขับบ่อยๆ คุณไม่ยอมเอาอะไรมากินในรถ หลังจากหนึ่งเดือนผ่านไป คุณไปทำงานสาย ต้องกินอาหารเช้าในรถ และที่แน่ๆมีน้ำหกเกิดขึ้นครั้งแรกในรถ พอเวลาผ่านไป มีรอยขีดที่ประตู ต่อมารอยบุบ สีถลอกที่นั่นนิดที่นี่หน่อย หลังจากนั้นรถคันนี้ไม่ก็ไม่น่าตื่นเต้นอีกต่อไป
เราน่าจะเอาตัวอย่างเปรียบเทียบนี้มาใช้กับทุกสิ่งในชีวิต ไม่ว่าจะใหญ่โต จะเท่ หรือเร่งความเร็วได้แค่ไหน – ไม่ว่าจะอย่างไร ทุกอย่างก็สูญเสียความใหม่ไปตามกาลเวลา ดังนั้นถ้าคุณคิดว่าความสุขเกิดจากสิ่งที่คุณมี คุณก็จะพบว่าคุณอยากได้สิ่งใหม่หรือสิ่งอื่นมาแทนที่ตลอดเวลา
แต่พระคัมภีร์สอนว่าความสุข – ความสุขแท้ – มาจากผู้ที่เรารู้จัก ลองมาฟังถ้อยคำของฮะบากุกกัน ”แม้ต้นมะเดื่อไม่มีดอกบาน หรือเถาองุ่นไม่มีผล ผลมะกอกเทศก็ขาดไป ทุ่งนามิได้เกิดอาหาร ฝูงสัตว์ขาดไปจากคอก และไม่มีฝูงวัวที่ในโรง ถึงกระนั้นข้าพเจ้าจะร่าเริงในพระเจ้า ข้าพเจ้าจะเปรมปรีดิ์ในพระเจ้าแห่งความรอดของข้าพเจ้า” (ฮะบากุก 3:17-18)
ผมขอปรับให้ทันยุคหน่อยว่า “ แม้ธุรกิจจะไปได้ช้า และไม่มีโอกาสในอนาคตอันใกล้ แม้การลงทุนจะละลายหายไป และรถสตาร์ทไม่ติด ข้าพเจ้าก็ยังเปรมปรีดิ์ในองค์พระผู้เป็นเจ้า
ความเปรมปรีดิ์และพึงพอใจในชีวิต ไม่ได้มาจากสิ่งที่เรามี มาจากผู้ที่เรารู้จัก
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514