ฟีลิปจึงวิ่งเข้าไปใกล้ และได้ยินท่านอ่านหนังสืออิสยาห์ผู้เผยพระวจนะ จึงถามว่า “ซึ่งท่านอ่านนั้นท่านเข้าใจหรือ” ขันทีจึงตอบว่า “ถ้าไม่มีใครอธิบายให้ ที่ไหนจะเข้าใจได้” ท่านจึงเชิญฟีลิปขึ้นนั่งรถกับท่าน (กิจการ 8:30-31)
เมื่อฟีลิปแบ่งปันพระกิตติคุณกับขันทีชาวเอธิโอเปีย ท่านได้ทำบางสิ่งที่เรามักหลงลืมในการแบ่งปันข่าวประเสริฐ นั่นคือการใช้ไหวพริบ คริสเตียนหลายคนพ่นทุกอย่างที่รู้ใส่อีกฝ่าย ไม่ได้สนใจความต้องการของผู้ฟัง ไม่มีการพูดคุยสร้างสัมพันธ์ พูดง่ายๆคือไม่สร้างสะพานแห่งมิตรภาพ พวกเขาพูดถึงข้อโต้แย้งต่างๆในเรื่องความเชื่อ พูดในสิ่งที่ตนเองอยากพูด จบแล้วก็รู้สึกประทับใจในตนเอง ขณะที่อีกฝ่ายอยากให้หุบปากลงไวๆ จะได้ไปให้พ้นเสียที
แล้วต่อมา คริสเตียนก็คิดว่า “ดูสิ พอได้ยินที่เราพูดถึงกับอึ้งไปเลย เถียงไม่ขึ้น เรานี่เก่งจริงๆ” เปล่า ไม่เก่งเลยครับ ที่จริงแล้วออกจะโง่ด้วยซ้ำ เพราะหน้าที่ของเราไม่ได้เพื่อเถียงเอาชนะ แต่เป็นการนำวิญญาณกลับสู่อาณาจักรสวรรค์
ถ้าเราต้องการประกาศข่าวประเสริฐให้เกิดผล เราจำเป็นต้องให้ผู้ฟังมีส่วนร่วมด้วย จอมเจ้านายแห่งการประกาศ องค์พระเยซูคริสต์ทรงทำอย่างไรเมื่อพบกับหญิงสะมาเรียที่บ่อน้ำ? พระองค์ทรงสนทนากับนาง ทรงเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ พระองค์ตรัส – พระองค์รับฟัง แล้วสตรีนางนั้นก็เทใจให้พระองค์ แล้วพระองค์ก็เปิดเผยความจริงให้เธอรู้
เมื่อเราแบ่งปันข่าวประเสริฐ ต้องเป็นการพูดคุยสนทนา ไม่ใช่ประกาศแต่เรื่องของเราฝ่ายเดียว ไม่ใช่พูดอยู่คนเดียว ต้องรับฟังด้วย ต้องเป็นการนำเสนอพระวจนะอย่างเหมาะสม และถูกจังหวะเวลา ด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความรักเพื่อให้ผู้ฟังกล้าเปิดใจให้พระเยซู
คงไม่มีใครเข้าแผ่นดินสวรรค์ได้เพราะเถียงชนะ แต่พวกเขาจะเชื่อเพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ชี้ให้พวกเขาเห็นความบาปของตนเอง หน้าที่ของเราคือนำพวกเขาเข้าถึงหัวใจของข่าวประเสริฐ
เมื่อ อ.เปาโลประกาศกับชาวกรีก ท่านใช้ประสบการณ์และสถานการณ์รอบตัวให้เป็นประโยชน์ และนำเสนอพระกิตติคุณให้สอดคล้องลงตัว ท่านใช้สิ่งที่เรียกว่าไหวพริบหรือกลยุทธครับ — เราเองก็ต้องทำเช่นกัน
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514