“ใจที่ให้อภัยคือ ใจที่ยอมปล่อยไปในยามที่คุณต้องการยึดไว้
ใจที่แตกสลายคือ ใจที่ยึดไว้ในยามที่คุณควรจะปล่อยไป!”
(Forgiveness is letting go when you want to hold on.
Heartbreak is holding on when you ought to let go.)
มีคนจำนวนไม่น้อยที่กำลังเจ็บปวดหรือทนทุกข์ขมขื่นกับการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือหลายคน!
และความรู้สึกเหล่านั้นกำลังก่อเกิดเป็นความแค้นที่มุ่งคิดทำร้ายหรือทำลายผู้อื่น ไม่ว่าจะมีการลงมือตามความรู้สึกหรือความคิดนั้นแล้วหรือยัง
แต่ความรู้สึกที่รุนแรงเหล่านั้นกำลังก่อเกิดภัยให้กับตัวของผู้นั้นเอง!
เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไร อย่างไร สิ่งที่เกิดไปแล้วจะไม่มีวันแก้ไขหรือเปลี่ยน แปลงให้เหมือนเดิมได้ตลอดกาล!
ความรู้สึกโกรธแค้นที่เขามีอยู่จึงไม่ได้ช่วยอะไรนอกจากจะเผาผลาญทำลายตัวของเขาเองเท่านั้น
และสิ่งแรกที่จะถูกเผาไหม้ก่อนสิ่งใดก็คือ “สติสัมปชัญญะ” และ “จิตสำนึกผิดชอบ” (มโนธรรม) ของเขาเอง ซึ่งกำลังถูกทำลาย และถูกครอบงำโดยอารมณ์แห่งการทำลายล้าง!
จากนั้นสิ่งที่จะหายวับตามไปด้วยก็คือ “สันติสุข” ในจิตใจ และหากไม่ระมัดระวังให้ดี สิ่งที่สำคัญที่สุดที่จะสูญเสียตามไปด้วยก็คือ “ชีวิต” ของเขาเอง เพราะตรอมตรมจนจิตใจเหี่ยวเฉาหรือใจสลายจนตายไป !
และที่น่ากลัวยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ความโกรธแค้นนั้นอาจนำไปสู่การทำลายล้างชีวิตและทรัพย์ สินของคนอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งคู่กรณี และไม่ใช่คู่กรณี!
ฉะนั้น การยึดเอาความโกรธแค้นหรือใจที่ไม่ยอมให้อภัยจึงเปรียมประดุจการกอดระเบิดเวลาเอาไว้กับอก และรอให้มันระเบิดออกมา! และคนแรกที่จะตายก็คือ ตัวของเราเองนั่นเอง!
วิธีที่จะทำให้ตัวของเรารอดตายจากระเบิดพลีชีพนั้นก็คือ จงรีบนำระเบิดนั้นออกไปกำจัดหรือไปทิ้งไว้ในที่ ๆ ปลอดภัย ซึ่งจะไม่ทำร้ายผู้คนหรือทำลายสิ่งของ!
ดังนั้น วันนี้ขอให้เรามาช่วยชีวิตตัวเราเอง โดยการให้อภัยแก่คนทื่ทำเราเจ็บปวดหรือขมขื่น ให้เร็วที่สุด จะดีกว่าดีไหม!
ขอให้เราปล่อยความโกรธแค้นนั้นออกไปให้ห่างไกลจากชีวิตของเรา!
และหากว่าคุณต้องการการแก้แค้นที่ทรงพลานุภาพมากที่สุดก็ขอให้คุณจงทำตามคำแนะนำในพระคัมภีร์ที่ว่า…
“อย่าทำชั่วตอบแทนชั่วแก่ผู้หนึ่งผู้ใดเลย แต่จงมุ่งกระทำสิ่งที่ใครๆ ก็เห็นว่าดี ถ้าเป็นได้ คือเท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน ดูก่อน ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าทำการแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้ แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงพระอาชญา เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบสนอง”* อย่าแก้แค้นเลย ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประทาน ถ้าเขากระหายน้ำก็จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะว่าการทำอย่างนั้น เป็นการสุมถ่านที่ลุกโพลงไว้บนศีรษะของเขา* อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี” (โรม 12:17-21)
การที่คุณกระทำดีแทนการแก้แค้นกลับกลายเป็นการแก้แค้นที่ดับแค้นที่ได้ผลดีมากที่สุดในโลก เพราะจะเป็นการสร้างความทรมานใจที่สุดในชีวิตของคนที่คุณแค้น ทำให้เขารู้สึกละอายและเสียใจที่ทำให้คุณเจ็บปวดและอาจกลายจากศัตรูมาเป็นมิตร แล้วนั่นจะทำให้คุณรู้สึกสะใจสุด ๆ กับชัยชนะที่แท้จริง!
ไม่เชื่อลองทำดูสิครับ!
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
twitter.com/thongchaibsc, e-mail <thongchaibsc@gmai.com>