“จงจำไว้ว่า … ต้องใช้ลมพายุพัดซัดกระหน่ำ
จึงจะทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งกับความนิ่งสงบที่มีมาก่อนหน้านี้”
(Remember, it takes the storm to make you appreciate the calm that came before ti.!)
บางครั้งเราไม่ซาบซึ้ง ไม่ชื่นชมกับสิ่ง(ดี)ที่เรามี จนกระทั่ง เราสูญเสียสิ่งนั้นไป เราจึงสำนึก!
มีมากมายหลายสิ่งนักที่เราปฏิบัติต่อสิ่งเหล่านั้นอย่างไม่เห็นคุณค่า!
ในสำนวนภาษาอังกฤษมีประโยชน์หนึ่งที่ย้ำเตือนสติเราได้ดีในเรื่องนี้ นั่นคือสำนวนที่ว่า “Take it for granted!”
คำเตือนก็คือ อย่าให้คุณ “take it for granted” กับสิ่งที่ใครคนใดคนหนึ่งที่เฝ้ากระทำสิ่งดีบางสิ่งให้กับคุณอย่างซื่อสัตย์ภักดีมาตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนที่คุณรักหรือที่รักคุณ!
คำว่า “take it for granted” นี้หมายถึง การที่เราปฏิบัติต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ปฏิบัติต่อเราอย่างดีมาตลอด โดยที่เรามักไม่ได้แสดงความชื่นชมซาบซึ้งใด ๆ ต่อเขาหรือเธออย่างที่คุณพึงกระทำ (ตามความคิดของเขาไม่ใช่ความคิดของคุณ)
ผลที่ตามมาก็คือ บุคคลคนนั้นค่อย ๆ หมดและสูญเสียกำลังใจที่จะกระทำสิ่งดีเหล่านี้ต่อไปและหมดจิตหมดใจที่จะอยู่เคียงข้างคุณ อีกต่อไป…
และในที่สุด เขาหรือเธอก็จากคุณไป!
ความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นกับคุณก็คือ “ช็อค”!!!..
แต่ทุกอย่างดูเหมือนว่า จะสายเกินแก้ไปเสียแล้ว เพราะว่า คุณรู้สึกตัวช้าเกินไป! คุณได้สูญเสียสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณไปแล้ว เพราะความชะล่าใจ!
สิ่งที่เกิดขึ้นเหมือนลมพายุใหญ่ที่โหมกระหน่ำ ซัดจนคุณล้มคว่ำลงแบบไม่ทันได้ตั้งตัว! และทุกอย่างที่ตามมาจากมรสุมลูกนี้ก็คือ ความเสียหายทั้งกายและใจอย่างที่ไม่อาจจะสรรหาคำใดมาบรรยายได้อย่างเหมาะสม
ใช่ครับ! ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว!
คุณคงจะเริ่มคิดถึงความสุขสงบ ราบรื่น ความอบอุ่น ที่เคยมีมาด้วยกัน แต่บัดนี้ทุกอย่างกลับกลายเป็นอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับคืนมาอีก!
…ดังนั้น หากว่ามรสุมดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นกับชีวิตของคุณก็อย่าประมาท จงเตือนตัวของคุณให้ตื่นตัวขึ้น นั่นคือ ในวันนี้ ก่อนทุกอย่างจะสายเกินไป ก่อนที่มรสุมหรือพายุลูกใหญ่จะตั้งเค้า และซัดกระหน่ำคุณจนตั้งรับไม่ทัน จงรีบแก้ไขตัวของคุณจงมีความชื่นชมต่อ “คน ๆ นั้น” ที่คุณ “take it for granted” ต่อสิ่งที่เขาหรือเธอปฏิบัติต่อคุณมาอย่างยาวนานและพูดหรือแสดงความรู้สึกซาบซึ้งนั้นออกมาให้เขาสัมผัสได้อย่างชื่นใจในเวลาที่ผ่านมา!
และจงรีบเร่งโดยด่วนเป็นพิเศษ หากว่าเขาหรือเธอคือ คู่สมรสของคุณ!
ในพระธรรมปัญญาจารย์ เตือนสติและกำชับคู่สมรสไว้ว่า …
“เจ้าจงอยู่กันด้วยความชื่นชมยินดีกับภรรยา(สามี) ซึ่งเจ้ารักตลอดชีวิตอนิจจังของเจ้า ซึ่งพระเจ้าได้ประทานให้แก่เจ้าภายใต้ดวงอาทิตย์ ตลอดปีเดือนอนิจจังของเจ้า ด้วยว่านั่นเป็นส่วนในชีวิตและในการงานของเจ้า ซึ่งเจ้าได้ออกแรงกระทำภายใต้ดวงอาทิตย์!” (ปัญญาจารย์ 9:9)
ขอย้ำอีกครั้ง อย่ารอจนกระทั่งชีวิตครอบครัวของคุณถูกซัดกระหน่ำจนทุกอย่างพังทลายลงแล้วจึงค่อยรู้สึกซาบซึ้งชื่นชมกับสิ่งที่เคยมี!
“จงปฏิบัติต่อสิ่ง(คน)ที่คุณกำลังมีอยู่ในเวลานี้ให้ดีที่สุดก่อนที่สิ่งนั้น (คน)จะกลับกลายเป็นสิ่ง(คน)ที่คุณเคยมีอยู่ในเวลานั้น!”
ดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์– twitter.com/thongchaibsc
fanpage@thongchaibsc , BB 2381A496