“…ถ้าผู้ใดจะเกณฑ์ท่านให้เดินทางไปหนึ่งกิโลเมตร ก็ให้เลยไปกับเขาถึงสองกิโลเมตร” (มัทธิว 5:41)
ผมเคยได้ยินเรื่องเล่าดีๆเกี่ยวกับพี่น้องคริสเตียนที่โบสถ์ท่านหนึ่ง เป็นนักกฎหมายที่ต้องขับรถเกือบสองชั่วโมงเพื่อไปให้คำปรึกษาด้านกฎหมายกับลูกความ เมื่อไปถึงเขาใช้เวลาไปเกือบตลอดบ่ายให้คำปรึกษากับครอบครัวนี้ และเมื่อธุระจบลง เขาก็ขึ้นรถและมุ่งหน้าตรงกลับบ้าน
ขับไปตามถนนได้หลายไมล์ก่อนจะรู้สึกว่าพระวิญญาณของพระเจ้าเรียกร้องให้เขากลับไปที่ครอบครัวนั้นอีกครั้ง ไปแบ่งปันเรื่องราวของพระเจ้า เขาจึงเลี้ยวรถกลับ มุ่งไปที่บ้านหลังนั้นอีกครั้ง นั่งลงคุยกับครอบครัว แบ่งปันคำพยาน และในที่สุดก็ได้นำทั้งครอบครัวมาเชื่อในพระเยซูคริสต์
การเชื่อฟังนั้นไม่ง่ายเสมอไป จริงมั้ย? เพราะมันไม่ค่อยสะดวกนักสำหรับนักกฎหมายท่านนี้ที่จะเลี้ยวรถกลับไปแบ่งปันเรื่องราวของพระคริสต์กับลูกความ แต่เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องการให้ทำ และบ่อยครั้ง พระเจ้าทรงเรียกคริสเตียนให้เดินไปไกลอีกหนึ่งกิโลเมตรเพื่อสำแดงความรักของพระคริสต์
บางทีคุณอาจรู้สึกรีรอระหว่างการงานของพระเจ้ากับความสะดวกสบายของตนเอง แต่พระเยซูตรัสไว้ชัดเจน … ให้ไปอีกหนึ่งกิโลเมตร แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าคุณรักพวกเขาโดยยอมสละ “ความสะดวกสบาย” ส่วนตัว ให้สิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นพันธกิจของพระเจ้า ในขณะที่คุณหว่านเมล็ดพันธ์แห่งพระกิตติคุณออกไปในชีวิตของผู้คนมากมายที่คุณพบระหว่างทาง
อย่าให้ “ความไม่สะดวกสบาย” กันคุณออกไปจากการเชื่อฟัง ให้เดินเพิ่มไปมากกว่าหนึ่งกิโลเมตร เพื่อสำแดงความรักของพระคริสต์ต่อผู้อื่น
โดย: Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org
ข่าวประชาสัมพันธ์
- ไม่ต้องพูดถึงเดินเพิ่มไปอีกหนึ่งกิโลเมตร คริสเตียนบางคนรากงอก แน่นิ่งกับที่ไม่เดินไปไหนเลย – อย่าเป็นอย่างนั้นกันนะคะ ขอพระเจ้าอวยพร