28 มกราคม 2012
สวัสดีค่ะ
มีคนในกลุ่มเซลเลิฟอิสเคยนำประโยคที่ว่า “Direction determines destination” มาแบ่งปันให้ฟัง ความหมายง่ายๆก็แปลว่า “ทิศทางเป็นตัวกำหนดจุดหมายปลายทาง”พูดให้เห็นภาพก็คือถ้าเราอยู่ กทม.แล้วเดินทางขึ้นเหนือ เราคงไม่มีวันจบลงที่สุไหงโกลกเป็นแน่ เว้นเสียแต่เดินทางไปเรื่อยๆตามความกลมของโลกผ่านเชียงราย แม่ฮ่องสอน ขึ้นสู่ขั้วโลกเหนือผ่านซีกโลกอีกฝั่ง มาทางขั้วโลกใต้ แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ ซักวันหนึ่ง … ซักวันหนึ่ง ถ้าไม่ตายเสียก่อนอาจเจอสุไหงโกลกก็เป็นได้ อันนี้เราพูดถึงกรณีที่โลกกลม
แต่ทิศทางนี้ไม่ได้หมายถึงการเดินทางไปบนเส้นทางรอบโลก แต่หมายถึงเส้นทางที่เราเลือกตัดสินใจเดินทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เช่น ถ้าเราเดินในเส้นทาง ซื้อ ขาย ขน หรือเสพย์ยาเสพย์ติดก็แปลว่าเราอาจจบลงที่ในคุกบนโลก ถ้ารอดไปได้ก็ยังมีที่อีกแห่งรออยู่ในโลกหน้า ถ้าเราเลือกเดินอย่างบากบั่นในถนนแห่งการศึกษาเราก็จะไปถึงวันที่ได้รับปริญญา และหางานดีๆทำได้ และถ้าเลือกว่า “เราจะเดินในทางของพระเยซู” เราก็จะได้รับตามสิทธิในเนื้อเพลงที่พวกเราชอบร้องกัน
แต่ก็มีคนบางจำพวกที่ชอบย่ำอยู่กับที่ ไม่อยากเดินหน้า ไม่อยากเจออุปสรรค ไม่ต้องการบากบั่น อยากอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ คนจำพวกนี้ไม่ว่ารู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เขากำลังเดินถอยหลังครับ เพราะในทันทีที่มีคนเดินหน้าจากเราไป หรือคนที่อยู่ด้านหลังเดินแซงขึ้นไป เราก็จะเป็นเหมือนคนเดินถอยหลังโดยอัตโนมัติ ลองนึกสภาพคนเดินถอยหลังสิ เดินก็ไม่ถนัด ข้างหลังก็ไม่มีตา อาจเดินไปจนหลังกระแทก หรือหงายท้องก้นจ้ำเบ้า หรือแย่สุดๆก็อาจตกลงเหวไป พระเจ้าไม่เคยสอนให้เราเดินถอยหลังหรือย่ำอยู่กับที่ แต่พระวจนะของพระองค์บอกว่า
มิใช่ว่าข้าพเจ้าได้แล้ว หรือสำเร็จแล้ว แต่ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไป เพื่อข้าพเจ้าจะได้ฉวยเอาไว้เป็นของตน อย่างที่พระเยซูคริสต์ได้ทรงฉวยข้าพเจ้าไว้เป็นของพระองค์แล้ว ดูก่อนพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าได้ฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมาแล้วเสีย และโน้มตัวออกไปหาสิ่งที่อยู่ข้างหน้า ข้าพเจ้ากำลังบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัล ซึ่งในพระเยซูคริสต์พระเจ้าได้ทรงเรียกจากเบื้องบน ให้เราไปรับ เราซึ่งเป็นผู้ใหญ่แล้วจึงคิดอย่างนั้น และถ้าท่านคิดอย่างอื่น พระเจ้าก็จะทรงโปรดให้เรื่องนั้นประจักษ์แก่ท่านด้วย แต่เราได้แค่ไหนแล้ว ก็ให้เราดำเนินตรงตามนั้นต่อไป (ฟีลิปปี 3:12-16)
พระเจ้าไม่ได้ให้เราเดินบากบั่นมุ่งไปอย่างไร้ประโยชน์ นอกจากได้รับประสบการณ์ต่างๆบนเส้นทางที่เราเดินแล้ว พระองค์สัญญาถึงรางวัลที่รอเราอยู่ปลายทางด้วย ดังนั้นเราจะไม่ย่ำอยู่กับที่ เราจะเลือกเดินในทางของ
พระเยซูกันดีมั้ยจ๊ะ?
– ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ / ป้านุ้ย
ข่าวประชาสัมพันธ์
- ใครต้องการบทเรียนเรื่องผู้เผยพระวจนะที่พวกเราเรียนกันเมื่อวาน ขอเป็นอีเมล์ได้ที่ อ.วรรรณ ส่วนบัตรสำหรับเข้าร่วมสัมมนาผู้นำของ GLS ได้ที่พี่แดง เป็นสัมมนาที่ดีมากนะคะสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการงานของเราได้