ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นความรู้สึกมั่นใจว่าสิ่งที่ยังไม่เห็นนั้นมีจริง (ฮีบรู 11:1)
เมื่อเขาเริ่มต้นดื่ม เธอและสามีไม่แน่ใจว่าควรทำอย่างไร หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกจับและพบว่าติดยาเสพย์ติด เป็นครั้งแรกในชีวิตที่มิคกี้รู้สึกว่าตนเองเป็นแม่ที่ทำอะไรไม่ได้เลย
ลูกชายของมิคกี้เติบโตมาในโบสถ์ แถมยังเคยเป็นผู้นำกลุ่มอนุชน ที่บ้านเป็นที่ๆปลอดภัยเพราะดำเนินอยู่ในความเชื่อ แต่แล้วลูกชายของเธอก็เริ่มตกต่ำลงฝายวิญญาณ ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามแค่ไหนก็ตาม คืนที่ลูกงัดเข้าไปในร้านค้าเล็กๆของครอบครัวและกวาดเงินไปจนเกลี้ยง คืนนั้นเป็นคืนที่พ่อแม่สุดจะทน
เมื่อมิคกี้มองไปรอบตัวที่ในโบสถ์ เธอตระหนักดีว่ามีแม่อื่นๆอีกหลายคนกำลังต่อสู้ดิ้นรนในปัญหาที่คล้ายคลึงกัน พวกเธอจึงตั้งกลุ่มอธิษฐานขึ้นมาชื่อว่า “กลุ่มเพื่อบุตรหลงหาย” พวกเขาจะพบกันเพื่ออธิษฐานทุกคืนวันพฤหัสฯ เป็นเวลาหนึ่งปี สองปี แล้วก็สามปี … มิคกี้เห็นลูกของคนอื่นเริ่มกลับเข้ามาเดินในความเชื่อ แต่คำอธิษฐานสำหรับลูกของเธอเอง ดูล่องลายหายไปในอากาศ แต่เธอก็ยังไปร่วมกลุ่มอธิษฐาน ไปให้กำลังใจคุณแม่คนอื่นๆอย่างสม่ำเสมอ
ฉันอยากจะให้เพื่อนรักอย่างมิคกี้มีกล้องวิดีโอที่ถ่ายให้เห็นประพฤติกรรมของลูกตลอดช่วงเวลาอันมืดมน อยากให้มิคกี้ได้เห็นว่าลูกชายค่อยๆฟื้นคืนกลับมาในความเชื่อ เอาชนะยาเสพย์ติด และทุกวันนี้กลับกลายมาเป็นลูกพระเจ้าอย่างเต็มตัวอีกครั้งได้อย่างไร แต่ความเป็นจริงคือมิคกี้ไม่มีกล้องวิดีโอนั้น เธอมีแค่ความเชื่อ ความเชื่อที่ถูกทดสอบครั้งแล้ว ครั้งเล่า มิคกี้รู้ดีถึงทางเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย แต่เธอก็อธิษฐานต่อไป ยังยึดมั่นอยู่ในความเชื่อ และต้องตัดสินใจเลือกทำในสิ่งที่ยาก บังคับขอบเขตให้กับตัวเอง รับฟังคำพยานจากบรรดาแม่ๆที่ลูกนิสัยดี ไม่มีเกเร และไม่มีวันเข้าใจความรู้สึกของแม่ที่เผชิญทุกข์อย่างเธอ
มิคกี้เล่าว่าในช่วงเวลาแห่งความทุกข์นั้นเธอเริ่มมองเห็นลูกผ่านสายตาของความเชื่อ เธอรู้ดีว่าตัวเธอไม่มีอำนาจใดที่จะเปลี่ยนลูกชายได้ แต่พระเจ้าสามารถเป็นแหล่งแห่งกำลังให้เธอขณะเดินไปบนเส้นทางแห่งความทุกข์ใจ บ่อยครั้งเราชอบพูดว่าที่เราทำๆนั้นก็เพื่อลูก ถ้ามีใครสักคนบอกกับมิคกี้ว่าต้องใช้เวลาอธิษฐานเป็นปีๆ และยึดมั่นในความเชื่อทั้งๆที่ไม่เห็นเค้าลางใดในการเปลี่ยนแปลง ฉันสงสัยว่าเธอจะยังทำได้มั้ย? มิคกี้บอกทำได้ และเธอจะทำ
บางทีคุณอาจเป็นเหมือนเพื่อนรักของฉัน คุณเลี้ยงลูกมาด้วยความรัก มีบ้านที่อบอุ่นปลอดภัยให้ นำพวกเขาไปหาพระเยซู แต่แล้วพวกเขาก็หลงทางหายไป วันนี้ฉันอยากจะให้กำลังใจคุณ พระบิดาทรงรักคุณและลูกๆของคุณ ในอุปมาเรื่องบุตรน้อยหลงหายของพระเยซู (ลูกา 15:11−32) เราเห็นว่าบุตรน้อยคนนั้นตกต่ำลงจนขีดสุดท้าย แต่แล้วเขาก็ตัดสินใจกลับไปบ้าน และนี่คือสิ่งที่ผู้เป็นพ่อตอบสนอง
แล้วเขาก็ลุกขึ้นไปหาบิดาของตน แต่เมื่อเขายังอยู่แต่ไกล บิดาแลเห็นเขาก็มีความเมตตา จึงวิ่งออกไปกอดคอจุบเขาฝ่ายบุตรนั้นจึงกล่าวแก่บิดาว่า ‘บิดาเจ้าข้า ข้าพเจ้าได้ผิดต่อสวรรค์และต่อท่าน ข้าพเจ้าไม่สมควรจะได้ชื่อว่าเป็นลูกของท่านต่อไป’ แต่บิดาสั่งบ่าวของตนว่า ‘จงรีบไปเอาเสื้ออย่างดีที่สุดมาสวมให้เขา และเอาแหวนมาสวมนิ้วมือ กับเอารองเท้ามาสวมให้เขา จงเอาลูกวัวอ้วนพีมาฆ่าเลี้ยงกัน เพื่อความรื่นเริงยินดีเถิด เพราะว่าลูกของเราคนนี้ตายแล้ว แต่กลับเป็นอีก หายไปแล้วแต่ได้พบกันอีก’ เขาทั้งหลายต่างก็มีความรื่นเริงยินดี” (ลูกา 15:20−24)
พระเยซูทรงเล่าอุปมานี้เพื่อสำแดงถึงความรักของพระบิดาในฟ้าสวรรค์ ความงามของคุณแม่นักอธิษฐานไม่ได้หลงหายไปกับการเลือกที่ผิดพลาดของลูกชาย เมื่ออธิษฐานคุณไม่ได้ตัวคนเดียว พระบิดาทรงคอยอยู่เหมือนกับที่คุณคอยพระองค์ และพร้อมจะรับลูกของคุณเข้าสู่อ้อมกอดของพระองค์อีกครั้ง
โดย: T Suzanne Eller
Encouragement for today: www.crosswalk.com
ข่าวประชาสัมพันธ์
- อยากให้ทุกๆคริสตจักรมีกลุ่มอธิษฐานเผื่อลูกๆ ไม่ว่าเขาจะหลงหายไป หรือยังอยู่ในทางของพระเจ้า เพราะดูข่าวสารในทุกวันนี้แล้วบอกได้คำเดียว “น่าเป็นห่วงค่ะ” − ขอพระเจ้าอวยพร