“และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือพระวจนะของพระเจ้า จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน” (เอเฟซัส 6:16-18)
ไม่นานมานี้ ผมได้คุยกับสมาชิกโบสถ์ท่านหนึ่งว่าเดี๋ยวนี้ทำไมคนไม่ค่อยอธิษฐานกัน หลังจากนั้นไม่นาน เราทั้งคู่ก็สรุปกันว่าคำตอบนั้นธรรมดามาก เพราะพวกเขาส่วนใหญ่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับอาวุธฝ่ายวิญญาณ
คุณจะเห็นว่า ความเข้าใจเรื่องสงครามฝ่ายวิญญาณเป็นกุญแจไขไปสู่การอธิษฐาน นักเขียนท่านหนึ่งกล่าวว่า “คำอธิษฐานเป็นดังเครื่องรับส่งวิทยุมือถือในเวลาสงคราม ไม่ใช่อินเตอร์คอมที่ใช้แค่ในบ้าน” และเมื่อเราคิดว่าการอธิษฐานเป็นหนทางหนึ่งที่แค่ร้องขอความสบายใจ และลดปัญหาให้น้อยลง เราจึงหยุดอธิษฐานตามแบบในพระคัมภีร์ เราอธิษฐานแบบสบายๆตามใจเราเอง
อีกเหตุผลหนึ่งที่ผมคิดว่าทำไมหลายคนไม่อธิษฐาน เป็นเพราะพวกเขาไม่มีความเชื่อพอที่จะอธิษฐาน สำหรับพวกเขา จะอธิษฐานหรือไม่อธิษฐานก็ไม่สร้างความแตกต่าง แต่ถ้าพวกเขาเชื่อว่าพระเจ้าทรงเคลื่อนไหวต่อคำอธิษฐาน จะไม่มีสิ่งใดขวางพวกเขาให้หยุดอธิษฐานได้เลย
แค่มีความเชื่อในพระเจ้าเท่านั้นไม่พอ คุณต้องเชื่อพระองค์ด้วย คุณต้องวางใจว่าพระองค์จะเสด็จมาช่วยในยามที่คุณต้องการ และพระองค์จะไม่หวงสิ่งดีใดๆที่มีให้คุณเลย ดังนั้นเมื่อคุณอธิษฐาน จงมุ่งมั่นตั้งใจ และคาดหวังจะได้รับคำตอบยิ่งใหญ่จากพระบิดาในฟ้าสวรรค์นะครับ
การอธิษฐานตามพระวจนะเป็นมากกว่าแค่ขอให้เกิดความสบายใจ และลดปัญหาให้น้อยลง ดังนั้นเมื่อคุณอธิษฐาน ทูลขอพระเจ้าให้ทำสิ่งยิ่งใหญ่ และคาดหวังว่าพระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของคุณอย่างยิ่งใหญ่เช่นกัน
โดย: Pastor Jack Graham
Jack Graham Power Point Ministry: www.powerpoint.org
ข่าวประชาสัมพันธ์
- ช่วยกันอธิษฐานทูลขอให้พระเจ้าทำสิ่งยิ่งใหญ่ในประเทศไทยของเราดีมั้ยคะ? เริ่มต้นกันเลย – ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ