“พระเจ้าเป็นผู้ทรงความสัตย์ พระองค์ได้ทรงเรียกท่านให้สัมพันธ์สนิทกับพระบุตรของพระองค์ คือพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา” (1โครินธ์ 1:9)
จอห์น คาลวิน เป็นหนึ่งในนักศาสนศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่เคยมีชีวิตอยู่ เขากล่าวว่า “ผมยอมสละทุกสิ่งเพื่อพระคริสต์ และดูสิผมค้นพบสิ่งใด? ผมได้พบทุกสิ่งในพระองค์” คุณอยากพูดอย่างนี้ได้หรือเปล่า? พูดได้ครับ เพียงแต่อย่าสับสนระหว่างความหมายของคำว่า “ยอมสละทุกสิ่ง” เพื่อค้นพบพระคริสต์ หลายคนคิดว่าการเป็นสาวกของพระเยซูหมายถึงพวกเขาต้องออกไปรับใช้เต็มตัว หรือออกไปสมัครเรียนที่วิทยาลัยพระคริสตธรรม
พี่น้องครับ การเป็นสาวกคือการมีสามัคคีธรรมกับองค์พระเยซูคริสต์ — การได้รู้จักกับพระองค์อย่างใกล้ชิด และติดตามไปทุกหนแห่งที่พระองค์ทรงนำ มีสามัคคีธรรมกับพระเยซูคริสต์มาก่อนการรับใช้พระองค์ เราจำต้องเรียนรู้และใกล้ชิดสนิทกับพระองค์ก่อนที่เราจะออกไปปรนนิบัติดูแลผู้อื่น
คุณเคยอธิษฐานทูลขอว่าคุณเหมาะกับส่วนใดในพระกายของพระเยซูคริสต์ในฐานะสาวกของพระองค์หรือยัง? ลองใช้เวลาสามัคคีธรรมกับพระองค์ในวันนี้ แล้วคำตอบจะมาถึงคุณครับ
โดย: Pastor Adrian Rogers
Daily devotional
Love worth finding Ministries: www.lwf.org
ข่าวประชาสัมพันธ์
- รับใช้พระคริสต์เป็นสิ่งที่ดี แต่ใกล้ชิดสนิทสนมกับพระองค์ก่อนนั้นย่อมดีกว่า คุณจะได้ไม่รับใช้ผิดจุดประสงค์ และไปผิดทาง
- คริสตจักรของเรากำลังทำพันธกิจจัดเตรียมอาหาร และส่งให้ทหารที่ปฎิบัติงานช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ต่างๆรอบ กทม. สนใจมีร่วมสนับสนุน ส่งเมล์เข้ามาได้ที่ churchofjoy@hotmail.com ขอพระเจ้าอวยพรค่ะ