“อย่าขวนขวายหาอาหารที่เสื่อมสิ้นไป แต่จงหาอาหารที่ดำรงอยู่คืออาหารแห่งชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาได้ทรงประทับตรามอบอำนาจแก่พระบุตรแล้ว” (ยอห์น 6:27)
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่พระเยซูได้ทำอัศจรรย์เลี้ยงคนห้าพันแล้ว พระองค์ทรงสั่งสอนฝูงชนถึงสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิต พระองค์ตรัสว่า “เราเป็นอาหารแห่งชีวิต ผู้ที่มาหาเราจะไม่หิว และผู้ที่วางใจในเรา จะไม่กระหายอีกเลย” (ยอห์น 6:35) และได้ตรัสอีกด้วยว่า ““อย่าขวนขวายหาอาหารที่เสื่อมสิ้นไป แต่จงหาอาหารที่ดำรงอยู่คืออาหารแห่งชีวิตนิรันดร์ ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาได้ทรงประทับตรามอบอำนาจแก่พระบุตรแล้ว” (ข้อ 27)
พูดอีกอย่างคือ “เราได้ให้พวกท่านอิ่มท้องแล้ว แต่เราเป็นอาหารแห่งชีวิต และท่านควรมีชีวิตเพื่อสิ่งนี้”
หลังการเทศนาสิ้นสุดลง คนส่วนใหญ่เดินจากพระองค์ไป คนใจโลเลเห็นแก่กินฟรีที่จากไปเหล่านี้ไม่ชอบใจคำตรัสของพระเยซู พระองค์จึงหันมาตรัสถามพวกสาวกว่า “ท่านทั้งหลายก็จะจากเราไปด้วยหรือ?” (ข้อ 67)
พวกเขาตอบว่า “ซีโมนเปโตรทูลตอบพระองค์ว่า“พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพระองค์จะจากไปหาผู้ใดเล่า พระองค์มีถ้อยคำซึ่งให้มีชีวิตนิรันดร์ และข้าพระองค์ทั้งหลายก็เชื่อ และมาทราบแล้วว่า พระองค์ทรงเป็นองค์บริสุทธิ์ของพระเจ้า” (ข้อ 68−69)
เราจำเป็นต้องมีใจเมตตาต่อผู้คนที่มีความต้องการ พระเยซูทรงเป็นต้นแบบให้แก่เรา แต่พระองค์ทรงแสดงให้เห็นด้วยว่านอกจากจะตอบสนองความต้องการทางกายแล้ว เราจำเป็นต้องตอบสนองต่อความต้องการฝ่ายวิญญาณด้วย
ให้เราแสดงความเมตตา แต่จำไว้ด้วยว่าสิ่งสำคัญที่สุดที่เราสามารถให้ผู้อื่นได้คือความห่วงใยฝ่ายวิญญาณ ไม่มีข้อสงสัยเรื่องคริสเตียนมีเมตตาต่อผู้เดือดร้อนเจ็บปวด เป็นสิ่งที่เราควรทำ แต่เมื่อเรายื่นมือออกไปหาผู้คนและตอบสนองตามความจำเป็นฝ่ายกายแล้ว อย่าละเลยที่จะตอบสนองความจำเป็นฝ่ายวิญญาณด้วย ถ้าไม่เป็นเช่นนั้นเราก็พลาดไปจากจุดประสงค์แรก เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือ…พวกเขาจะไปใช้ชีวิตนิรันดร์ที่ไหนครับ?
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000, Riverside, CA 92514
ข่าวประชาสัมพันธ์
- คริสเตียนแท้ไม่ห่วงแค่เรื่องฝ่ายกายเท่านั้น แต่เป็นห่วงเรื่องฝ่ายวิญญาณของคนที่เราไปสัมผัสด้วย
- อธิษฐานเผื่อความปลอดภัยสำหรับคนที่เดินทางกลับจากที่ต่างๆในช่วงวันหยุดนี้ด้วยค่ะ – ขอพระเจ้าอวยพร