คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน (เอเฟซัส 4:28)
การลักขโมยกำลังแพร่ขยายออกไปในสังคมของเราทุกวันนี้จนเราไม่ทันรู้ตัวว่ามันได้กลายเป็นเรื่องร้ายแรงไปแล้ว เราต้องเก็บของแทบทุกอย่างใส่ตู้ล็อคไว้ เราเห็นพนักงานเก็บเงินนั่งอยู่หลังกระจกกันกระสุน เรามีระบบกันขโมยติดที่รถทั้งๆที่พอมันดังไม่เห็นมีใครใส่ใจ เราติดสัญญาณกันขโมยที่รั้วบ้าน หรือเราติดป้ายสุนัขดุทั้งๆที่ไม่มีสุนัข
บทความในนิตยสารนิวส์วีคเรื่อง “โจรกรรมที่น่ากลัว” ชี้ให้เห็นว่ามีสินค้ากว่า 13 ล้านๆชิ้นที่ถูกขโมยไปในแต่ละปี อันที่จริงผู้จัดการร้านค้าปลีกในแอลเอกล่าวว่า เธอใช้ประพฤติกรรมของการขโมยสินค้าของพวกวัยรุ่น เป็นตัวชี้วัดว่าสินค้าประเภทไหนขายดี
จากการศึกษาของมหาวิทยาลัยในฟลอริดา สินค้าในห้างหายไปเพราะฝีมือพนักงานขายเองมากกว่าโดนลูกค้าขโมย และส่วนมากจับไม่ได้ จึงไม่มีการไปแจ้งความไว้ แต่บริษัทที่จัดหางานประเมินไว้คร่าวๆว่า มูลค่าของที่ถูกขโมยไปน่าจะสูงถึง 120 ล้านๆเหรียญต่อปีทีเดียว ลักขโมยกำลังเป็นปัญหาที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
ผลสำรวจในหมู่วัยรุ่นที่ถูกถามว่าทำไมถึงไม่ขโมย เปิดเผยว่าที่พวกเขาไม่ขโมยเพราะกลัวถูกจับได้ และอีกอย่างกลัวว่าจะถูกเจ้าของตามล้างแค้น และอีกเหตุผลคือ เพราะไม่ได้อยากได้ของนั้นๆ – ทำไม่ไม่มีใครพูดเลยว่า ขโมยเป็นสิ่งที่ผิด? หรือ การลักขโมยเป็นบาป?!!
นี่คือพระดำรัสของพระเจ้าเรื่องการลักขโมย: “คนที่เคยขโมยก็อย่าขโมยอีก แต่จงใช้มือทำงานที่ดีดีกว่า เพื่อจะได้มีอะไรๆ แจกให้แก่คนที่ขัดสน” (เอเฟซัส 4:28) ลักขโมยเป็นบาปผิดจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า และพระองค์ทรงเห็นว่าเป็นเรื่องสำคัญ จึงทรงบัญญัติไว้ในพระบัญญัติสิบประการ “อย่าลักทรัพย์” (อพยพ 20:15)
Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000, Riverside, CA 92514
ข่าวประชาสัมพันธ์
- เราต้องระวังให้ดี ลักขโมยไม่ใช่แค่หยิบของๆคนอื่นตอนทีเผลอ แต่การใช้ของที่ไม่ใช่ของเรา เอาของที่ทำงานมาใช้ที่บ้าน ฯลฯ ก็เป็นการลักขโมยทั้งสิ้น
- ขอพระเจ้าเมตตาให้เราตั้งใจแน่วแน่จะเป็นคนซื่อสัตย์ และพยายามทำให้ได้ – พระเจ้าอวยพรค่ะ