“ใครที่ชอบซื้อสิ่งของของที่เขาไม่จำเป็นต้องใช้ในไม่ช้าจะต้องขายสิ่งของที่เขาจำเป็นต้องมีออกไป”
(He who buys what he does not need will soon have to sell the things he does.)
ในทุกวันนี้มีคนที่ต้องทุกข์ยากลำบากอย่างไม่สมควรอยู่มากมาย ทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่สมควรจะต้องทุกข์ยากลำบากเช่นนั้นเลย! บ่อยครั้งเกิดจากที่พวกเขาใช้เงินไม่เป็น
บางครั้งเขาก็ใช้เงินออกไปก่อนที่จะมีเงิน ในทำนอง ซื้อก่อนผ่อนหรือจ่ายทีหลังโดยการยืมเงินในอนาคตสำหรับซื้อสิ่งของในปัจจุบัน!
จากนั้นเขาก็ลืมจ่ายหรือไม่มีปัญญาจ่าย ผลที่ตามมาคือการเป็น “ลูกหนี้” ที่ถูกตามล่าให้ชำระ!
เมื่อจ่ายไม่ได้หรือจ่ายไม่ทันกำหนดเขาก็จะต้องถูกปรับหรือถูกลงโทษด้วยดอกเบี้ยมหาโหดที่เพิ่มทวีคูณอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งสถานการณ์บังคับให้เขาต้องใช้บริการเงินกู้นอกระบบ!
สิ่งที่ตามมาหลังจากวันเวลาผ่านไปยาวนานก็คือ ลูกหนี้หลายรายต้องน้ำตาตก(ใน) เมื่อจำนวนดอกเบี้ยนั้นสูงกว่าเงินต้นที่เขาติดค้างหรือกู้ยืมมาเสียอีก!
พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าจะหาเงินมาจ่ายหนี้สินมากเท่าไรเงินต้นที่เป็นหนี้ก็ไม่เคยลดลงเลย เพราะทั้งหมดที่เขาจ่ายนั้นเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของค่าดอกเบี้ยที่ค้างอยู่เท่านั้น! ในที่สุดเขาก็ตกอยู่ในหล่มแห่งหนี้สินที่ยากจะไต่ขึ้นมาได้
บางรายต้องขายทรัพย์สินที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันเพียงแค่ต้องการเอาตัวให้รอดเฉพาะในวันนี้แค่นั้น!
เขาจึงมีชีวิตที่ตรอมตรมอยู่กับความทุกข์อย่างไม่มีความหวัง และความทุกข์ยากลำบากเหล่านั้นยิ่งทวีคูณมากขึ้น เมื่อคนเป็นหนี้คิดว่าการเล่นพนันเป็นหนทางที่จะช่วยให้หลุดพ้นหนี้สินได้ เขาจึงลงมือเล่นพนันด้วยหวังว่าจะดีขึ้น แต่กลับยิ่งเป็นเหมือนการเร่งความตายให้มากถึงเร็วขึ้น เพราะว่าเปรียบเหมือนกับการกระโดดหนีจากหม้อที่น้ำกำลังเริ่มร้อนลงไปในเตาที่ร้อนระอุ!
ผลก็คือ ตายแน่นอน!
แท้จริงแล้วคนในยุคโบราณก็เคยเตือนสติไว้แล้วว่า…
“ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ!”
คำว่า “หนี้” หรือ “หนี้สิน” หมายความถึง “เงินที่ผู้หนึ่งติดค้างอยู่ จะต้องใช้ให้แก่อีกผู้หนึ่ง” และมีความหมายถึง “ความรู้สึกที่ติดค้างกัน” ด้วย
อาจารย์เปาโลก็เคยเตือนสติไว้เช่นกันว่า …
“อย่าเป็นหนี้อะไรใคร นอกจากความรักซึ่งมีต่อกัน” (โรม.13:8)
ดังนั้น อย่าให้เราสร้างหนี้สินที่ไม่จำเป็น เพราะความโลภหรือความทะเยอทะยานส่วนตนที่อยากจะเป็นหรือมีอย่างที่คนอื่นเขาเป็นหรือมี เพราะจะทุกข์กายทุกข์ใจไปเปล่า ๆ !
ยิ่งกว่านั้นอีก อย่าให้เราเผลอไผลหรืออาจหาญไปค้ำประกันหนี้สินให้กับผู้ใดเป็นอันขาด!
ดังคำเตือนในพระธรรมสุภาษิตที่ว่า…
“อย่าเป็นพวกที่ตกปากลงคำ อย่าเป็นพวกผู้เป็นประกันหนี้สิน” (สภษ.22:26)
เพราะว่าการกระทำเช่นนั้นจะนำไปสู่ชะตากรรมเหมือนกันกับคนที่เป็นหนี้ได้!
นั่นคือ เราอาจต้องจ่ายหนี้เหล่านั้นแทนคนที่เราค้ำประกันไว้ ผลที่ตามมาก็คือ เราอาจต้องขายสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งในบ้านของเราออกไปหรือยังไม่ทันขาย คนอื่นก็มายึดเอาไปขายทอดตลาดเพื่อชดใช้หนี้สินเหล่านั้นแทนเราซะเลย!
ดังนั้น พี่น้องที่รัก!
นับจากนี้เป็นต้นไป ก่อนที่คุณจะซื้ออะไร หรือจะค้ำประกันใคร หรือจะก่อหนี้สินใด ๆ ขอให้คุณจงคิดให้ดี ๆ อย่างรอบคอบก่อน มิฉะนั้นคุณอาจต้องขายทุกอย่างที่คุณมี เพราะสิ่งที่คุณทำ!
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-
Twitter.com/thongchaibsc