สรรเสริญพระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ขอบพระคุณพระองค์สำหรับการปกป้อง ทำให้เราทั้งหลายได้เห็นถึงพระคุณความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ และขอให้พระองค์ได้รับเกียรติสูงสุดจากถ้อยคำเหล่านี้
“พระเจ้าทรงเป็นที่ลี้ภัยและเป็นกำลังของข้าพระองค์ทั้งหลาย เป็นความช่วยเหลือที่พร้อมอยู่ในยามยากลำบาก ฉะนั้นเราจะไม่กลัว แม้ว่าแผ่นดินโลกจะเปลี่ยนแปลงไป….” (สดุดี 46:6)
ขอบคุณพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงปกป้องครอบครัวของเรา รวมถึงน้องแดง และอาจารย์ประยูรจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ ในวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2553 เวลาประมาณทุ่มครึ่ง วันนั้นครอบครัวของข้าพเจ้ามีความยินดีมาก ที่มีโอกาสต้อนรับอาจารย์ประยูร อินทรสุวรรณ์ ผู้รับใช้พระเจ้าจากจังหวัดสตูล ซึ่งเดินทางมาถึงยะลาในเวลาเย็นแล้ว เพื่อจะเดินทางไปเยี่ยมกลุ่มพี่น้องคริสเตียนที่อำเภอธารโตในวันรุ่งขึ้น จึงได้เชิญท่านรับประทานอาหารค่ำ และพาท่านไปพักผ่อนที่บ้านพี่เกษม พลไชยะ พวกเราตัดสินใจพาท่านไปที่ร้านที่เราไปบ่อยๆ นั่งทานที่ร้านหรือซื้อกลับไปทานบ้านก็ได้ เป็นร้านอาหารจีนเล็กๆ เก่าๆ คนทั่วไปเรียกว่าร้านข้าวต้มคนจน บางครั้งเรายังเจอพี่น้องที่โบสถ์ หรือคนรู้จักไปรับประทานที่นั่นอยู่เนืองๆ
เมื่อถึงร้าน เรานั่งโต๊ะแถวกลางด้านในสุด เป็นโต๊ะเดียวที่ว่าง และเป็นโต๊ะที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้พวกเรา น้องฝนเป็นคนแรกที่เข้าไปนั่งและสั่งอาหาร ตอนแรกน้องฝนอยากจะนั่งโต๊ะด้านหน้า แต่มีลูกค้ารายอื่นมานั่งก่อน พวกเราซึ่งเดินตามกันไป มีน้องรุ้ง น้องเสาเมฆ น้องพีซ อาจารย์ประยูร และข้าพเจ้า พี่แดงก็ตามมาเพราะไปจอดรถ ส่วนน้องแดง ขับมอเตอร์ไซค์ตามมาสุดท้าย
หลังจากน้องแดงนั่งได้ประมาณ 1 นาที ก็มีเสียงดังขึ้น พวกเราทุกคนหันไปมองที่หน้าร้าน เนื่องจากเราอยู่ในพื้นที่ความไม่สงบ จึงรู้ทันทีว่าเกิดเหตุระเบิด เห็นกลุ่มควันกระจายทั่วหน้าร้าน มีประกายไฟเกิดขึ้น น่าจะบริเวณเตาปิ้งหมูสะเต๊ะหน้าร้าน มีคนวิ่งกรูหนีมาหลังร้าน บางคนบาดเจ็บ แต่ขอบคุณพระเจ้า พวกเราทุกคนอยู่ในอาการสงบมาก มีคนในร้านบอกว่าให้ออกไปทางหลังร้าน น้องเสาเมฆบอกว่าเดินตามป้าคนหนึ่งเข้าไปหลังร้าน และพวกเราก็ลุกขึ้นตามกันเข้าไป ข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้าย สวนทางกับอ.ประยูร ซึ่งเดินกลับไปทางหน้าร้าน เพื่อจะไปช่วยคนบาดเจ็บ ข้าพเจ้าจึงเรียกให้อาจารย์กลับเข้ามาและไปรวมกันที่ตรอกหลังร้าน เนื่องจากกลัวว่าจะมีระเบิดซ้ำ (ผู้ก่อการร้ายมักจะวางระเบิดลูกที่สองไว้ เพื่อทำร้ายเจ้าหน้าที่ที่มาช่วยผู้ประสพเหตุ หรือไทยมุงที่เข้ามามุงดู) ขอบคุณพระเจ้า พวกเรายืนอธิษฐานกันด้านหลังร้าน ซึ่งเป็นตรอกเล็กๆ
ที่หลังร้านได้พบกับครอบครัวญาติสามีของครูหน่อยพี่น้องที่โบสถ์ ซึ่งย้ายไปอยู่พิษณุโลก ชื่อน้องยา เป็นเพื่อนบ้านกันสมัยเด็กๆ จึงมีโอกาสได้ทักทาย และมีโอกาสพูดคุยกับผู้หญิงเจ้าของร้านซึ่งยืนอยู่หลังร้านคนเดียว จึงอธิษฐานขอให้พระเจ้าปกป้องและสถิตอยู่กับเขา เขาบอกน้องรุ้งว่าค่อยคุยกันทีหลัง เรายืนอยู่ที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมง เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว พี่แดงจึงเดินนำพวกเราทุกคนออกไปทางตรอกเล็กๆข้างร้าน ข้าพเจ้าอธิษฐานขอการปกป้องจากพระเจ้าตลอดเวลา และรีบเดินไปยังบ้านพี่เกษม เมื่อเดินไปได้สักครู่ พี่แดงก็ขับรถตามมารับ ส่วนน้องแดงจอดรถมอเตอร์ไซค์ไว้ตรงหน้าร้าน ต้องคอยให้ตำรวจเคลียร์พื้นที่อีกประมาณครึ่งชั่วโมง จึงเอารถออกได้
ขอบพระคุณพระเจ้า พวกเราทั้ง 8 ชีวิต และรถอยู่ครบถ้วนบริบูรณ์ ขอบคุณพระเจ้าจริงๆ ที่พระองค์ทรงปกป้องพวกเราให้นั่งรวมกันที่โต๊ะด้านในครบทุกคน แม้แต่น้องเสาเมฆซึ่งวันนั้นไม่ลุกเดินไปไหนเลย และขอบพระคุณพระเจ้าที่น้องแดงเดินเข้ามาถึงก่อนมีระเบิดซึ่งระยะห่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้เราเห็นถึงช่วงเวลาที่พระเจ้าได้นำพวกเราเข้าสู่การปกป้องในหลาย ๆ เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องบังเอิญทั้งสิ้น (มีบางคนพูดไว้ว่า “ความบังเอิญเป็นเพียงนามแฝงของพระเจ้า”) ทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่มีริ้วรอยใดๆ เลยทำให้นึกถึงพระสัญญาสัญญาของพระองค์ ที่ว่า
“…ผู้ที่อาศัยอยู่ ณ ที่กำบังขององค์ผู้สูงสุด ผู้อยู่ในร่มเงาของผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ …ที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ และป้อมปราการของข้าพระองค์ พระเจ้าของข้าพระองค์ ผู้ที่ข้าพระองค์ไว้วางใจ…” สดุดี 91:1-2
“พระองค์จะทรงปกท่านไว้ด้วยปีกของพระองค์ และท่านจะลี้ภัยอยู่ใต้ปีกของพระองค์ ความสัตย์สุจริตของพระองค์เป็นโล่และเป็นดั้ง” สดุดี 91:4
“เพราะท่านได้กระทำให้พระเจ้าผู้เป็นที่ลี้ภัยของข้าพเจ้า คือองค์ผู้สูงสุด เป็นที่อยู่ของท่าน ไม่มีการร้ายใดๆ จะตกมาบนท่าน ไม่มีภัยมาใกล้เต็นท์ของท่าน” สดุดี 91:9-10
“เพราะพระองค์จะรับสั่งเหล่าทูตสวรรค์ของพระองค์ในเรื่องท่าน ให้ระแวดระวังท่านในทางทั้งปวงของท่าน” สดุดี 91:11
“ทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ตั้งค่ายล้อมบรรดาผู้ที่เกรงกลัวพระองค์และช่วยเขาทั้งหลายให้รอด” สดุดี 34: 7
ข้าพเจ้าและผู้เชื่อทั้งหลายมั่นใจในพันธสัญญาของพระเจ้าที่ทรงมอบให้เราทั้งหลายที่เชื่อ และวางใจในองค์พระเยซูคริสต์ของเรา และอีกพันธสัญญาหนึ่งที่พระเยซูได้ตรัสไว้ว่า “เราเป็นทางนั้น เป็นความจริง และเป็นชีวิต ไม่มีผู้ใดมาถึงพระบิดาได้ นอกจากมาทางเรา” ยอห์น 13: 6 นั่นคือ พระเยซูเป็นทางเดียวเท่านั้นที่จะนำเราไปถึงแผ่นดินสวรรค์…ขอพระเจ้าทรงอวยพระพร
(สุมาลี พลรักษ์ / คริสตจักรแบ๊บติสต์ยะลา)
ข่าวประชาสัมพันธ์
- ขอบคุณคำพยานจากพี่น้อง ค.จ.แบ๊บติสต์ยะลา พวกเราระลึกถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในคำอธิษฐานอยู่เสมอ
- ขอให้ทุกๆ ค.จ.ที่นั่นปลอดภัย และเป็นพระพรแก่ชาวใต้ที่นั่นด้วยค่ะ … ขอพระเจ้าสถิตอยู่ด้วยทุกเวลา