คำถาม: “พระคัมภีร์พูดอะไรเกี่ยวกับวันอีสเตอร์บ้าง?”
ตอบ: “ในพระคัมภีร์ไม่มีคำว่า “อีสเตอร์” แต่ มีเรื่องราวหรือแก่นสารของวันอีสเตอร์ อย่างชัดเจน เรื่องราวของวันอีสเตอร์ มาก่อนคำว่า อีสเตอร์ จะเกิดขึ้น
ชื่อ “อีสเตอร์” มีความหมายถึง
“วันหยุดทางคริสตศาสนาเพื่อเฉลิมฉลองการสิ้นพระชนม์ และการ กลับคืนสู่พระชนม์ของพระเยซูคริสต์” ~Cambridge International Dictionary of English
ในฉบับอื่นๆ อธิบายเพิ่มเติมว่า
1.“วันอีสเตอร์” (Easter) หมายถึง
“เทศกาลในคริสตศานาจักร เพื่อรำลึกถึงการคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์ เฉลิมฉลองกันในวันอาทิตย์แรก ซึ่งตามหลังคืนวันเพ็ญที่เกิดขึ้นในวันที่ 21 มีนาคมหรือถัดไปจากนั้น”
2.“วันอาทิตย์อีสเตอร์” (Easter Sunday) หมายถึง
“วันอาทิตย์ที่เฉลิมฉลองเทศกาลนี้”
วันอีสเตอร์ เดิมตรงกับ เทศกาลปัสกา ของชาวยิว โดยคำว่า อีสเตอร์ นั้นเดิมเป็นชื่อของ “Eastre” เทพสตรีแห่งฤดูใบไม้ผลิของพวก แองโกล~แซกซอน ซึ่งต่อมาได้ถูกนำมาใช้ เป็นชื่อ “วันฉลองการคืนพระชนม์ (จากความตาย)ของพระเยซู”
เพราะ
- อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับที่พระเยซูถูกตรึงตายและเป็นขึ้นมาใหม่
- อยู่ในช่วงเวลาเดียวกับวันปัสกา (Passover) ที่ชาวยิวเฉลิมฉลอง
- เป็นสัญลักษณ์ของการมีชีวิตใหม่(หลังฤดูหนาวที่เหมือนตายไปแล้ว)
แม้ดั้งเดิม จะฉลองวันอีสเตอร์ในวันปัสกาคือ วันที่ 14 เดือนนิสาน และมีการเปลี่ยนวันไปมาหลายครั้ง แต่สุดท้าย ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 4 จักรพรรดิคอนสแตนตินแห่งโรม ทรงบัญชาให้ถือรักษาวันอีสเตอร์เป็นวันอาทิตย์ หลังวันที่ 14 เดือนนิสาน( คือ วันอาทิตย์แรก หลังจากวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งต้องอยู่ในช่วง ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม ~ 25 เมษายน เสมอ)
ในพระคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องราวแท้จริงเกี่ยวกับสาระหลักของวันอีสเตอร์ ไว้ว่า ที่พระเยซูถูกตรึงตายเพื่อไถ่บาปมวลมนุษยชาติ ในวันศุกร์ และถูกฝัง จากนั้น พระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตายในวันอาทิตย์ โดยมีหลักฐานกล่าวถึงปรากฏอยู่มากมาย อาทิ
- พระเยซูคริสต์เป็นชีวิต และการเป็นขึ้นจากตาย
“พระเยซูตรัสกับนางว่า “เราเป็นชีวิตและการเป็นขึ้นจากตาย คนที่วางใจในเราจะมีชีวิตอีกแม้ว่าเขาจะตายไป” ~ยอห์น 11:25 THSV11
- พระเยซูทราบล่วงหน้าว่า พระองค์จะทนทุกข์ ตาย และเป็นขึ้นในวันที่ 3
“พระองค์ตรัสกับเขาว่า “มีถ้อยคำเขียนไว้อย่างนั้นว่า พระคริสต์จะต้องทนทุกข์และเป็นขึ้นจากตายในวันที่สาม” ~ลูกา 24:46 THSV11
- พระเยซูตายและเป็นจากตาย และปรากฏพระองค์ต่อสาวกหลายครั้ง
“พระเยซูทรงเข้ามาหยิบขนมปังแจกให้พวกเขา และทรงหยิบปลาแจกด้วย นี่เป็นครั้งที่สามที่พระเยซูทรงสำแดงพระองค์แก่พวกสาวก หลังจากที่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายแล้ว” ~ยอห์น 21:13-14 THSV11
- บรรดาสาวกของพระเยซูเป็นพยานในเรื่องเป็นจากตายของพระเยซูอย่างจริงจัง
“ท่านทั้งหลายจึงฆ่าพระองค์ผู้ทรงเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิตเสีย แต่พระเจ้าได้โปรดให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย เราคือสักขีพยานของเรื่องนี้” ~กิจการ 3:15 THSV11
“เราคือสักขีพยานของกิจการทั้งหมดที่พระองค์ทรงทำในแคว้นยูเดียและในกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาฆ่าพระองค์โดยแขวนไว้ที่ต้นไม้ และในวันที่สามพระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตายและทรงให้ปรากฏ ไม่ใช่ให้ปรากฏแก่คนทั่วไป แต่ให้ปรากฏแก่เรา คือบรรดาสักขีพยานที่พระเจ้าทรงเลือกไว้แล้ว คือทรงปรากฏแก่เราที่กินและดื่มกับพระองค์หลังจากพระองค์ทรงเป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงสั่งให้เราประกาศกับคนทั้งหลาย และเป็นพยานว่า พระเจ้าทรงตั้งพระองค์เป็นผู้พิพากษาทั้งคนเป็นและคนตาย บรรดาผู้เผยพระวจนะก็เป็นพยานถึงพระองค์ว่า ทุกคนที่เชื่อถือในพระองค์นั้น พระเจ้าจะทรงยกความผิดบาปของพวกเขาโดยพระนามของพระองค์” ~กิจการ 10:39-43 THSV11
“ถึงแม้ว่าไม่ได้พบความผิดใดที่มีโทษถึงตาย พวกเขายังขอให้ปีลาตประหารพระองค์เสีย เมื่อพวกเขาทำทุกอย่างสำเร็จตามที่เขียนไว้เกี่ยวกับพระองค์แล้ว จึงเอาพระศพลงมาจากต้นไม้และวางไว้ในอุโมงค์ แต่พระเจ้าทรงให้พระองค์เป็นขึ้นจากตาย พระองค์ทรงสำแดงพระองค์อยู่หลายวันกับคนจากแคว้นกาลิลีที่มากรุงเยรูซาเล็มพร้อมกับพระองค์ และบัดนี้คนเหล่านั้นคือสักขีพยานของพระองค์ต่อคนทั้งหลาย” ~กิจการ 13:28-31 THSV11
“แต่เพราะพระเจ้าโปรดช่วยข้าพระบาทมาจนถึงทุกวันนี้ ข้าพระบาทจึงยืนอยู่ที่นี่และเป็นพยานทั้งต่อผู้น้อยและผู้ใหญ่ ข้าพระบาทไม่ขอพูดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องที่บรรดาผู้เผยพระวจนะและโมเสสกล่าวไว้ว่าจะเกิดขึ้น คือว่าพระคริสต์จะต้องทนทุกข์ทรมาน และพระองค์จะทรงแสดงความสว่างแก่ชนชาติอิสราเอลและแก่พวกต่างชาติ โดยที่ทรงเป็นผู้แรกที่เป็นขึ้นจากตาย” ~กิจการ 26:22-23 THSV11
- ทุกคนที่เชื่อว่าพระเยซูตายไถ่บาปและเป็นขึ้นจากตายแล้ว ผู้นั้นจะรอด
“เรารู้อยู่ว่า พระเจ้าทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นมาจากตาย แล้วพระองค์จะไม่ตายอีก ความตายจะไม่มีอำนาจเหนือพระองค์ต่อไป” ~โรม 6:9 THSV11
“คือว่าถ้าท่านจะยอมรับด้วยปากของท่านว่าพระเยซูทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า และเชื่อในใจว่า พระเจ้าได้ทรงให้พระองค์เป็นขึ้นมาจากความตาย ท่านจะรอด เพราะว่าการเชื่อด้วยใจก็นำไปสู่ความชอบธรรม และการยอมรับด้วยปากก็นำไปสู่ความรอด” ~โรม 10:9-10 THSV11
- ผู้ที่เข้าสนิทในการตายของพระเยซู จะเข้าสนิทในการเป็นขึ้นจากตายอย่างพระเยซูด้วย
“เพราะว่าถ้าเราเข้าสนิทกับพระองค์แล้วในการตายอย่างพระองค์ เราก็จะเข้าสนิทกับพระองค์ในการเป็นขึ้นจากตายอย่างพระองค์” ~โรม 6:5 THSV11
- เราวางใจในพระเจ้าผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย โดยทางองค์พระเยซู
“โดยทางพระองค์ พวกท่านจึงวางใจในพระเจ้า ผู้ทรงให้พระคริสต์เป็นขึ้นจากตาย และประทานพระสิริแก่พระองค์ เพื่อให้ความเชื่อและความหวังของพวกท่านอยู่ในพระเจ้า” ~1 เปโตร 1:21 THSV11
- พระเจ้าผู้ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากความตาย จะให้พระวิญญาณที่อยู่ในเรา ทำให้กายของเราเป็นขึ้นมาใหม่ด้วย
“ถ้าพระวิญญาณของพระองค์ ผู้ทรงให้พระเยซูเป็นขึ้นมาจากตายสถิตอยู่ในท่านทั้งหลาย พระองค์ผู้ทรงให้พระเยซูคริสต์เป็นขึ้นมาจากตายแล้วนั้น จะทรงทำให้กายซึ่งต้องตายของพวกท่านเป็นขึ้นมาใหม่ โดยพระวิญญาณของพระองค์ซึ่งสถิตอยู่ในท่าน” ~โรม 8:11 THSV11
สรุป
“อีสเตอร์” คือเรื่องราวของพระเยซูคริสต์ผู้เป็นขึ้นมาจากความตาย และจะทำให้เราเป็นขึ้นมาจากความตายด้วยเช่นกัน!
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-