ถาม: “พระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่องวุฒิภาวะฝ่ายวิญญาณ” (Spiritual Maturity) ไว้อย่างไรบ้าง?
ตอบ”พระคัมภีร์โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องวุฒิภาวะ ดังกล่าวไว้ดังนี้:
1.เราควรกล่าวถึงพระปัญญาของพระเจ้าในท่ามกลางคนที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณ
“ถึงกระนั้นเรากล่าวถึงปัญญาในท่ามกลางคนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว
(We do, however, speak a message of wisdom among the mature ) แต่ไม่ใช่ปัญญาของยุคนี้ หรือของอำนาจครอบครองยุคนี้ ซึ่งกำลังเสื่อมสูญไป แต่เรากล่าวถึงพระปัญญาของพระเจ้าซึ่งเป็นความล้ำลึก คือพระปัญญาที่ทรงซ่อนไว้นั้น และที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ก่อนปฐมกาล เพื่อการรับศักดิ์ศรีของเรา” ~1 โครินธ์ 2:6-7 THSV11
2.เราควรรับผิดชอบดูแลตัวเองให้ผ่านพ้นสภาวะความเป็นทารกฝ่ายวิญญาณ
“ถึงแม้ว่าขณะนี้ท่านทั้งหลายควรจะเป็นครูได้แล้ว แต่ท่านก็ต้องให้คนอื่นสอนท่านอีกในเรื่องหลักธรรมเบื้องต้นแห่งพระวจนะของพระเจ้า ท่านต้องการน้ำนมไม่ใช่อาหารแข็ง เพราะว่าทุกคนที่ยังกินน้ำนมนั้นยังไม่เข้าใจในเรื่องความชอบธรรม เพราะเขายังเป็นทารกอยู่ อาหารแข็งนั้นสำหรับผู้ใหญ่ (solid food is for the mature) สำหรับคนที่ฝึกฝนจนมีความสามารถแยกแยะดีชั่วได้แล้ว” ~ฮีบรู 5:12-14 THSV11
3.เราควรมีวุฒิภาวะฝ่ายวิญญาณ และไม่ทำให้ใครต้องมาเสียเวลากับเราในเรื่องนี้อีก
“เพราะฉะนั้นขอให้เราผ่านหลักคำสอนเบื้องต้นเกี่ยวกับพระคริสต์ ไปสู่ความเป็นผู้ใหญ่ (Therefore let us move beyond the elementary teachings about Christ and be taken forward to maturity) โดยไม่วางรากฐานซ้ำอีก คือเรื่องการกลับใจจากการประพฤติที่นำไปสู่ความตาย และเรื่องความเชื่อในพระเจ้า” ~ฮีบรู 6:1 THSV11
4.เราควรมีวุฒิภาวะฝ่ายจิตวิญญาณเมื่อเรามีความทรหดอดทนที่เกิดจากทดลองใจต่างๆ
“พี่น้องของข้าพเจ้า เมื่อพวกท่านพบกับการทดลองใจต่างๆ ก็จงถือว่าเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง เพราะพวกท่านรู้ว่าการทดสอบความเชื่อของท่านนั้นทำให้เกิดความทรหดอดทน และจงให้ความทรหดอดทนนั้นมีผลอย่างสมบูรณ์ เพื่อท่านทั้งหลายจะได้เป็นคนที่สมบูรณ์และดีพร้อม (Let perseverance finish its work so that you may be mature and complete) โดยไม่ขาดสิ่งใดเลย” ~ยากอบ 1:2-4 THSV11
5.เราควรเป็นผู้เตรียมหรือรับการเตรียมให้เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายจิตวิญญาณที่รวมพลังเป็นหนึ่งในการรับใช้ด้วยความจริงและความรัก
“และพระองค์เองประทานให้บางคนเป็นอัครทูต บางคนเป็นผู้เผยพระวจนะ บางคนเป็นผู้ประกาศข่าวประเสริฐ บางคนเป็นศิษยาภิบาลและอาจารย์ เพื่อเตรียมธรรมิกชนสำหรับการปรนนิบัติและการเสริมสร้างพระกายของพระคริสต์ จนกว่าเราทุกคนจะบรรลุถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในความเชื่อและในความรู้ถึงพระบุตรของพระเจ้า บรรลุถึงความเป็นผู้ใหญ่ คือโตเต็มถึงขนาดความบริบูรณ์ของพระคริสต์ (until we all reach unity in the faith and in the knowledge of the Son of God and become mature, attaining to the whole measure of the fullness of Christ.)(เพื่อเราจะไม่เป็นเด็กอีกต่อไป ถูกซัดไปซัดมาและพัดไปพัดมาด้วยลมคำสั่งสอนทุกอย่าง ด้วยเล่ห์กลของมนุษย์ ตามอุบายที่ฉลาดในการล่อลวง แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์( we will grow to become in every respect the mature body of him)ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ ~เอเฟซัส 4:11-15 THSV11
6.เราควรคิดจดจ่อในการบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัยอย่างที่ผู้ใหญ่คิด
“พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ถือว่าข้าพเจ้าฉวยไว้ได้แล้ว แต่ข้าพเจ้าทำอย่างหนึ่ง คือลืมสิ่งที่ผ่านพ้นมา แล้วโน้มตัวไปยังสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า และข้าพเจ้าบากบั่นมุ่งไปสู่หลักชัย เพื่อจะได้รับรางวัลคือการทรงเรียกแห่งเบื้องบนซึ่งมีในพระเยซูคริสต์ เพราะฉะนั้น เราที่เป็นผู้ใหญ่แล้วจงคิดอย่างนี้ (All of us, then, who are mature should take such a view of things.)และถ้าพวกท่านคิดอีกอย่างหนึ่ง พระเจ้าก็จะทรงให้เรื่องนี้ประจักษ์แก่ท่านด้วย” ~ฟีลิปปี 3:13-15 THSV11
7.เราควรให้ความคิดของเราเป็นเหมือนผู้ใหญ่ แต่ความชั่วร้ายให้เป็นเป็นเหมือนทารก
“พี่น้องทั้งหลาย อย่าเป็นเหมือนเด็กในด้านความคิด แต่ในเรื่องความชั่วร้ายจงเป็นเหมือนทารก และในด้านความคิดจงเป็นเหมือนผู้ใหญ่ (but in your thinking be adults.)” ~1 โครินธ์ 14:20 THSV11
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ –