คำถาม : “พระคัมภีร์กล่าวถึง การสังเกต แยกแยะ และการสังเกตวิญญาณ ไว้อย่างไรบ้าง?”
คำตอบ “การสังเกต” ( Discern ) หมายความว่า “สามารถมองเห็น นึกออก หรือ เข้าใจ บางสิ่งที่ไม่ชัดเจน หรือตัดสินในบางสิ่ง” (to be able to see, recognize, or understand something that is not clear, or decide something.)
คำว่า “Discernment” ในท่ามกลางคริสเตียนหมายถึง
“การมีสติปัญญาและการมีการตัดสินพิพากษาที่ดี”
ส่วน “Spiritual Discernment” นั้น หมายถึง “การเข้าใจและรู้ในบางสิ่งผ่านทางฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ รวมทั้งการรับรู้ถึงลักษณะนิสัยที่แท้จริงของบางคน หรือ บางแหล่งกำเนิด และความหมายของการสำแดงทางวิญญาณ”
Mary Fairchild กล่าวว่า
“การรู้จักสังเกตวิญญาณ” (Discernment) ในพระคัมภีร์ หมายถึง คุณลักษณะฝ่ายวิญญาณ ของการตัดสิน แยกแยะที่ดีสำหรับการรับรู้ความแตกต่างระหว่าง
- ถูกและผิด
- ดีและชั่ว
- ความจริงและความเท็จ และ
- ระบุได้ว่าอะไรคือ น้ำพระทัยของพระเจ้าและทิศทางสำหรับคนของพระองค์
(Discernment in the Bible is the spiritual characteristic of sound judgment for perceiving the difference between right and wrong, good and evil, truth and error, and identifying God’s will and direction for his people. )
การรู้จักสังเกตวิญญาณ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่จะ
- เข้าใจความจริงฝ่ายวิญญาณ
- มีชีวิตบริสุทธิ์อย่างที่พระเจ้าทรงประสงค์
- หลีกเลี่ยงกับดักของชีวิตและภยันตรายต่างๆ
- ปกครองดูแลชุมชนสังคมได้อย่างเหมาะสม
(Discernment is necessary to understand spiritual truth, live holy as God intends, avoid life’s pitfalls and dangers, and properly govern society.)
ในพระคัมภีร์กล่าวถึงของประทานฝ่ายวิญญาณที่พระเจ้าประทานให้กับคริสตจักรซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “การรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ”
“พระเจ้าประทานโดยทางพระวิญญาณ ให้คนหนึ่งมีถ้อยคำของปัญญา และให้อีกคนหนึ่งมีถ้อยคำของความรู้ โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน ให้อีกคนหนึ่งทำการด้วยฤทธานุภาพ ให้อีกคนหนึ่งเผยพระวจนะ …ให้อีกคนหนึ่งรู้จักสังเกตวิญญาณต่างๆ ให้อีกคนหนึ่งพูดภาษาแปลกๆ และให้อีกคนหนึ่งแปลภาษานั้นๆ ได้” ~1 โครินธ์ 12:8, 10 THSV11
ในทุกยุคทุกสมัย คริสตจักรก็ต่างต้องการคนที่สามารถสังเกตแยกแยะ (discern) สิ่งที่ผิด หรือ แปลกปลอม และเราเองก็ได้รับการกำชับให้พิสูจน์วิญญาณต่างๆ ที่เข้ามาในโบสถ์ว่า มาจากพระเจ้าหรือไม่?
“ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อทุกๆวิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้เผยพระวจนะเท็จจำนวนมากได้ออกมาในโลก” ~1 ยอห์น 4:1 THSV11
นอกจากนี้ ยังมีพระคัมภีร์อีกมากมายที่กล่าวถึง “การรู้จักสังเกต” (Discernment) อาทิ
“แต่ผู้ใดจะเห็น (discern) ความผิดพลาดของตนได้เล่า? ขอทรงชำระข้าพระองค์ให้พ้นจากความผิดที่ซ่อนเร้นอยู่ ขอทรงยับยั้งผู้รับใช้ของพระองค์จากการทำบาปโดยตั้งใจนั้นด้วยเถิด ขออย่าให้มันมีอำนาจเหนือข้าพระองค์เลย แล้วข้าพระองค์จะไร้ตำหนิ และพ้นผิดจากการละเมิดใหญ่หลวงนั้น” -สดุดี 19:12-13 THSV11
“และข้าพเจ้าอธิษฐานว่าขอให้ความรักของท่านทวียิ่งๆ ขึ้นพร้อมกับความรู้และวิจารณญาณทุกด้าน เพื่อท่านทั้งหลายจะสังเกตเห็น (discern) ได้ว่าสิ่งใดประเสริฐที่สุด เพื่อท่านจะได้เป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนไม่มีที่ติได้ในวันแห่งพระคริสต์ และเป็นคนที่เต็มบริบูรณ์ด้วยผลของความชอบธรรมซึ่งเกิดขึ้นโดยทางพระเยซูคริสต์ เพื่อถวายพระเกียรติและการยกย่องแด่พระเจ้า” -ฟีลิปปี 1:9-11 THSV11
“ฉะนั้นขอพระองค์ประทานความคิดความเข้าใจแก่ผู้รับใช้ของพระองค์ เพื่อจะวินิจฉัยประชากรของพระองค์ เพื่อจะแยกแยะ (discern) ความแตกต่างระหว่างดีกับชั่วได้ เพราะใครจะสามารถวินิจฉัยประชากรมากมายนี้ของพระองค์ได้?” ที่ซาโลมอนทูลขอเช่นนี้ก็เป็นที่พอพระทัยองค์เจ้านาย” -1 พงศ์กษัตริย์ 3:9-10 THSV11
ขอให้เราทุกคนมีความสามารถในการสังเกต และมีของประทานในการสังเกตวิญญาณ เพื่อช่วยเหลือ ตัวเอง ผู้อื่น คริสตจักร และสังคมของเรา!
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-