คอลัมน์ : “ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (265)
ความเมตตาของพระคริสต์ (แห่งวันคริสต์มาส)
“คนตาบอดคนนั้นจึงร้องว่า “เยซู บุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด”” ~ลูกา 18:38 THSV11
“He called out, “Jesus, Son of David, have mercy on me!”” ~Luke 18:38 NIV
ผมชอบที่ Mathew N. Schmalz กล่าวไว้ว่า
“พระเมตตาคือ การตอบสนองด้วยความรักของพระเจ้าต่อคนบาป
และความเมตตาคือการตอบสนองด้วยความรักของเราต่อคนอื่น
และต่อตัวเราเอง ในสภาพการณ์ที่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือ!”
(Mercy is God’s loving response to sinners; and mercy is our loving response to others and to ourselves—in circumstances of need.)
เมื่อพระเยซูคริสต์แห่งวันคริสต์มาสทรงเติบใหญ่ พระองค์ออกกระทำพระราชกิจ ด้วยการรับใช้ช่วยเหลือประชาชนทั้งหลายด้วยพระเมตตาอันใหญ่หลวง และมีหนึ่งเรื่องราวที่น่าประทับใจดังนี้
1.พระเยซูคริสต์เสด็จมาใกล้เมืองเยรีโค
2.คนตาบอดคนหนึ่ง(ชื่อ บารทิเมอัส~มก.10:46)
- 1).นั่งขอทานอยู่ริมทาง
- 2).ได้ยินเสียงฝูงชนเดินผ่าน
- 3).จึงถามว่ามีเรื่องอะไร?
- 3.พวกเขาจึงบอกว่า เยซูชาวนาซาเร็ธเสด็จผ่านมา
- 4.คนตาบอดคนนั้นจึงร้องว่า
“เยซู บุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด”
(ชื่อ “บุตรของดาวิด” = ชื่อเรียกหนึ่งของพระเมสสิยาห์ หรือ พระคริสต์ ~มธ.1:1;12:23;22:41-45;มก.10:47;12:35; ยน.7:42; สดด.89:3-4; อมส.9:11; 2ซมอ.7:12-13)
- 5.คนที่เดินอยู่ข้างหน้านั้นจึงห้ามเขาเพื่อให้เขาเงียบ
- 6.คนตาบอดยิ่งร้องขึ้นว่า
“บุตรดาวิดเจ้าข้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์เถิด”
3.พระเยซู
- 1).ทรงหยุดและ
- 2).ทรงยืนอยู่ และ
- 3).ทรงสั่งให้พาคนตาบอดมาหาพระองค์
- 8.คนตาบอดเข้ามาใกล้แล้ว
- 9.พระเยซูตรัสถามเขาว่า “ท่านปรารถนาจะให้เราทำอะไรแก่ท่าน?”
- 10คนตาบอดทูลว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์เห็นได้”
- 11.พระเยซูตรัสกับเขาว่า
“จงเห็นเถิด ความเชื่อของท่านทำให้ตัวท่านหายปกติแล้ว”
( และอาจมีความหมายอีกว่า “ความเชื่อของท่าน ทำให้ท่านรอด”
~มธ.9:22; ลก.17:19;7:50; มก.5:34 ปท. มก.8:48,50
=บาปได้รับการให้อภัย และสามารถมีสันติสุขของพระเจ้าในชีวิตได้
- 12.คนตาบอด จึง
1).เห็นได้ในทันใด และ
2).ตามพระองค์ไป พร้อมกับ
3).ถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า - 13.ประชาชนเห็นเช่นนั้น พวกเขาก็สรรเสริญพระเจ้าด้วย
(การสรรเสริญพระเจ้า = ประเด็นหลักปกติ ในพระธรรมลูกา
~2:13,20,28;5:25-26;7:16;13:13;17:15,18;18:43;19:37;23:47;24:53
(ลูกา 18:35-43)
ใช่ครับ ในเมื่อพระเยซูคริสต์ผู้ทรงเปี่ยมด้วยความรัก และพระทัยเมตตา ในการ
- 1.ช่วยเหลือและ
- 2.รับใช้ผู้คนที่เดือดร้อน ทั้งทางกาย จิต และวิญญาณ ด้วยความถ่อมพระทัย
เราทุกคนที่เป็นคนของพระองค์ ที่ได้ชื่อว่า เป็น”คริสตชน” ก็ควรมีจิตใจเปี่ยมด้วยเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าเขาจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม โดยไม่เลือกภูมิหลัง ชั้นวรรณะ เชื้อชาติ หรือ ศาสนาใด
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมเองได้รับความสุขใจมากล้น จากการได้แสดงความเมตตาต่อผู้อื่น ในวิสัยที่พอจะทำได้ อาทิ ได้
- 1.มีส่วนร่วมสมทบทุนช่วยเหลือเพื่อนสมัยเป็นนักเรียนโรงเรียนวัดที่มีปัญหาเรื่องฟันและเรื่องเงิน
- 2.ช่วยค่าอาหารลูกคนขับแท็กซี่ ที่มีปัญหาหนี้สินและปัญหาครอบครัว
- 3.หนุนใจและให้กำลังใจกับพี่น้องที่สูญเสียสมาชิกที่รักในครอบครัว ในงานศพ
- 4.ให้คำปรึกษาช่วยเหลือครอบครัวที่แตกสลายแต่ประสงค์จะเริ่มต้นกันใหม่
- 5.ช่วยประกอบพิธีสมรสให้กับคู่บ่าวสาวที่มีความขัดแย้งในครอบครัวทั้งสองฝ่ายและคืนดีกัน
- 6.เยี่ยมเยียนผู้อาวุโสในสถานดูแล และประกาศข่าวดีคริสต์มาสและมีผู้รับเชื่อ มีกำลังใจสู้ชีวิต
- 7.ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีความสงสัย ความทุกข์ใจ และเจ็บป่วยท้อแท้หลายคนในกลุ่มแคร์ต่างๆ
พี่น้องที่รัก
ให้เรามาทำคริสต์มาสของเราให้มีความหมาย เหมือนอย่างที่ Calvin Coolidge แนะนำที่ว่า
“คริสต์มาสไม่ใช่เวลาหรือฤดูกาล แต่เป็นสภาวะทางความคิด การทะนุถนอมสันติสุข และ ความปรารถนาดี การบริบูรณ์ด้วยความเมตตา
เหล่านี้ คือ การมีจิตวิญญาณที่แท้จริงของวันคริสต์มาส!”
(Christmas is not a time nor a season, but a state of mind. To cherish peace and goodwill, to be plenteous in mercy, is to have the real spirit of Christmas.)
ใช่ครับ ขอให้เราแสดงความเมตตาและจิตไมตรี โดยเริ่มจาก
1.ต่อตัวเอง โดยการ
- 1).ปล่อยวางทุกสิ่งที่ถ่วงชีวิตเราให้ต่ำลง
- 2).ปลดปล่อยตัวเราเองให้เป็นอิสระจากความโกรธกลียด และความขมขื่นใจ
- 3).ปฏิบัติต่อตัวด้วยความทะนุถนอมและให้รางวัลชีวิตแก่ตัวเองบ้าง
2.ต่อผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่กำลังจำเป็นต้องได้รับความอนุเคราะห์ช่วยเหลือ โดยการ
- 1).อธิษฐานเผื่อเขา หรือ อธิษฐานกับเขา ให้เขามีกำลังจากพระเจ้าในการสู้ชีวิต
- 2).แบ่งปันหรือให้ปัจจัยหรือสิ่งที่จำเป็นต่อการอยู่รอดปลอดภัยให้แก่พวกเขาในยามวิกฤติ
- 3).ช่วยพวกเขาให้พ้นจากสภาพที่ช่วยตัวเองไม่ได้ ไม่ว่าจะทางกายจิต หรือวิญญาณ
ขอให้เรามาเริ่มทำพันธกิจแห่งความเมตตานี้ เหมือนที่องค์พระเยซูคริสต์ทรงกระทำต่อคนตาบอดในเรื่องนี้ ในทันที ในคริสต์มาสนี้ และปีใหม่นี้ เลย
…จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (22 ธันวาคม 2022)