คำถาม : ”พระคัมภีร์กล่าวถึงความเมตตาของพระเจ้า และของพระเยซูคริสต์ไว้อย่างไรบ้าง?”
ตอบ “พระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่องพระเมตตาของพระเจ้าและของพระเยซูคริสต์ไว้ดังนี้
1. พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา และการหนุนใจ
“แต่พระเจ้าทรงเปี่ยมด้วยพระเมตตา พระองค์ทรงรักเราโดยความรักอันใหญ่หลวงของพระองค์” ~เอเฟซัส 2:4 THSV11
“สาธุการแด่พระเจ้า พระบิดาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา พระบิดาผู้ทรงพระเมตตากรุณา พระเจ้าแห่งการหนุน ใจทุกอย่าง” ~2 โครินธ์ 1:3 THSV11
2. พระเจ้าทรงช่วยเราให้รอดด้วยพระเมตตาของพระองค์ ไม่ขึ้นอยู่กับความดีของเรา
“พระองค์ก็ทรงช่วยเราให้รอด ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการชำระให้บังเกิดใหม่และสร้างใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์” ~ทิตัส 3:5 THSV11
3. พระเจ้าทรงเมตตาและอภัยโทษ ต่อการอธรรมของเราและไม่จดจำบาปของเรา
“เพราะเราจะเมตตาต่อการอธรรมของพวกเขา และจะไม่จดจำบรรดาบาปของพวกเขาไว้เลย”” ~ฮีบรู 8:12 THSV11
4. เราควรสำนึกผิด ถ่อมใจขอความเมตตาจากพระเจ้า สำหรับการละเมิดของเรา
“ส่วนคนเก็บภาษีนั้นยืนอยู่แต่ไกล ไม่ยอมแม้แต่แหงนหน้าดูฟ้า แต่ตีอกชกตัวกล่าวว่า ‘ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด’” ~ลูกา 18:13 THSV11
“ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงพระเมตตาข้าพระองค์ ตามความรักมั่นคงของพระองค์ ตามพระกรุณาอันอุดมของพระองค์ ขอ ทรงลบบรรดาการละเมิดของข้าพระองค์” ~สดุดี 51:1 THSV11
5.เราควรซาบซึ้งในพระเมตตา ที่พระเยซูคริสต์ทรงรอคอยและอดทนต่อเราอย่างมาก เพื่อให้เราเป็นแบบอย่าง
“แต่เพราะเหตุนี้ข้าพเจ้าจึงได้รับพระเมตตา เพื่อว่าพระเยซูคริสต์จะได้ทรงสำแดงความอดทนอย่างยิ่งต่อข้าพเจ้าซึ่งเป็นตัวเอ้นั้น เพื่อเป็นแบบอย่างแก่คนทั้งหลาย ที่จะเชื่อในพระองค์ แล้วได้รับชีวิตนิรันดร์” ~1 ทิโมธี 1:16 THSV11
“เพราะฉะนั้น พระยาห์เวห์ทรงรอคอยที่จะเมตตาท่าน เพราะฉะนั้น พระองค์จะทรงลุกขึ้นเพื่อกรุณาพวกท่าน เพราะพระยาห์เวห์ทรงเป็นพระเจ้าที่ยุติธรรม ทุกคนที่รอคอยพระองค์ก็เป็นสุข” ~อิสยาห์ 30:18 THSV11
6. เราควรตระหนักว่า ทุกสิ่งขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า ไม่ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของเรา
“เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งจึงไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความมานะของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า” ~โรม 9:16 THSV11
7. เราควรรู้จักพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะให้เราเป็นคนที่ยุติธรรมและมีรักเมตตาต่อคนอื่น
“มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี? และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์อะไรจากเจ้า? นอกจากให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา และให้ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ” ~มีคาห์ 6:8 THSV11
8. เราควรเป็นคนที่มีใจเมตตาต่อทุกคน อดทนและไม่ชอบทะเลาะ
“ส่วนผู้รับใช้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะต้องไม่เป็นคนที่ชอบทะเลาะ แต่ต้องมีใจเมตตาต่อทุกคน เป็นอาจารย์ที่เหมาะสม และมีความอดทน” ~2 ทิโมธี 2:24 THSV11
9. เราควรเรียนพระคัมภีร์ให้เข้าใจว่า พระเจ้าประสงค์ความเมตตามากกว่าเครื่องบูชาและเราควรแสดงความเมตตาต่อคนที่ทุกข์เดือดร้อน
“ท่านจงไปเรียนความหมายของคัมภีร์ข้อนี้ ที่ว่า ‘เราประสงค์ความเมตตา ไม่ประสงค์เครื่องสัตวบูชา’ ด้วยว่าเราไม่ ได้มาเพื่อเรียกคนชอบธรรม แต่มาเรียกคนบาป”” ~มัทธิว 9:13; THSV11
“เพราะเขามีเสื้อคลุมตัวนั้นตัวเดียวเป็นเครื่องปกคลุมร่างกาย มิฉะนั้นเวลานอนเขาจะเอาอะไรห่มเล่า? เมื่อเขาร้องทุกข์ต่อเรา เราจะฟังเพราะเรามีใจเมตตากรุณา” ~อพยพ 22:27 THSV11
10. เราควรถวายตัวเป็นเครื่องบูชาที่บริสุทธิ์และมีชีวิตแด่พระเจ้าเพราะเห็นแก่ความเมตตาของพระองค์
“ดังนั้น พี่น้องทั้งหลาย โดยเห็นแก่ความเมตตากรุณาของพระเจ้า ข้าพเจ้าจึงวิงวอนท่านทั้งหลายให้ถวายตัวของท่านแด่พระองค์ เพื่อเป็นเครื่องบูชาอันบริสุทธิ์ที่มีชีวิต และเป็นที่พอพระทัยพระเจ้า ซึ่งเป็นการนมัสการโดยวิญญาณจิตของท่าน” ~โรม 12:1 THSV11
11. เราควรแสดงความเมตตาต่อผู้อื่นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเรามีของประทานในการแสดงความเมตตานั้น
“ถ้าเป็นผู้เตือนสติก็จงเตือนสติ ผู้ที่ให้ ก็จงให้ด้วยใจกว้างขวาง ผู้ที่ครอบครอง ก็จงครอบครองด้วยเอาใจใส่ ผู้ที่แสดงความเมตตา ก็จงแสดงด้วยใจยินดี” ~โรม 12:8 THSV11
12. เราควรถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าด้วยการเมตตาต่อคนขัดสน และคนที่กำลังเดือดร้อน
“ผู้กดขี่คนยากจนก็ดูถูกพระผู้สร้างของเขา แต่ผู้เมตตาคนขัดสนก็ถวายพระเกียรติแด่พระองค์” ~สุภาษิต 14:31 THSV11
“เขาทูลตอบว่า “คือคนนั้นแหละที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปทำเหมือนอย่างนั้น”” ~ลูกา 10:37 THSV11
13. เราควรสอนคนที่อยู่ในการดูแลของเราให้มีความเมตตาต่อคนอื่นๆ ด้วย
“มีสติสัมปชัญญะ เป็นคนบริสุทธิ์ ดูแลบ้านเรือนอย่างดี มีความเมตตาและเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าพระวจนะของพระเจ้าจะไม่ถูกดูหมิ่น” ~ทิตัส 2:5 THSV11
14. เราควรให้ถ้อยคำจากปาก หรือจากแป้นพิมพ์ของเราประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ
“จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร” ~โคโลสี 4:6 THSV11
15. เราควรอยู่เย็นเป็นสุข ด้วยการแสดงความเมตตาและดำเนินกิจการด้วยความยุติธรรม
“คนที่เมตตาคนอื่นและให้ยืม ก็อยู่เย็นเป็นสุข คือผู้ที่ดำเนินกิจการของเขาด้วยความยุติธรรม” ~สดุดี 112:5 THSV11
16.เราควรเมตตาต่อผู้อื่นด้วยความยำเกรงพระเจ้า
“จงช่วยคนให้รอดด้วยการฉุดเขาออกจากไฟ และจงเมตตาผู้อื่นด้วยความยำเกรงพระเจ้า และจงรังเกียจแม้แต่เสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนด้วยกายที่เป็นมลทิน” ~ยูดา 1:23 THSV11
17. เราควรขอพระเจ้าทรงเมตตาคนที่มีความเมตตาในการปฏิบัติต่อคนอื่นๆ ด้วย
“ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระเมตตาต่อครอบครัวของโอเนสิโฟรัสด้วยเถิด เนื่องจากเขาทำให้ข้าพเจ้าชื่นใจบ่อยๆ เขาไม่มีความอับอายในโซ่ตรวนของข้าพเจ้าเลย” ~2 ทิโมธี 1:16 THSV11
“เขาปรนนิบัติข้าพเจ้าที่เมืองเอเฟซัสมากเพียงไรท่านก็รู้ดีอยู่แล้ว ขอองค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้เขาได้รับพระเมตตาจากพระองค์ ในวันพิพากษาด้วยเถิด” ~2 ทิโมธี 1:18 THSV11
18. เราควรคอยพระเมตตาของพระเยซูคริสต์ที่นำเราไปสู่ชีวิตนิรันดร์ที่สมบูรณ์ ในขณะที่เรารักษาตัวให้อยู่ในความรักของพระเจ้า
“จงรักษาตัวให้อยู่ในความรักของพระเจ้า ขณะคอยให้พระเมตตาของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรานำท่านไปสู่ชีวิตนิรันดร์” ~ยูดา 1:21 THSV11
19. เราควรขอให้มีความเมตตา และความรักจากพระเจ้าเพิ่มพูนขึ้นในท่ามกลางพวกเรา
“ขอพระเมตตา สันติสุข และความรักจงเพิ่มพูนแก่ท่านทั้งหลายยิ่งๆ ขึ้นเถิด” ~ยูดา 1:2 THSV11
20. เราควรขอพระเจ้าให้เมตตาและอวยพรแก่เราทั้งหลายเสมอไป
“ขอพระเจ้าทรงพระเมตตาและทรงอวยพรข้าพระองค์ทั้งหลาย ขอทรงให้พระพักตร์ของพระองค์ทอแสงแก่ข้าพระองค์ทั้งหลาย” ~สดุดี 67:1 THSV11
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-