คอลัมน์ : “ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (260)
เด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา?
“ด้วยมีเด็กคนหนึ่งเกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า
“ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช”” -อิสยาห์ 9:6 THSV11
“For to us a child is born, to us a son is given, and the government will be on his shoulders. And he will be called Wonderful Counselor, Mighty God, Everlasting Father, Prince of Peace.” ~Isaiah 9:6 NIV
Max Lucado กล่าวว่า
“เมื่อพระคริสต์มาบังเกิด ความหวังของเราก็เกิดขึ้น!”
(When Christ was born, so was our hope.)
คริสต์มาสนี้ เป็นช่วงเวลาที่ให้ความหวังแก่ประชากรของพระเจ้า
ตามคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์อิสยาห์ที่ว่า:
1.พระเจ้าจะทรงกำจัดความทุกข์ระทม และความโศกเศร้าของคนของพระองค์
“แต่เมืองนั้นที่อยู่ในสภาพโศกเศร้าจะไม่ทุกข์ระทมอีก”
2.พระเจ้าจะประทานความรุ่งโรจน์ให้แก่คนของพระองค์
“ในกาลก่อนพระองค์ทรงให้
- ~แคว้นเศบูลุน และ
- ~แคว้นนัฟทาลี* เป็นที่ดูหมิ่น แต่ในภายหลัง พระองค์จะทรงทำ
- ~หนทางฝั่งทะเล และ
- ~ดินแดนฟากตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน คือกาลิลี**ของบรรดาประชาชาตินั้นให้รุ่งโรจน์”
*“นัฟทาลี” = เผ่าอิสราเอลตอนเหนือ ที่ต้องทนทุกข์อย่างหนัก เมื่อทิกลัทปิเลเสอร์ที่สามแห่งอัสซีเรียบุกโจมตีในปี 734 และ 732 ก.ค.ศ.
(2พกษ.15:29)
** “กาลิลี…ให้รุ่งโรจน์” = เป็นจริงเมื่อพระเยซูคริสต์ทรงเชิดชูกาลิลี เมื่อทรงใช้กาลิลีเป็นศูนย์กลางในการกระทำพระราชกิจของพระองค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองคาเปอรนาอุมซึ่งอยู่ใกล้กับทางหลวงจากอียิปต์ไปสู่เมืองดามัสกัส ที่เรียกว่าเส้นทางสู่ทะเล ในมธ. 4:13-15
3.พระเจ้าจะประทานความสว่างให้แก่ชนชาติที่ดำเนินอยู่ในความมืดมน
“ชนชาติที่ดำเนินในความมืด เห็นความสว่างยิ่งใหญ่ * บรรดาคนที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินแห่งเงามัจจุราช แสงสว่างส่องมาบนเขาทั้งหลาย”
* “ความสว่างยิ่งใหญ่” = พระเยซูและความรอดของพระองค์จะเป็น “แสงสว่าง” แก่คนต่างชาติทั้งหลาย (อสย.42:6;49:6; ปท. มธ. 4:15-16; ลก.2:32)
4.พระเจ้าจะทรงทวีจะทรงเพิ่มคนและทวีความชื่นบานให้แก่บรรดาคนของพระองค์
“พระองค์ทรงทวีจำนวนคนในชาตินั้นขึ้น พระองค์ทรงเพิ่มพูนความชื่นบานของพวกเขา เขาทั้งหลายเปรมปรีดิ์เฉพาะพระพักตร์พระองค์ ดั่งความชื่นบานในฤดูเกี่ยวเก็บ ดั่งคนยินดีเมื่อเขาแบ่งของริบให้แก่กัน”
5.พระเจ้าจะทรงทำลายแอก ภาระหนัก และทุกการบีบบังคับที่มีต่อคนของพระองค์ลง
“เพราะว่าแอก *อันเป็นภาระหนักของเขาก็ดี ไม้พลองที่ตีบ่าเขาก็ดี
ไม้ตะบองของผู้บีบบังคับเขาก็ดี พระองค์ทรงหักเสียเหมือนอย่างในวันของคนมีเดียน** เพราะรองเท้า***ทหารทุกคู่ที่กระทืบจนสั่นสะเทือน และเสื้อคลุมทุกตัวที่เกลือกอยู่ในโลหิตจะถูกเผาเป็นเชื้อเพลิงใส่ไฟ”
- * “แอก” = สัญลักษณ์ของการกดขี่บังคับและภาระหนัก ใน อสย.10:26-27 ~อิสยาห์พยากรณ์ว่าพระเจ้าจะทรงทำลาย
- กองทัพอัสซีเรีย และ
- เเอกแห่งการกดขี่ของพวกเขา เหตุการณ์ที่เป็นจริงในปี 701 ก.ค.ศ.
(อสย. 37:36-38)
** “ในวันของคนมีเดียน” =วันแห่งชัยชนะเหนือมีเดียน คือวันที่ กิเดโอนชนะกองกำลังของชาวมีเดียนและช่วยชาวอิสราเอลให้พ้นจากอำนาจครอบงำของพวกเขา (วนฉ.7:22-25)
*** “รองเท้า…เสื้อคลุม” =ข้าวของเครื่องใช้ของทหารจะไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป (อสย. 2:2-4; มคา. 5:10-15)
6.พระเจ้าจะประทานกษัตริย์ที่แสนมหัศจรรย์และทรงมหิทธิฤทธิ์มาช่วยและปกครองคนของพระองค์
“ด้วยมีเด็กคนหนึ่ง*เกิดมาเพื่อเรา มีบุตรชายคนหนึ่งประทานมาให้เรา และการปกครองจะอยู่บนบ่าของท่าน และเขาจะขนานนามของท่านว่า
ที่ปรึกษามหัศจรรย์ พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ พระบิดานิรันดร์ และองค์สันติราช**”
การเพิ่มพูนขึ้นของการปกครองและสันติภาพของท่าน จะไม่มีที่สิ้นสุด
บนพระที่นั่งของดาวิด ***และเหนือราชอาณาจักรของพระองค์ เพื่อจะสถาปนาและเชิดชูมันไว้ ด้วยความยุติธรรมและความชอบธรรม ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนนิรันดร์กาล
* “เด็กคนหนึ่ง…บุตรชายคนหนึ่ง” = ราชโอรส (ผู้สืบเชื้อสายจากกษัตริย์ ดาวิด) (อสย. 9:7; 2ซมอ. 7:14; สดด. 2:7; มธ. 1:1;3:17; ลก. 1:32; ยน.3:16)
** “ที่ปรึกษามหัศจรรย์…องค์สันติราช” = ทั้ง 4 ชื่อที่พรรณนาถึงพระผู้ช่วยให้รอด (พระเมสสิยาห์)ผู้จะปกครองคนของพระองค์
1.“ที่ปรึกษามหัศจรรย์” =พระเมสสิยาห์ ในฐานะกษัตริย์ (มคา.4:9) เป็น
- 1).ผู้ตัดสินใจ
- 2).ผู้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง (อสย. 14:27) พระเมสสิยาห์ ผู้ทรงมาจากเชื้อวงศ์ของดาวิด จะมาทำราชกิจที่ทำให้คนทั้งโลกอัศจรรย์ใจ (ราชกิจนั้นเป็นอย่างไร ได้เริ่มถูกกล่าวไว้ใน อสย.11 และชัดเจนขึ้นใน อสย. 24-27 โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน 25:1) ~พระเจ้าทรงเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ยอดเยี่ยม ~อสย. 28:29; วนฉ. 13:18
2. “พระเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์” =เน้นฤทธานุภาพของพระเจ้าในฐานะนักรบผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ~อสย. 10:21
3. “พระบิดานิรันดร์” =เน้น การเป็นผู้จัดเตรียม และผู้ปกป้องผู้เปี่ยมด้วยความเมตตาเอ็นดูของพระองค์เสมอไป(ปท. อสย.40:9-11)
4. “องค์สันติราช” =เน้น การปกครองของพระเมสสิยาห์ ที่จะนำความผาสุกและสวัสดิภาพมาสู่แต่ละคน สู่สังคมและประเทศชาติ (อสย. 11:6-9)
*** “บนพระที่นั่งของดาวิด” = บัลลังก์ของดาวิด ทั้งๆที่ในเวลาที่เขียนพระธรรมตอนนี้ ยังมีกษัตริย์ที่บาปอย่างอาหัสปกครองอยู่ แต่ก็มีคำพยากรณ์ว่าพระเมสสิยาห์ หรือพระคริสต์ จะมาจากเชื้อสายของดาวิด ที่ปกครองด้วยความชอบธรรมตราบนิรันดร์ (อสย. 11:3-5; 2ซมอ. 7:12-13, 16; ยรม. 33:15, 20-22)
7.พระเจ้าจะทำการของพระองค์นี้ด้วยความกระตือรือร้นจนกว่าทุกสิ่งจะสำเร็จเป็นจริง
“ความกระตือรือร้น*ของพระยาห์เวห์จอมทัพจะทำการนี้”
* “ความกระตือรือร้น” =พระเจ้าทรงรักและหวงแหนคนของพระองค์ และจะไม่ทอดทิ้งคนของพระองค์ ~อิสยาห์ 9:1-7 THSV11
เรื่องราวแห่งคำพยากรณ์ทั้งหมดตามแผนการของพระเจ้านั้น เริ่มต้นเป็นจริงในวันคริสต์มาส เมื่อพระคริสต์เจ้าจากสวรรค์ เสด็จลงมาบังเกิดเป็นเด็กทารกคนหนึ่ง ที่จะเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบมาจนทุกวันนี้ ก่อนที่จะสำเร็จสมบูรณ์ในวันที่ พระคริสต์จะเสด็จกลับมารับเราอีกครั้งหนึ่ง!
Thomas Merton กล่าวไว้ดีว่า
“พระคริสต์มาบังเกิดเพื่อเราในวันนี้ ก็เพื่อให้พระองค์ปรากฎต่อโลกนี้ ผ่านทางเรา!”
(Christ is born to us today, in order that he may appear to the whole world through us. )
ดังนั้นพี่น้องที่รัก ขอให้ วันนี้ คริสต์มาสและปีใหม่ เราจะมีความสุขและความยินดีกับการที่พระคริสต์
1.ทรงบังเกิดเพื่อเรา
2.ทรงกระทำ
- 1).เพื่อเรา
- 2).ในเรา
- 3).กับเรา และ
3.ผ่านเรา
จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (17 ธันวาคม 2022)