Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

เรื่องราวของคริสต์มาส โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (6)

คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (253)

คริสต์มาสมา ความกลัวไป!

ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกท่านคือ พระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้ามาประสูติที่เมืองของดาวิด” ลูกา 2:10-11 THSV11

But the angel said to them, “Do not be afraid. I bring you good news that will cause great joy for all the people. Today in the town of David a Savior has been born to you; he is the Messiah, the Lord.”  ~Luke 2:10-11 NIV

Seneca เคยพูดว่า

“ที่ไหนมีความกลัว ที่นั่นไม่มีความสุข!” (Where Fear is, Happiness is not!)

คนจำนวนมากไม่มีความสุข เพราะเขากลัว! ไม่ว่าจะกลัว

  • 1).สิ่งที่กำลังอยู่ตรงหน้า
  • 2).สิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว หรือ
  • 3).สิ่งที่จะเกิดตามมา

หนึ่งในท่ามกลางคนที่มีความกลัวเหล่านั้น ก็คือพวกคนเลี้ยงแกะ!  พวกเขาเป็นคนที่ต่ำต้อย ไร้อนาคต ไม่มีความหวัง

ในพระคริสตธรรมคัมภีร์ เล่าเรื่องราววันคริสต์มาส ที่เกี่ยวกับคนเลี้ยงแกะไว้ดังนี้

  • 1.พวกคนเลี้ยงแกะอยู่กลางทุ่ง (ไม่ว่าจะฤดูอะไร หนาวหรือร้อน แกะต้องกินอาหารทุกวัน) กำลังเฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน
    (พระวิหารต้องการแกะเพื่อใช้เป็นเครื่องบูชาตลอดทั้งปี และแกะจะถูกเลี้ยงในทุ่งใกล้เบธเลเฮมโดยมีคนเฝ้าให้พ้นจากขโมย และสัตว์ร้าย)
  • 2.ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้า (เป็นชื่อใช้เรียกทูตสวรรค์ ตลอดเรื่องการประสูติ ใน ลก.2:13,19;1:1;มธ1:20.24 ~สันนิษฐาน ว่าเป็นกาเบรียล ,1:19,26 ปท.16:7) มาปรากฏแก่พวกเขา และพระรัศมีขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา
  • 3.พวกคนเลี้ยงแกะกลัวนัก
  • 4.ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า

“อย่ากลัวเลย …เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกท่าน คือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้ามาประสูติที่เมืองของดาวิด นี่จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกท่าน คือท่านจะพบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า” 

# “พระผู้ช่วยให้รอด”=ชาวยิวต่างรอคอยผู้นำทางการเมืองที่จะมาปลดปล่อยพวกเขาจากการถูกปกครองโดยคนต่างชาติ แต่บางคนก็หวังว่าพระองค์จะช่วยพวกเขาให้รอดพ้นจากความเจ็บไข้ได้ป่วยและปัญหาทางกายภาพ แต่คำประกาศนี้ชี้ให้เห็นว่าพระผู้ช่วยรอดนี้จะมา ช่วยกู้พวกเขาให้รอดพ้นจากความบาปและความตาย  มธ.1:21; ยน.4:42

# “องค์พระผู้เป็นเจ้า” =คำที่เดิมใช้หมายถึงพระเจ้า แต่ต่อมาใช้หมายถึงพระเมสสิยาห์ หรือพระคริสต์ด้วย ~กจ.2:36;ฟป.2:11

  • 5. ชาวสวรรค์หมู่หนึ่งมาปรากฏอยู่กับทูตสวรรค์องค์นั้น ร่วมสรรเสริญพระเจ้าว่า

“พระสิริจงมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด ส่วนบนแผ่นดินโลก สันติสุขจงมีท่ามกลางมนุษย์ทั้งหลายที่พระองค์โปรดปรานนั้น”

# คำสรรเสริญสั้นๆนี้ เรียกกันว่า “ Gloria in Excelsis Deo” ซึ่งเป็นข้อความแรกในพระคัมภีร์ฉบับลาตินวุลเกต แปลว่ ‘ขอพระเกียรติสิริมีแด่พระเจ้าในที่สูงสุด’  ~ในที่นี้ ทูตสวรรค์แสดงการยอมรับในพระเกียรติสิริและพระบารมีของพระเจ้าด้วยการสรรเสริญพระองค์

# “สันติสุข” = ไม่ได้มีแก่ทุกคน แต่เฉพาะกับผู้ที่พระเจ้าเห็นชอบ พอพระทัย หรือโปรดปราน ~ลก.3:22;10:21;12:32

โรมควบคุมให้มีสันติสุขภายนอกที่เรียกว่า Pax Romana (สันติสุขแห่งโรม) โดยวัดจากความสงบสุขภายนอกซึ่งชั่วคราว แต่ทูตสวรรค์ประกาศเรื่องสันติสุขที่ล้ำลึกและยั่งยืนถาวรภายใน นั่นคือ สันติสุขแห่งจิตวิญญาณและจิตใจที่มาจากพระเยซูคริสต์องค์พระผู้ช่วยให้รอด (รม.5:1) ซึ่งเป็นพระเมสสิยาห์ ผู้สืบเชื้อสายมาจากดาวิด ทรงมีพระนามว่า “องค์สันติราช” (Prince of Peace) -อสย.9:6

พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่าจะมอบสันติสุขให้แก่ผู้ที่ติดตาม พระองค์ ~ยน.14:27;ฟป.4:7

  • 6.ทูตสวรรค์เหล่านั้นไปจากพวกเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว
  • 7.บรรดาคนเลี้ยงแกะก็พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแจ้งกับเรา”
  • 8.พวกคนเลี้ยงแกะเขาก็รีบไป แล้ว ก).พบนางมารีย์กับโยเซฟ และ
    ข).พบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า
  • 9.พวกคนเลี้ยงแกะเห็นแล้วจึงเล่าเรื่องที่เขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น
  • 10.คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องที่คนเลี้ยงแกะบอกกับเขา
  • 11.นางมารีย์ก็ ก).เก็บสิ่งเหล่านั้นไว้และ  ข).รำพึง (ใคร่ครวญ) อยู่ในใจ
  • 12.บรรดาคนเลี้ยงแกะจึงกลับไป ก).ถวายพระเกียรติและ ข). สรรเสริญพระเจ้า สำหรับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เขา ก.ได้ยินและ ข.ได้เห็นดังที่กล่าวไว้กับพวกเขา
  • 13.มารีย์และโยเซฟ จึงให้นาม พระกุมาร นั้นว่า เยซู หลังจากครบแปดวันซึ่งให้พระกุมารนั้นเข้าสุหนัต (ปฐก.17:10; ยน.7:22) ดังที่ทูตสวรรค์กล่าวไว้ก่อนที่พระองค์จะปฏิสนธิในครรภ์ ~ลูกา 2:8-21 THSV11

พี่น้องที่รัก

อย่าให้ความกลัวโน่นกลัวนี่ ครอบงำชีวิตของเราจนปราศจากความสุข
Zig Ziglar กล่าวไว้น่าคิดว่า

# ความกลัวมี 2 ความหมาย คือ

  • 1.ลืมทุกสิ่งแล้ววิ่งหนี หรือ
  • 2.ลุกขึ้นแล้วเผชิญกับทุกอย่าง แต่คุณต้องเลือกเอาเอง!”
    (Fear has two meanings: ‘Forget Everything And Run’ or ‘Face Everything And Rise.’ The choice is yours.”

ใช่ครับ เราจะเผชิญทุกอย่างในทุกสถานการณ์ได้อย่างมีความสุขแท้ที่เรียกว่าสันติสุข เมื่อเรามีพระเยซูคริสต์เจ้าสถิตอยู่กับเรา เหมือนดังที่ Thomas Watson กล่าวว่า

“ถ้าพระเจ้าเป็นพระเจ้าของเรา พระองค์จะประทานสันติสุขให้แก่เราในท่ามกลางความยากลำบากนั้น เมื่อมีพายุพัดกระหน่ำจากภายนอก พระองค์จะสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นภายใน โลกสามารถสร้างยุ่งยากลำบากได้ในท่ามกลางสันติภาพ แต่พระเจ้าสามารถสร้างสันติสุขได้ในท่ามกลางความลำบากยุ่งยาก!”

(If God be our God, He will give us peace in trouble. When there is a storm without, He will make peace within. The world can create trouble in peace, but God can create peace in trouble.)

วันนี้ ให้เราพิชิตความกลัวในชีวิต ด้วยสันติสุขที่มาจากพระคริสต์แห่งวันคริสต์มาสนี้

…จะดีไหมครับ?

ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (10 ธันวาคม 2022)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.