คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (252)
ไม่มีที่ว่างสำหรับพระผู้ช่วย?
“นางจึงคลอดบุตรชายหัวปี เอาผ้าอ้อมพันและวางไว้ในรางหญ้า เพราะว่าไม่มีที่ว่างในโรงแรมสำหรับพวกเขา” ~ลูกา 2:7 THSV11
“And she gave birth to her firstborn son and wrapped him in bands of cloth, and laid him in a manger, because there was no place for them in the inn.” ~Luke 2:7 NRSV
Leonard Ravenhill เคยถามขึ้นมาว่า
“ทำไมเราจึงคาดหวังว่า เราจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าที่องค์พระเยซูทรงเคยได้รับ?”
(Why do we expect to be better treated in this world than Jesus was?)
น่าแปลกและน่าขัน ที่โลกนี้ ปฏิบัติต่อพระเยซูคริสต์อย่างไม่แยแส
โลกไม่มีแม้แต่ที่ว่างสำหรับต้อนรับพระเจ้าจากสวรรค์ ผู้เสด็จลงมาเพื่อช่วยโลกให้รอดจากสภาวะสิ้นหวัง อย่างที่สมพระเกียรติ!
ในพระคัมภีร์ได้บันทึกเรื่องราวของคริสต์มาสแรกในโลกนี้ เมื่อพระเยซูคริสต์เจ้า เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ในรางหญ้าอย่างอนาถา
แทนที่จะเป็นที่ในโรงพยาบาลหรือในโรงแรมหรูที่มีห้องพักรับรองที่สมกับพระเกียรติของพระองค์ ไว้ดังนี้
1.จักรพรรดิออกัสตัสมีรับสั่งให้จดทะเบียนสำมะโนครัวทั่วทั้งแผ่นดิน
- 1).นี่เป็นครั้งแรกที่มีการจดทะเบียนสำมะโนครัว
~เพื่อเกณฑ์ทหาร และ ~เพื่อเก็บภาษี
#แต่ชาวยิวได้รับการยกเว้นไม่ต้องเข้าเป็นทหารของโรม
พระเจ้าทรงใช้กฤษฎีกาของจักรพรรดิต่างชาติเพื่อทำให้คำพยากรณ์ใน พระธรรมมีคาห์ 5:2 (และ มัทธิว 2:3-6 )สำเร็จ - 2).เกิดขึ้นในสมัยที่คีรินิอัสเป็นเจ้าเมืองซีเรีย
# คีรินิอัส น่าจะเป็นเจ้าเมืองที่ดำรงตำแหน่งสองวาระ
ก.ดำรงตำแหน่งในวาระแรกตอนนี้ (ลก.2:2) และ ข.ดำรงตำแหน่งครั้งที่สอง ใน กจ.5:37 (ซีเรียในที่นี้ เป็นแคว้นหนึ่งของโรมันและเป็นที่ตั้งของปาเลสไตน์)
# ซีซาร์ ออกัสตัสเป็นจักรพรรดิ
- 1).องค์แรก และ
- 2).องค์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโรม ในปี 31 ก่อน ค.ศ. ~ค.ศ.14
นาม “ออกัสตัส “ หมายความว่า “เป็นที่เทิดทูน” เป็นนามที่สภาซีเนทของโรม ร่วมกันลงมติถวายให้ ในปีที่ 27 ก่อนคริสตศักราช
เมื่อเปลี่ยนระบบการปกครองจากสาธารณรัฐเป็นระบอบจักรพรรดิ
แล้ว ซีซาร์ก็
- 1).ขยายอาณาเขตครอบคลุมโลกรอบๆ ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทั้งหมด
- 2).สถาปนา”สันติสุขแห่งโรม”(Pax Romana)อันโด่งดัง
- 3).นำจักรพรรดิเข้าสู่ยุคทองของ ก.วรรณกรรม ข. สถาปัตยกรรมแบบโรม
2. คนทั้งหลายต่างก็ไปจดทะเบียนที่เมืองของตน (หมายถึงเมืองที่เป็นภูมิลำเนาของบรรพบุรุษหรือต้นตระกูล)
3.โยเซฟก็เดินทางจากเมืองนาซาเร็ธแคว้นกาลิลี ไปที่เมืองของดาวิดชื่อเบธเลเฮม(บ้านเกิดของดาวิด~1ซมอ.17:12;20:6) ในแคว้นยูเดียด้วย เพราะว่าเขาเป็นวงศ์วานและเชื้อสายของดาวิด (ในสมัยนั้น ต้องใช้เวลาเดินทางราว3วัน)
4.โยเซฟไปจดทะเบียนพร้อมกับมารีย์หญิง
- 1).ที่เขาหมั้นไว้แล้ว (มธ.1:18) และ
- 2).กำลังตั้งครรภ์ (มารีย์ก็อยู่ในเชื้อสายและวงศ์ตระกูลของดาวิดด้วย และตามกฏหมาย ผู้หญิงอายุ12ปีขึ้นไป ต้องจ่ายภาษีรายบุคคลด้วย ดังนั้น มารีย์ จึงจำต้องไปขึ้นทะเบียนด้วย)
5.เขาทั้งสองอยู่ที่นั่น ก็ถึงเวลาที่มารีย์จะคลอดบุตร
6.มารีย์จึงคลอดบุตรชายหัวปี
- 1).เอาผ้าอ้อม (ปกติเป็นผ้าแถบใช้ห่อตัวทารกแรกเกิด) พันและ
- 2).วางไว้ในรางหญ้า (ปกติใช้ใส่อาหารสัตว์ ) เพราะว่าไม่มีที่ว่างในโรงแรมสำหรับพวกเขา” -ลูกา 2:1-7 THSV11
ถ้าขนาดพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่และสูงส่งมากสักเพียงใด ยังอาจ
- ไม่ได้เป็นที่รู้จัก
- ไม่ได้รับการต้อนรับ
- ไม่ได้รับพระเกียรติ หรือการเทิดทูนอย่างสมกับฐานะศักดิ์ ทั้งๆที่พระองค์ทรงเสด็จมาเพื่อช่วยไถ่บาปของมวลมนุษย์ เราเองก็อย่ามองหาเกียรติ หรือ การต้อนรับอันสูงส่งอะไร ในการรับใช้หรือในการทำพันธกิจของเราเพื่อผู้อื่น เช่นกัน
อย่าคิดหรือเข้าใจผิดว่า ถ้าเรารับใช้พระเจ้าและผู้อื่นแล้ว ชีวิตของเรา จะมีแต่
- 1).การได้รับแต่สิ่งดีๆตลอดเวลา
- 2).การได้รับในทุกสิ่งที่ต้องการ
- 3).การสะดวกสบายปลอดโปร่งเสมอ
- 4).การปลอดจากอุปสรรคปัญหาใดๆ
- 5).การไร้ซึ่งความทุกข์ ความเจ็บปวด เจ็บป่วย และความผิดหวังใดๆทั้งสิ้น
แต่ให้เราทำอย่างพระเยซูคริสต์ ที่ทรงเชื่อฟังพระบิดา และถ่อมพระองค์ลงมาบังเกิดเป็นทารกน้อยในวันคริสต์มาสนี้ และเติบใหญ่ยอมถูกตรึงไถ่บาปจนมรณาที่บนกางเขน เพื่อไถ่บาปของเราทุกคนตามแผนการของพระองค์
“จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้ แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมตัวลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขน” ~ฟีลิปปี 2:5-8 THSV11
เราทุกคนควรซาบซึ้งและขอบคุณพระเยซูคริสต์สำหรับสิ่งที่พระองค์ได้ทำเพื่อเรา เหมือนดังที่ Tim Keller กล่าวว่า
“พระเยซูคริสต์ ทรงยอมรับต้นไม้แห่งความมรณา เพื่อเราจะได้ต้นไม้แห่งชีวิต!” (Jesus took the tree of death so you could have the tree of life.)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มี
- 1.ห้อง หรือ ที่ว่างสำหรับพระองค์ในยามที่ทรงมาบังเกิดหรือ แม้แต่
- 2.สุสานส่วนตัวของพระองค์เองในยามที่ถูกตรึงสิ้นพระชนม์ แต่บัดนี้ พระองค์ทรงมีที่ประทับสูงส่งในสวรรค์ และในหัวใจของคนหลายพันล้านคนในโลกนี้
“เพราะฉะนั้นพระเจ้าจึงทรงยกพระองค์ขึ้นสูงสุด และประทานพระนามเหนือนามทั้งหมดแก่พระองค์ เพื่อที่ว่าเพราะพระนามของพระเยซูนั้น
ทุกชีวิตในสวรรค์ บนแผ่นดินโลก และใต้พื้นแผ่นดินโลกจะคุกเข่าลงกราบพระองค์ และเพื่อที่ว่าทุกลิ้นจะยอมรับว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เป็นการถวายพระเกียรติแด่พระเจ้าพระบิดา!” ~ฟีลิปปี 2:9-11 THSV11
… วันหนึ่งเราทุกคนที่เชื่อ เชื่อฟัง และทำตามแบบอย่างขององค์พระคริสต์ ด้วยความวางใจจนถึงที่สุด ก็จะได้มีส่วนร่วมในพระเกียรติสิริของพระองค์นั้นด้วยเช่นกัน ด้วย
อย่างนี้ เราน่าจะร้องว่า “ฮาเลลูยา”ต่อพระนามของพระเยซูคริสต์แห่งวันคริสต์มาสนี้ ออกมา ด้วยความชื่นชมยินดียิ่ง! เหมือนดังที่ John Newton ผู้ประพันธ์บทเพลงอมตะ”พระคุณพระเจ้า” (Amazing Grace ) กล่าวว่า
“นามของพระเยซูช่างไพเราะยิ่งนัก ในโสตสัมผัสของบรรดาผู้เชื่อผู้จงรัก นามนี้บรรเทาความทุกข์โศกเศร้า ช่วยเยียวยารักษาบาดแผลขีวิต และขับไล่ความกลัว ให้มลายหายไปสิ้น!” (How sweet the name of Jesus sounds, in a believer’s ear! It soothes his sorrows, heals his wounds, and drives away his fear.)
… อาเมนไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (9 ธันวาคม 2022)