คอลัมน์ :”ส ด แ ต่ เ ช้ า” ปี 2 (251)
แสงอรุณจากเบื้องสูงแห่งวันคริสต์มาส!
“โดยพระทัยเมตตาของพระเจ้าของเรา แสงอรุณจากเบื้องสูงจึงมาเยี่ยมเยียนเรา” ~ลูกา 1:78 THSV11
“because of the tender mercy of our God, by which the rising sun will come to us from heaven” ~Luke 1:78 NIV
พระสันตปาปาจอห์น ปอลที่ 2 ตรัสว่า
“ถ้าแยกจากพระเมตตาคุณขององค์พระเป็นเจ้า จะไม่มีความหวังจากแหล่งอื่นใดสำหรับมนุษยชาติอีกเลย!”
( Apart from the mercy of God, there is no other source of hope for mankind.) ~Pope John Paul II
ในพระคัมภีร์ ได้พรรณนาถึงพระทัยอันเมตตาของพระเจ้าจากคำพยากรณ์ของเศคาริยาห์ เกี่ยวกับการเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสต์เจ้า ผู้เป็นดุจแสงอรุณจากเบื้องสูงที่ส่องลงมายังโลกแห่งความมืดมิดเพราะบาปไว้ดังนี้
1.เศคาริยาห์ผู้เป็นบิดา (ของยอห์น)
- 1).เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ (เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำ ให้แสดงสิ่งที่เกินความคาดคิดให้เกิดขึ้นในที่นี้ คือนำให้เศคาริยาห์ กล่าวคำพยากรณ์ ที่ไม่ใช่เพียงแค่คำทำนายถึงอนาคตแต่
เป็นการประกาศพระดำรัสและพระดำริของพระเจ้าด้วย และทั้งเศคาริยห์ และเอลิซาเบธ ต่างก็ได้รับการทรงนำจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กระทำเช่นนั้น) - 2).กล่าวพยากรณ์ว่า “สาธุการแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าของอิสราเอล เพราะว่าพระองค์:
- -ก.ทรงเยี่ยมเยียน และ
- -ข.ทรงไถ่ชนชาติของพระองค์ (การไถ่นี้ ไม่ได้จำกัดอยู่ที่เพียงเรื่องความรอดหรือความมั่นคงของประเทศ ~ข.71 แต่รวมถึงความรอดด้านศีลธรรมและจิตวิญญาณด้วย~ข.75,77)
- -ค.ทรงให้ผู้ช่วยทรงฤทธิ์ (คือพระเยซูคริสต์ องค์พระเมสสิยาห์)เกิดมาเพื่อเรา ในเชื้อวงศ์ของดาวิดผู้รับใช้ของพระองค์ ตามที่พระองค์ตรัสไว้ตั้งแต่โบราณโดยปากของผู้เผยพระวจนะบริสุทธิ์ของพระองค์ คือ
- –ง.ทรงให้เรารอด 1).พ้นจากพวกศัตรู และ 2).พ้นจากเงื้อมมือของทุกคนที่เกลียดชังเรา ( รวมทั้งการปลดปล่อยจากการกดขี่ข่มเหง และการพันธนาการทุกรูปแบบ ไม่ใช่เพียงแต่ปลดปล่อยให้พ้นจากบาปเท่านั้น)
ดังนั้นพระองค์จึง
- -จ.ทรงสำแดงพระกรุณาตามที่ทรงสัญญาแก่บรรพบุรุษของเรา และ
- -ฉ.ทรงระลึกถึงพันธสัญญาบริสุทธิ์ของพระองค์ คือคำปฏิญาณที่พระองค์ทรงทำไว้กับอับราฮัมบรรพบุรุษของเราว่า เมื่อเราพ้นจากเงื้อมมือของพวกศัตรูแล้ว จะโปรดให้เราปรนนิบัติพระองค์โดยปราศจากความกลัว 1).ด้วยความบริสุทธิ์และ 2).ด้วยความชอบธรรม เฉพาะพระพักตร์พระองค์ตลอดชีวิต
“ทารกเอ๋ย(ยอห์น)เขาจะเรียกเจ้าว่า”ผู้เผยพระวจนะของผู้สูงสุด” ~ลก.1:76 (ในขณะที่พระเยซูคริสต์ จะได้รับการเรียกว่า “พระบุตรของพระเจ้าสูงสุด”~ลก.1:32
เพราะว่าเจ้า
- -ก.จะนำหน้าองค์พระผู้เป็นเจ้าและ
- -ข.จะจัดเตรียมมรรคาของพระองค์ เพื่อจะให้ชนชาติของพระองค์รู้ถึงความรอดซึ่งมาทางการทรงยกโทษบาปเขาเหล่านั้น โดยพระทัยเมตตาของพระเจ้าของเรา “แสงอรุณจากเบื้องสูง”(หมายถึง การเสด็จมาขององค์พระเยซูคริสต์ผู้เป็นพระเมสสิยาห์)
- ก. มาเยี่ยมเยียนเรา
- ข. ส่องสว่างแก่คนทั้งหลายที่อยู่ – ก).ในความมืด และ ข).ในเงาของความมรณา (คือคนที่ถูกแยกจากพระเจ้าและหลงหายไปจากพระองค์ ~อสย.9:1-2;มธ.4:15-16) เพื่อจะนำเท้าของเราไปในทางสันติสุข”
2.ทารกน้อยนั้น (ยอห์น)
- 1).ก็เจริญวัยขึ้น และ
- 2).จิตวิญญาณก็มีกำลังทวีขึ้น
- 3).ท่านไปอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดาร (บิดามารดาของยอห์นให้กำเนิดเขา ตอนที่พวกท่านชรามากแล้ว จึงน่าจะเสียชีวิตก่อนที่ยอห์นจะเป็นหนุ่ม เขาจึงไปเติบโตในถิ่นทุรกันดารยูเดีย ที่อยู่ระหว่างเยรูซาเล็ม กับทะเลตาย) จนถึงวันที่ท่านมาปรากฏแก่ชนชาติอิสราเอล ( ยอห์น ปรากฏตัว เริ่มต้นพันธกิจ ในการเทศนา สั่งสอน และประกาศเรื่องการเสด็จมาของพระเมสสิยาห์ ต่อสาธารณชนในตอนอายุราว 30ปี) ~ลูกา 1:67-80
ในพระธรรมตอนนี้ (ลก.1:68~79) ถูกเรียกว่า “เบเนดิกทัส” (Benedictus) แปลว่า “ขอสรรเสริญ” ตามคำขึ้นต้นของบทเพลงตอนนี้ ในพระคัมภีร์ฉบับแปลลาติน วุลเกต
ขณะที่
- 1.“แมกนิฟีแคท” (Magnificat) ใน ลก.1:46~55 เป็นดุจเพลงสดุดี
- 2.“เบเนดิกทัส” (Benedictus) ใน ลก.1:68~79 นี้ ก็เป็นเหมือนเพลงสดุดีที่เป็นคำพยากรณ์ด้วย
สิ่งที่เศคาริยาห์พรรณนา ทำให้ผมระลึกพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวที่ว่า
” .. อันความกรุณาปรานี จะมีใครบังคับก็หาไม่ หลั่งมาเองเหมือนฝน อันชื่นใจ จากฟากฟ้า สุราลัยสู่แดนดิน .. ”
พี่น้องที่รัก
พระเจ้าทรงบัญชาต่อเศคาริยาห์ เอลีซาเบธ และยอห์น ให้มีส่วนในแผนการนำแสงอรุณแห่งความกรุณาปรานีของพระเจ้าจากฟากฟ้าเบื้องบนลงมาเพื่อช่วยมวลมนุษยชาติเบื้องล่างให้รอดพ้นจากกรรมบาปที่แต่ละคนได้ก่อขึ้นมาเอง และทั้งสามล้วนตอบสนองเป็นอย่างดีด้วยใจสดุดี และโมทนาสรรเสริญพระเจ้า
แล้วถ้าวันนี้ พระเจ้าทรงเลือกและทรงเรียกให้คุณมีส่วนในพันธกิจแห่งการช่วยให้รอดนี้ด้วย …คุณจะตอบสนองอย่างไร?
ขอให้คุณระลึกถึงและยึดมั่นทำตามถ้อยคำของเซนต์ออกัสติน ดังนี้ ไว้เสมอว่า
“จงวางใจ มอบอดีตไว้กับพระเมตตาของพระเจ้า มอบปัจจุบันไว้กับความรักของพระองค์ และมอบอนาคตไว้กับการจัดเตรียมของพระองค์!”
(Trust the past to the mercy of God, the present to His love, and the future to His providence.) ~Saint Augustine
…จะดีไหมครับ?
ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ (8 ธันวาคม 2022)