Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม    “พระคัมภีร์สอนในเรื่องมิตรสหายไว้อย่างไรบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในเรื่องการตายเพื่อเพื่อนของตน?”

คำตอบ : “พระคัมภีร์กล่าวถึงเรื่องเพื่อนหรือมิตรสหายไว้ดังนี้

  1. พระเจ้าทรงเป็นมิตรสหายกับคนที่เชื่อฟังพระองค์

“พระยาห์เวห์เคยตรัสกับโมเสสสองต่อสอง เหมือนมิตรสหายสนทนากัน แล้วโมเสสก็กลับไปยังค่าย แต่ผู้รับใช้หนุ่มของท่าน คือโยชูวาบุตรนูน ไม่ได้ออกไปจากเต็นท์”  ~อพยพ 33:11 THSV11

  1.   เราต้องรู้จักคบหามิตรสหาย และเมื่อเป็นเพื่อนกันแล้ว จะเมตตาดูแลกันเสมอ

“ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวความเมตตาไว้จากเพื่อน ก็ทอดทิ้งความยำเกรงองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์” ~โยบ 6:14 THSV11

“วันรุ่งขึ้นเราแวะที่เมืองไซดอน ยูเลียสนั้นมีใจเมตตาต่อเปาโล ยอมให้เปาโลไปหาบรรดามิตรสหายเพื่อรับการดูแล”  ~กิจการ 27:3 THSV11

  1. เราต้องไม่คบหามิตรเพียงจากการที่เขามีฐานะ และตีจากเพื่อนเพียงเพราะเขายากจน

 “ทรัพย์สมบัติทำให้มีเพื่อนมากมาย แต่คนยากจนก็ถูกเพื่อนตีจาก”    ~สุภาษิต 19:4 THSV11

  1. เราต้องไม่ซุบซิบนินทาเพื่อน หรือ ทะเลาะวิวาทกับเพื่อนของเรา

“คนตลบตะแลงแพร่การวิวาท และผู้ซุบซิบนินทาก็แยกเพื่อนสนิทออกจากกัน” ~สุภาษิต 16:28 THSV11

  1. เราต้องไม่ด่าว่า หรือกล่าวร้ายเพื่อนของเรา

“เพื่อนๆ ของข้าด่าข้า ดวงตาของข้าเทน้ำตาออกถวายพระเจ้า” ~โยบ 16:20 THSV11 

  1. เราต้องไม่ยืนห่าง ผละหนี หรือ ทอดทิ้งเพื่อนในยามที่เขายากลำบาก

“ใจของข้าพระองค์สั่น และเรี่ยวแรงของข้าพระองค์หมดไป และความสว่างในดวงตาของข้าพระองค์ก็พรากไปจากข้าพระองค์ มิตรสหายและเพื่อนบ้านของข้าพระองค์ยืนห่างจากภัยพิบัติที่ข้าพระองค์ได้รับ และญาติของข้าพระองค์ยืนห่างออกไปไกลโพ้น” ~สดุดี 38:10-11 THSV11

“ญาติของข้าผละหนี และเพื่อนของข้าก็ทิ้งข้า” ~โยบ 19:14 THSV11

  1. เราต้องไม่ทรยศหักหลัง ต่อสู้ หรือ ทำร้ายเพื่อนๆของเรา

“แม้แต่เพื่อนสนิทผู้ที่ข้าพเจ้าไว้วางใจ ผู้รับประทานอาหารของข้าพเจ้าก็ยกส้นเท้าใส่ข้าพเจ้า” ~สดุดี 41:9 THSV11

“เพราะมิใช่ศัตรูที่เยาะเย้ยข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงจะทนได้ มิใช่ผู้ที่เกลียดชังข้าพเจ้า ผู้ที่ยกตัวข่มข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจึงจะซ่อนตัวจากเขาได้ แต่เป็นท่าน ผู้เท่าเทียมกับข้าพเจ้า เป็นเพื่อนสนิทของข้าพเจ้า เป็นมิตรรู้จักมักคุ้นกับข้าพเจ้า เราเคยสนทนาปราศรัยกันอย่างชื่นใจ เราเคยเดินท่ามกลางฝูงชนในพระนิเวศของพระเจ้า เพื่อนสนิทของข้าพเจ้ายื่นมือออกต่อสู้เพื่อนของเขา เขาละเมิดพันธสัญญาของเขา คำพูดของเขาลื่นยิ่งกว่าเนย แต่สงครามอยู่ภายในใจของเขา ถ้อยคำของเขานุ่มนวลกว่าน้ำมัน แต่ทว่าเป็นดาบที่ชักออกมาแล้ว” ~สดุดี 55:12-14, 20-21 THSV11

“ผู้ที่หักหลังเพื่อนเพื่อจะได้ส่วนแบ่ง ดวงตาลูกหลานของเขาจะมืดมัว” ~โยบ 17:5 THSV11

  1. เราต้องยืนหยัดพึ่งพระเจ้าในยามที่ถูกเพื่อนและคนในครอบครัวหักหลัง หรือมุ่งทำร้ายเรา

“แม้แต่บิดามารดา ญาติพี่น้องและมิตรสหายก็จะมอบตัวพวกท่านไว้ และพวกเขาจะฆ่าพวกท่านบางคน ทุกคนจะเกลียดชังพวกท่านเพราะนามของเรา แต่ผมสักเส้นหนึ่งของท่านก็จะไม่เสียไป พวกท่านจะได้ชีวิตรอดโดยความทรหดอดทนของท่าน” ~ลูกา 21:16-19 THSV11

  1. เราควรมีเพื่อนที่จะร่วมแบ่งปันความสุข และ ร่วมแบ่งเบาความทุกข์ของเรา

“เมื่อมาถึงบ้าน เขาก็เชิญมิตรสหายและเพื่อนบ้านให้มาพร้อมกัน แล้วพูดกับพวกเขาว่า ‘มาร่วมยินดีกับข้า เพราะข้าพบแกะของข้าที่หายไปนั้นแล้ว’” ~ลูกา 15:6 THSV11 

  1. เราควรทักทาย และคงรักษามิตรภาพกับเพื่อนๆ ของเราแต่ละคนอยู่เสมอ

“ขอสันติสุขจงมีแก่ท่าน เพื่อนๆ ฝากคำทักทายมายังท่าน ขอฝากคำทักทายมายังเพื่อนทีละคนทุกคน”  ~3 ยอห์น 1:15 THSV11

  1. เราควรให้อภัยและพูดความจริงตรงๆ กับเพื่อนด้วยความรักโดยไม่พูดตอกย้ำความผิดของเขา

“คนที่เป็นเพื่อนแท้ คือคนที่ตอบตรงไปตรงมา” ~สุภาษิต 24:26 THSV11

“ผู้ให้อภัยการละเมิดก็มุ่งจะสร้างมิตรภาพ แต่คนที่ชอบพูดย้ำความผิดจะทำให้เพื่อนสนิทแตกคอกัน”  ~สุภาษิต 17:9 THSV11

  1. เราควรเสริมสร้างเพื่อนของเรา และรับการเสริมสร้างจากพวกเขาเช่นกัน

“เหล็กลับเหล็กให้คมได้ฉันใด คนหนึ่งก็ลับเพื่อนของตนให้เฉียบแหลมได้ฉันนั้น” ~สุภาษิต 27:17 THSV11

  1. เราไม่ควรวางปัญหาของเราไปเพิ่มภาระให้แก่เพื่อนโดยไม่จำเป็น

“อย่าทอดทิ้งเพื่อนของเจ้า และเพื่อนของบิดาเจ้า และอย่าไปที่บ้านพี่น้องของเจ้าในวันที่เจ้าพบความหายนะ เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ ดีกว่าพี่น้องที่อยู่ไกล” ~สุภาษิต 27:10 THSV11

  1. เราต้องไม่เป็นคนนำความหายนะมาให้แก่เพื่อน แต่พร้อมช่วยเหลือพวกเขาดุจพี่น้อง

“มีเพื่อนบางคนนำความหายนะมาให้ แต่มีสหายที่ใกล้ชิดยิ่งกว่าพี่น้อง” ~สุภาษิต 18:24 THSV11

“มิตรสหายย่อมรักกันทุกเวลา และพี่น้องเกิดมาเพื่อช่วยกันยามทุกข์ยาก” ~สุภาษิต 17:17 THSV11

  1. เราควรเป็นเพื่อนที่พร้อมทำงานร่วมกัน และพยุงกันขึ้นมาในยามที่คนใดล้มลง

“สองคนดีกว่าคนเดียว เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับรางวัลดีสำหรับการตรากตรำของพวกเขา เพราะว่าถ้าพวกเขาล้มลง คนหนึ่งจะได้พยุงเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น แต่วิบัติแก่คนนั้นที่อยู่คนเดียวเมื่อเขาล้มลง และไม่มีใครพยุงเขาให้ลุกขึ้น”  ~ปัญญาจารย์ 4:9-10 THSV11 

  1. เราควรเป็นมิตรสหายของพระเยซูคริสต์ ที่ประพฤติตนตามที่พระองค์ทรงบัญชาหรือสำแดงแก่เรา

“ถ้าพวกท่านประพฤติตามที่เราสั่ง ท่านก็จะเป็นมิตรสหายของเรา” ยอห์น 15:14 THSV11

“เราจะไม่เรียกพวกท่านว่าบ่าวอีก เพราะบ่าวไม่ทราบว่านายทำอะไร แต่เราเรียกท่านว่ามิตรสหาย เพราะว่าทุกสิ่งที่เราได้ยินจากพระบิดา เราสำแดงแก่พวกท่านแล้ว” ~ยอห์น 15:15 THSV11

  1. เราควรขอบคุณและยำเกรงพระเยซูคริสต์ที่ยอมเป็นสหายของเรา มากกว่ากลัวมนุษย์คนใด

“มิตรสหายของเราเอ๋ย เราบอกพวกท่านว่า อย่ากลัวผู้ที่ฆ่าได้แต่กาย เสร็จแล้วไม่มีอะไรที่จะทำได้อีก” ~ลูกา 12:4 THSV11

  1. เราควรพร้อมเสียสละเพื่อเพื่อนของเราด้วยความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระคริสต์

“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน” ~ยอห์น 15:13 THSV11

  1. เราควรเป็นเพื่อนกับทุกคนที่ยำเกรงและปฏิบัติตามบัญญัติของพระเจ้า

“ข้าพระองค์เป็นเพื่อนกับทุกคนที่ยำเกรงพระองค์ กับคนที่ปฏิบัติตามข้อบังคับของพระองค์” ~สดุดี 119:63 THSV11

  1. เราต้องไม่นมัสการพระเจ้า และทำชั่วต่อเพื่อนและเพื่อนบ้านไปในเวลาเดียวกัน

“ข้าแต่พระยาห์เวห์ ผู้ใดจะอาศัยอยู่ในพลับพลาของพระองค์? ผู้ใดจะอยู่บนภูเขาบริสุทธิ์ของพระองค์? คือผู้ดำเนินชีวิตอย่างหาที่ติมิได้และทำสิ่งที่ชอบธรรม และพูดความจริงจากใจของตน ผู้ไม่ใช้ลิ้นของตนในการนินทาว่าร้าย ไม่ทำชั่วต่อเพื่อน และไม่เยาะเย้ยเพื่อนบ้านของตน” ~สดุดี 15:1-3 THSV11

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.