Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม   “พระคัมภีร์กล่าวถึงรักที่มองเห็นได้ (Love in Action) ไว้อย่างไรบ้าง?”

คำตอบ:  “พระคัมภีร์กล่าวถึงรักแบบนี้ ไว้ดังนี้

“นี่เป็นคำสั่งสอนที่ท่านทั้งหลายได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เริ่มแรก คือให้เรารักกันและกัน อย่าเป็นเหมือนอย่างคาอินที่มาจากมารและฆ่าน้องของตนเอง ทำไมเขาถึงฆ่าน้อง? ก็เพราะการกระทำของเขาชั่วและการกระทำของน้องนั้นชอบธรรม พี่น้องเอ๋ย อย่าประหลาดใจที่โลกนี้เกลียดชังท่าน เรารู้ว่าเราได้พ้นจากความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ก็เพราะเรารักพี่น้อง ผู้ที่ไม่รักก็ยังอยู่ในความตาย ผู้ที่เกลียดชังพี่น้องของตนก็เป็นผู้ฆ่าคน และพวกท่านก็รู้อยู่แล้วว่าผู้ฆ่าคนนั้นไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขาเลย เช่นนี้แหละเราจึงรู้จักความรัก โดยที่พระองค์ได้ยอมสละพระชนม์ของพระองค์เพื่อเรา และเราก็ควรจะสละชีวิตของเราเพื่อพี่น้อง แต่ถ้าใครมีทรัพย์สมบัติในโลกนี้ และเห็นพี่น้องของตนขัดสนแล้วยังไม่เปิดใจช่วยเขา ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในคนนั้นได้อย่างไร? ลูกทั้งหลายเอ๋ย อย่าให้เรารักกันด้วยคำพูดและด้วยปากเท่านั้น แต่จงรักกันด้วยการกระทำและด้วยความจริง” -1 ยอห์น 3:11-18 THSV11

สรุปได้ดังนี้ว่า

  • 1.)เราถูกสอนให้รักกันมาตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว
  • 2.)เราถูกเตือนไม่ให้ทำชั่ว ทำร้ายหรือฆ่ากัน โดยปราศจากความรัก
  • 3.)เราถูกเตือนไม่ให้ประหลาดใจเมื่อโลกที่ไร้ความรักเกลียดชังเรา
  • 4.)เรารู้ว่าเรามีชีวิตนิรันดร์จากพระเจ้า เมื่อเรารักพี่น้อง
  • ก)ผู้ที่ไม่รัก ~ก็ยังอยู่ในความตาย
  • ข)ผู้ที่ไม่รัก~ก็คือผู้เกลียดชังและฆ่าพี่น้อง
  • ค)ผู้ที่ไม่รัก~ก็ไม่มีชีวิตนิรันดร์ดำรงอยู่ในตัวเขา
  • 5.) เรารู้จักความรัก จากการที่พระเยซูคริสต์ยอมสละพระชนม์เพื่อคนบาปอย่างเรา
  • 6.)เราถูกเตือนสติให้พร้อมสละชีวิตเพื่อพี่น้องของเรา
  • 7.)เราได้รับการเตือนสติว่า ความรักของพระเจ้าจะดำรงอยู่ในตัวเราได้อย่างไร ถ้าเราไม่ช่วยเมื่อ
  • ก)เรามีทรัพย์สมบัติในโลก และ
  • ข)เราเห็นพี่น้องของเราขัดสน
  • 8.)เราถูกตักเตือนว่า
  • ก)เราต้องไม่รักกันด้วยคำพูด และด้วยปากเท่านั้น
  • ข) เราต้องรักกันด้วยการกระทำ และความจริงด้วย

นอกจากนี้ พระคัมภีร์ยังมีคำสอนอีกว่า

1.ถ้าเรารักด้วยการกระทำ เช่น เมตตาต่อคนยากจน ก็เท่ากับให้พระเจ้ายืม

“คนที่เมตตาคนยากจนก็ให้พระยาห์เวห์ทรงยืม และพระองค์จะทรงตอบแทนการกระทำของเขา” -สุภาษิต 19:17 THSV11

2.ถ้าเรามีครอบครัว เราต้องแสดงความรักต่อคนในบ้านของเราโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อภรรยา

“ในทำนองเดียวกัน สามีต้องรักภรรยาของตนเหมือนรักร่างกายของตัวเอง คนที่รักภรรยาของตัวเองก็รักตัวเองด้วย” -เอเฟซัส 5:28 THSV11

3.ถ้าเรารักผู้ใด เราจะทน เชื่อ มีความหวังและทรหดอดทน ต่อเขาได้นาน โดยไม่สิ้นหวัง

“ความรักทนได้ทุกอย่าง เชื่ออยู่เสมอ มีความหวังและความทรหดอดทนอยู่เสมอ” -1 โครินธ์ 13:7 THSV11

4.ถ้าพระเจ้าทรงรักเรา เราก็ควรรักกันและกัน เป็นการกระทำออกมาด้วย

“ท่านที่รักทั้งหลาย ถ้าพระเจ้าทรงรักเราอย่างนั้น เราก็ควรจะรักกันและกันด้วย” -1 ยอห์น 4:11 THSV11

5.ถ้าเรารักกัน  เราต้องกล้าเตือนสติแบบต่อหน้าด้วยความห่วงใยอย่างให้เกียรติกัน

“ว่ากันต่อหน้า ดีกว่ารักกันลับๆ” -สุภาษิต 27:5 THSV11

6.ถ้าเรารักกัน เราจะไม่ทำอันตรายพี่น้องและเพื่อนบ้านของเราเลย

“ความรักไม่ทำอันตรายต่อเพื่อนบ้านเลย เพราะฉะนั้นความรักจึงเป็นสิ่งที่ทำให้ธรรมบัญญัติสำเร็จอย่างครบถ้วน” -โรม 13:10 THSV11

7.ถ้าเรารักกันจริงๆ เราจะยอมสละแม้แต่ชีวิตของเราเพื่อกันและกัน

“ไม่มีใครมีความรักยิ่งใหญ่กว่านี้ คือการสละชีวิตเพื่อมิตรสหายของตน” -ยอห์น 15:13 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนุรัตน์-

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.