Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม:  “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเกี่ยวกับ น้ำใจ ในเรื่องราวของวันคริสต์มาส?”

คำตอบ:  “ พระคัมภีร์สอนเรื่องน้ำใจ ผ่านเรื่องราวของวันคริสต์มาสไว้ดังนี้

1.พระเจ้าทรงสำแดงน้ำพระทัยกว้างขวางในการช่วยมนุษย์ให้รอดผ่านคนที่ไม่สมบูรณ์ เช่น

  • ทามาร์ ~หญิงที่ปลอมตัวเป็นโสเภณี

“ยูดาห์มีบุตรชื่อเปเรศกับเศราห์ซึ่งเกิดจากนางทามาร์ เปเรศมีบุตรชื่อเฮสโรน เฮสโรนมีบุตรชื่อราม” ~มัทธิว 1:3 THSV11

  • ราหับ ~หญิงที่มีอาชีพเป็นโสเภณี

“สัลโมนมีบุตรชื่อโบอาสซึ่งเกิดจากนางราหับ” ~มัทธิว 1:5ก. THSV11

  • รูธ~หญิงต่างชาติ ที่เป็นแม่ม่าย

“โบอาสมีบุตรชื่อโอเบดซึ่งเกิดจากนางรูธ โอเบดมีบุตรชื่อเจสซี” ~มัทธิว 1:5ข. THSV11

2.โยเซฟมีน้ำใจที่หวังช่วยมารีย์เมื่อรู้ว่าเธอตั้งครรภ์ และหมายถอนหมั้นอย่างลับๆ เพื่อไม่ให้มารีย์ถูกหินขว้างตาย

“แต่โยเซฟคู่หมั้นของเธอเป็นคนชอบธรรม ไม่ต้องการจะแพร่งพรายความเป็นไปของเธอ ต้องการจะถอนหมั้นเสียลับๆ”  ~มัทธิว 1:19 THSV11

3.พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยเมตตาต่อเศคาริยาห์ และเอลีซาเบธ สามีภรรยาผู้สิ้นหวัง โดยประทานบุตรชายคือยอห์น มาให้ในยามที่พวกเขาหมดหวังไปแล้ว

“ในรัชกาลของเฮโรดกษัตริย์ของยูเดีย มีปุโรหิตคนหนึ่งชื่อเศคาริยาห์ซึ่งอยู่ในกองเวรอาบียาห์ ภรรยาของเศคาริยาห์ชื่อเอลีซาเบธ อยู่ในตระกูลอาโรน ท่านทั้งสองเป็นคนชอบธรรมต่อพระเจ้าและดำเนินตามบัญญัติและกฎหมายทั้งปวงขององค์พระผู้เป็นเจ้าไม่มีที่ติเลย แต่ท่านทั้งสองไม่มีบุตร เพราะว่านางเอลีซาเบธเป็นหมัน และท่านทั้งสองก็ชราแล้ว” ~ลูกา 1:5-7 THSV11

“แต่ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวแก่ท่านว่า “เศคาริยาห์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะพระองค์ทรงฟังคำอธิษฐานของท่านแล้ว นางเอลีซาเบธภรรยาของท่านจะให้กำเนิดบุตรชาย ท่านจงตั้งชื่อบุตรนั้นว่ายอห์น” ~ลูกา 1:13 THSV11

“ภายหลังนางเอลีซาเบธภรรยาของท่านตั้งครรภ์ และอยู่กับบ้านอย่างเงียบๆ ห้าเดือน นางกล่าวว่า “องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงทำเช่นนี้แก่ข้าพเจ้าในวันที่พระองค์ทอดพระเนตร เพื่อว่าความอดสูของข้าพเจ้าที่มีอยู่ท่ามกลางคนทั้งปวงจะหมดสิ้นไป”” ~ลูกา 1:24-25 THSV11

4.พระเจ้าทรงมีน้ำพระทัยช่วยคนทั้งโลกให้รอดผ่านหญิงสาวธรรมดาไร้เดียงสาคนหนึ่ง

“ทูตสวรรค์มาหานางแล้วบอกว่า “เธอผู้ที่พระเจ้าโปรดปรานมาก จงชื่นชมยินดีเถิด องค์พระผู้เป็นเจ้าสถิตอยู่กับเธอ” แล้วทูตสวรรค์จึงกล่าวแก่นางว่า “มารีย์เอ๋ย อย่ากลัวเลย เพราะเธอเป็นผู้ที่พระเจ้าโปรดปราน นี่แน่ะ เธอจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย จงตั้งชื่อบุตรนั้นว่าเยซู บุตรนั้นจะเป็นใหญ่ และจะได้ชื่อว่าเป็นบุตรของพระเจ้าสูงสุด องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้เป็นพระเจ้าจะประทานบัลลังก์ของดาวิดบรรพบุรุษของท่านให้แก่ท่าน” ~ลูกา 1:28, 30-32 THSV11

5.มารีย์มีน้ำใจไปเยี่ยม เอลีซาเบธญาติของเธอที่กำลังตั้งครรภขึ้นมาในวัยชรา

“ในเวลานั้นมารีย์จึงรีบไปยังเมืองหนึ่งในแถบภูเขาแคว้นยูเดีย แล้วเข้าไปในบ้านของเศคาริยาห์ทักทายปราศรัยกับนางเอลีซาเบธ เมื่อนางเอลีซาเบธได้ยินคำทักทายของมารีย์ ทารกในครรภ์ของนางก็ดิ้น และนางเอลีซาเบธก็เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์ จึงร้องเสียงดังว่า “ในบรรดาสตรีเธอได้รับพรมาก และทารกในครรภ์ของเธอก็ได้รับพระพรด้วย ทำไมฉันถึงได้รับความโปรดปรานเช่นนี้ คือมารดาขององค์พระผู้เป็นเจ้าของฉันมาหา” ~ลูกา 1:39-43 THSV11

6.ฑูตสวรรค์มีน้ำใจในการแจ้งข่าวดีวันคริสต์มาสให้แก่คนเลี้ยงแกะที่มักถูกมองข้าม

“ในแถบนั้นมีพวกคนเลี้ยงแกะอยู่กลางทุ่งกำลังเฝ้าฝูงแกะของเขาในเวลากลางคืน มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่พวกเขา และพระรัศมีขององค์พระผู้เป็นเจ้าส่องล้อมรอบเขา และเขากลัวนัก ทูตสวรรค์องค์นั้นกล่าวกับเขาทั้งหลายว่า “อย่ากลัวเลย เพราะเรานำข่าวดีมายังพวกท่าน เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่จะมาถึงคนทั้งหลาย เพราะว่าในวันนี้ พระผู้ช่วยให้รอดของพวกท่านคือพระคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้ามาประสูติที่เมืองของดาวิด นี่จะเป็นหมายสำคัญสำหรับพวกท่าน คือท่านจะพบพระกุมารนั้นพันผ้าอ้อมนอนอยู่ในรางหญ้า”” ~ลูกา 2:8-12 THSV11

7.คนเลี้ยงแกะมีน้ำใจในการไปเยี่ยมมารีย์ และออกไปเล่าเรื่องข่าวดีแก่ชาวบ้านชาวเมือง

“เมื่อทูตสวรรค์เหล่านั้นไปจากพวกเขาขึ้นสู่สวรรค์แล้ว บรรดาคนเลี้ยงแกะก็พูดกันว่า “ให้เราไปยังเมืองเบธเลเฮมดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามที่องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงแจ้งกับเรา” เขาก็รีบไป แล้วพบนางมารีย์กับโยเซฟ และพบพระกุมารนั้นนอนอยู่ในรางหญ้า เมื่อพวกเขาเห็นแล้วจึงเล่าเรื่องที่เขาได้ยินถึงพระกุมารนั้น คนทั้งหลายที่ได้ยินก็ประหลาดใจเกี่ยวกับเรื่องที่คนเลี้ยงแกะบอกกับเขา บรรดาคนเลี้ยงแกะจึงกลับไปถวายพระเกียรติและสรรเสริญพระเจ้า สำหรับเหตุการณ์ทุกอย่างที่เขาได้ยินและได้เห็นดังที่กล่าวไว้กับพวกเขา” ~ลูกา 2:15-18, 20 THSV11

8.นักปราชญ์มีน้ำใจในการเดินทางไกลเพื่อนำเครื่องบรรณาการมาถวายมอบให้พระคริสต์

“พระเยซูได้ทรงบังเกิดที่บ้านเบธเลเฮมแคว้นยูเดียในรัชกาลของกษัตริย์เฮโรด ภายหลังมีพวกนักปราชญ์จากทิศตะวันออกมายังกรุงเยรูซาเล็ม ถามว่า “พระกุมารผู้ที่ทรงบังเกิดมาเป็นกษัตริย์ของชนชาติยิวนั้นอยู่ที่ไหน? เราได้เห็นดาวของท่านทางทิศตะวันออก และเราจึงมาเพื่อจะนมัสการท่าน” เมื่อพวกนักปราชญ์ได้เห็นดาวนั้นแล้วก็มีความยินดียิ่งนัก เมื่อเข้าไปในบ้านก็พบพระกุมารกับนางมารีย์มารดา จึงก้มลงนมัสการพระกุมารนั้น แล้วเปิดหีบสมบัติของพวกเขาและถวายเครื่องบรรณาการแด่พระกุมาร คือ ทองคำ กำยาน และมดยอบ” ~มัทธิว 2:1-2, 10-11 THSV11

9.ฑูตสวรรค์มีน้ำใจในการแจ้งข่าวแก่พวกนักปราชญ์ให้หลบหนีไปจากเฮโรด

“แล้วพวกนักปราชญ์ได้รับคำเตือนในความฝัน ไม่ให้กลับไปเฝ้าเฮโรด พวกเขาจึงกลับไปยังเมืองของพวกตนทางอื่น” ~มัทธิว 2:12 THSV11

10.ฑูตสวรรค์มีน้ำใจในการแจ้งข่าวแก่โยเซฟและมารีย์ให้หนีจากภัยทั้งขาไปและขากลับ

“เมื่อพวกเขาไปแล้วก็มีทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าได้มาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันแล้วบอกว่า “จงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดาหนีไปประเทศอียิปต์ และคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกเจ้า เพราะว่าเฮโรดจะแสวงหาพระกุมาร เพื่อจะประหารชีวิตเสีย” เมื่อเฮโรดสิ้นพระชนม์แล้ว ทูตสวรรค์องค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาปรากฏแก่โยเซฟในความฝันที่ประเทศอียิปต์ สั่งว่า “จงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล เพราะพวกที่เป็นภัยต่อชีวิตของพระกุมารนั้นตายแล้ว” โยเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารกับมารดามายังแผ่นดินอิสราเอล” ~มัทธิว 2:13, 19-21 THSV11

 

ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.