Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

ถาม-ตอบ โดย ศจ ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

คำถาม: พระคัมภีร์สอนเรื่อง “พระสัญญาของพระเจ้าไว้อย่างไรบ้าง?”

ตอบ:    “พระคัมภีร์สอนเรื่องพระสัญญาของพระเจ้าไว้มากมาย อาทิ:

  1. พระเจ้าเป็นผู้ทรงให้สัญญาแก่มนุษย์ก่อน

“ข้าแต่พระยาห์เวห์ พระองค์ทรงเป็นพระเจ้า และพระองค์ทรงสัญญาสิ่งนี้ต่อผู้รับใช้ของพระองค์”  ~1 พงศาวดาร 17:26 THSV11

  1.  พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าผู้รักษาสัญญา

“ข้าแต่พระเจ้าของข้าพระองค์ทั้งหลาย ซึ่งเป็นพระเจ้ายิ่งใหญ่ ทรงฤทธิ์และน่าเกรงกลัว ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ฉะนั้นขอพระองค์อย่าทรงเห็นว่า ความทุกข์ยากลำบากทั้งสิ้นนั้นเป็นแต่สิ่งเล็กน้อย ซึ่งบังเกิดขึ้นกับข้าพระองค์ทั้งหลาย กับบรรดากษัตริย์ของข้าพระองค์กับบรรดาเจ้านาย บรรดาปุโรหิต บรรดาผู้เผยพระวจนะ บรรพบุรุษและชนชาติของพระองค์ทั้งสิ้น ตั้งแต่สมัยกษัตริย์อัสซีเรีย จนถึงวันนี้”  ~เนหะมีย์ 9:32 THSV11

  1. พระเจ้าจะไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้

“เพราะว่าพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่าน ทรงเป็นพระเจ้าผู้ทรงพระกรุณา พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งท่านหรือทำลายท่านหรือลืมพันธสัญญา ซึ่งทรงทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิญาณ”  ~เฉลยธรรมบัญญัติ 4:31 THSV11

  1.  พระเจ้าไม่ได้เฉื่อยช้าในเรื่องที่สัญญาไว้ แต่ถ้าดูช้านั่นเพราะมีเหตุผลที่สำคัญยิ่ง

“องค์พระผู้เป็นเจ้าไม่ได้ทรงเฉื่อยช้าในเรื่องพระสัญญาของพระองค์ ตามที่บางคนคิดนั้น แต่ทรงอดทนกับพวกท่าน พระองค์ไม่ทรงประสงค์ให้ใครพินาศเลย แต่ประสงค์ให้ทุกคนกลับใจใหม่”  ~2 เปโตร 3:9 THSV11

  1. พระเจ้าซื่อสัตย์ต่อพระสัญญาของพระองค์ต่อคนของพระองค์อยู่เสมอ

“ขอให้เรายังคงยึดมั่นในความหวังที่ประกาศรับไว้นั้นโดยไม่หวั่นไหว เพราะว่าพระองค์ผู้ประทานพระสัญญานั้นทรงซื่อสัตย์” ~ฮีบรู 10:23 THSV11

  1. พระเจ้าจะระลึกถึงพระสัญญาที่พระองค์ให้ไว้ ไม่ว่าจะนานสักแค่ไหน

“ถึงกระนั้นเราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเรา ซึ่งเราทำไว้กับเจ้าในสมัยเมื่อเจ้ายังสาวอยู่ และเราจะสถาปนาพันธสัญญานิรันดร์ไว้กับเจ้า”  -เอเสเคียล 16:60 THSV11

  1. พระเจ้ารักษาพระสัญญาของพระองค์ต่อคนที่รักพระองค์และพระบัญญัติของพระองคถึงพันชั่วอายุคน

“ฉะนั้นจงทราบเถิดว่า พระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้า เป็นพระเจ้าซื่อสัตย์ผู้ทรงรักษาพันธสัญญาและความรักมั่นคง ต่อบรรดาผู้ที่รักพระองค์และรักษาบัญญัติของพระองค์ถึงพันชั่วอายุคน” ~เฉลยธรรมบัญญัติ 7:9 THSV11

  1. พระเจ้าไม่ปล่อยให้พระสัญญาที่ดีของพระองค์ล้มเหลวแม้สักคำเดียว

“สาธุการแด่พระยาห์เวห์ ผู้ประทานการหยุดพักแก่อิสราเอลประชากรของพระองค์ ตามที่ทรงสัญญาไว้ทุกประการ พระสัญญาอันดีทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งทรงสัญญาทางโมเสสผู้รับใช้ของพระองค์นั้นไม่ล้มเหลวสักคำเดียว”  ~1 พงศ์กษัตริย์ 8:56 THSV11 

  1. พระเจ้าจะทำให้พระสัญญาของพระองค์สำเร็จทั้งสิ้น

“พระองค์ทรงรักษาพระสัญญาที่ทรงให้ไว้กับดาวิดพระราชบิดาของข้าพระองค์ ผู้รับใช้ของพระองค์ และพระองค์ทรงทำให้พระสัญญาด้วยพระโอษฐ์นั้นสำเร็จด้วยพระหัตถ์ในวันนี้”  ~1 พงศ์กษัตริย์ 8:24 THSV11

“สิ่งดีทุกอย่างซึ่งพระยาห์เวห์ทรงสัญญาต่อประชาชนอิสราเอลนั้นก็ไม่ขาดสักสิ่งเดียว สำเร็จทั้งสิ้น”  ~โยชูวา 21:45 THSV11

  1.  พระเจ้าจะไม่ละเมิด และไม่พลิกแพลงพันธสัญญาของพระองค์

“พันธสัญญาของพระองค์เราจะไม่ละเมิดพันธสัญญาของเรา หรือพลิกแพลงถ้อยคำที่ออกไปจากริมฝีปากของเรา เราปฏิญาณโดยความบริสุทธิ์ของเราครั้งเดียวเป็นพอ เราจะไม่มุสาต่อดาวิด พงศ์พันธุ์ของเขาจะดำรงอยู่เป็นนิตย์ บัลลังก์ของเขาจะยืนนานอย่างดวงอาทิตย์ต่อหน้าเรา บัลลังก์จะตั้งอยู่เป็นนิตย์อย่างดวงจันทร์ และสักขีพยานบนท้องฟ้าก็แน่นอน”  ~สดุดี 89:34-37 THSV11

  1. พระเจ้าสามารถประทานพระสัญญาใหม่ๆได้เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงค้ำประกัน

“โดยคำปฏิญาณนี้ พระเยซูจึงทรงเป็นผู้ค้ำประกันพันธสัญญาที่ดีกว่าเก่า”  ~ฮีบรู 7:22 THSV11

  1. พระเจ้าให้พระสัญญาของพระองค์เป็นสิ่งปลอบโยนชีวิตของเราในยามทุกข์ยาก

“นี่คือการปลอบโยนในความทุกข์ยากของข้าพระองค์ คือพระสัญญาของพระองค์ให้ชีวิตแก่ข้าพระองค์”  ~สดุดี 119:50 THSV11

  1. พระเจ้าจะสู้คดีเพื่อเรา ไถ่เรา และรักษาชีวิตของเราตามพระสัญญา

“ขอทรงสู้คดีเพื่อข้าพระองค์และขอทรงไถ่ข้าพระองค์ ขอทรงรักษาชีวิตข้าพระองค์ไว้ตามพระสัญญาของพระองค์”  ~สดุดี 119:154 THSV11

  1.  เราควรเชื่อมั่นคงในพระสัญญาของพระเจ้า อย่างไม่แคลงใจ

“ท่านไม่ได้หวั่นไหวแคลงใจในพระสัญญาของพระเจ้า แต่ท่านมีความเชื่อมั่นคง จึงถวายเกียรติแด่พระเจ้า”  ~โรม 4:20 THSV11

“ท่านเชื่อมั่นว่า พระเจ้าทรงสามารถทำสิ่งที่ทรงสัญญาได้”  ~โรม 4:21 THSV11

  1. เราควรขอบคุณพระเจ้าสำหรับสิ่งดีที่พระเจ้าสัญญาจะให้แก่เรา เช่น ชีวิตนิรันดร์

“นี่แหละเป็นสิ่งที่พระองค์ได้ทรงสัญญาไว้กับเรา คือชีวิตนิรันดร์”  ~1 ยอห์น 2:25 THSV11

  1. เราควรรักษาคำสัญญาที่เราให้ไว้กับพระเจ้า~ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใด

“พระมรรคาทั้งสิ้นของพระยาห์เวห์เป็นความรักมั่นคงและความสัตย์จริง แก่ผู้ที่รักษาพันธสัญญาและพระโอวาทของพระองค์”  ~สดุดี 25:10 THSV11

“เมื่อชายคนไหนบนไว้กับพระยาห์เวห์ หรือสาบานผูกมัดตัวเองด้วยคำสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็อย่าให้เขาเสียวาจา เขาจะต้องทำตามคำทุกคำที่ออกจากปากของเขา”  ~กันดารวิถี 30:2 THSV11

“หรือเมื่อหญิงคนไหนบนไว้กับพระยาห์เวห์ และผูกมัดตัวเองไว้ด้วยคำสัญญาอย่างใดอย่างหนึ่ง ในขณะที่เธอยังสาวและอยู่ในบ้านของบิดา” ~กันดารวิถี 30:3 THSV11

  1. เราต้องตระหนักถึงโทษของการเบื่อหน่ายกฏเกณฑ์ เกลียดกฎหมายและทำลายพันธสัญญาที่มีกับพระเจ้า

“ถ้าเจ้าไม่เชื่อฟังเรา และไม่ทำตามบัญญัติทั้งหมดเหล่านี้ ถ้าเจ้าเบื่อหน่ายกฎเกณฑ์ของเราและใจของเจ้าเกลียดชังกฎหมายของเรา จึงไม่ทำตามบัญญัติทั้งสิ้นของเรา แต่ทำลายพันธสัญญาของเรา เราจะทำดังนี้แก่เจ้า คือเราจะตั้งภัยพิบัติให้เกิดขึ้นแก่เจ้า ความพินาศและความเจ็บไข้ ซึ่งทำให้นัยน์ตาชำรุด และทำให้ชีวิตทรุดโทรม เจ้าทั้งหลายจะหว่านพืชไว้เสียเปล่า เพราะศัตรูของพวกเจ้าจะมากิน เราจะตั้งหน้าต่อสู้เจ้า และเจ้าจะแพ้ศัตรูของเจ้า คนที่เกลียดชังเจ้าจะปกครองอยู่เหนือเจ้า เจ้าจะหลบหนีไปทั้งที่ไม่มีใครไล่ติดตาม และเมื่อเป็นอย่างนี้แล้วเจ้าทั้งหลายยังไม่ฟังเรา เราก็จะลงโทษเจ้าเจ็ดเท่าของความผิดบาปของพวกเจ้า เราจะทำลายความเห่อเหิมในกำลังอำนาจของเจ้า เราจะทำให้ฟ้าสวรรค์ของเจ้าเหมือนเหล็กและพื้นดินของเจ้าเหมือนทองเหลือง เจ้าทั้งหลายจะเปลืองกำลังเสียเปล่าๆ เพราะว่าแผ่นดินของเจ้าจะไม่มีพืชผล และต้นไม้ในแผ่นดินก็จะไม่บังเกิดผล “ถ้าเจ้ายังดำเนินขัดแย้งเราอยู่และไม่ยอมฟังเรา เราจะนำภัยพิบัติมาเหนือเจ้ามากยิ่งขึ้น เป็นเจ็ดเท่าของบาปของเจ้า เราจะส่งสัตว์ป่ามาในหมู่พวกเจ้า มันจะปล้นเอาลูกหลานของเจ้า และทำลายสัตว์เลี้ยงของเจ้า และทำให้พวกเจ้าเหลือน้อย ถนนหนทางของพวกเจ้าจะถูกทิ้งให้ร้าง “ถ้าด้วยการตีสอนนี้ เจ้ายังไม่หันมาหาเรา และยังประพฤติขัดแย้งเราอยู่ เราจะดำเนินการขัดแย้งเจ้าทั้งหลาย และเราเองจะเฆี่ยนตีเจ้าเพราะบาปของเจ้าทั้งหลายถึงเจ็ดเท่า เราจะนำดาบมาเหนือเจ้าทั้งหลาย ซึ่งเป็นการลงโทษตามพันธสัญญา ถ้าเจ้าทั้งหลายเข้ามารวมกันอยู่ในเมือง เราจะนำโรคร้ายมาในหมู่พวกเจ้า และเจ้าทั้งหลายจะตกอยู่ในมือของศัตรู เมื่อเราทำลายอาหารหลักของพวกเจ้า เตาอบอันเดียวก็พอเพียงที่จะให้ผู้หญิงสิบคนปิ้งขนมของเจ้าทั้งหลาย แล้วเอาขนมมาชั่ง เพื่อแบ่งส่วนให้เจ้าทั้งหลาย พวกเจ้าจะกินแต่จะไม่อิ่ม………”~เลวีนิติ 26:14-33 THSV11

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.