คำถาม: “พระคัมภีร์สอนเราเรื่องสัมพันธภาพกับคริสตจักรไว้อย่างไรบ้าง?”
คำตอบ:
1.เราต้องส่งเสริมให้คริสตจักรรักษาธรรมเนียมที่ดีอย่างเช่นในการทักทายกันเสมอทุกครั้งที่มีโอกาส
“จงทักทายกันด้วยธรรมเนียมจูบอันบริสุทธิ์ บรรดาคริสตจักรของพระคริสต์ขอฝากคำทักทายมายังพวกท่านด้วย” -โรม 16:16 THSV11
2.เราต้องยินดีในการทุกข์ยากเพื่อคริสตจักรเพราะเห็นแก่พระคริสต์
“เวลานี้ข้าพเจ้าชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากเพราะเห็นแก่พวกท่าน และความยากลำบากอย่างพระคริสต์ที่ทรงทนเพราะเห็นแก่พระกายของพระองค์คือคริสตจักร ซึ่งยังขาดอยู่นั้น ข้าพเจ้าก็ทนจนครบบริบูรณ์ในเนื้อหนังของข้าพเจ้า” -โคโลสี 1:24 THSV11
3.เราต้องสนับสนุนให้คนในคริสตจักรมีการอธิษฐานเผื่อกันอยู่เสมอ
“เพราะฉะนั้นเปโตรจึงถูกจำจองในคุก แต่คริสตจักรอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อเปโตรอย่างกระตือรือร้น” -กิจการ 12:5 THSV11
4.เราต้องใส่ใจหรือเห็นแก่คนที่ยังไม่เชื่อที่เข้ามาร่วมนมัสการกับเราในคริสตจักรด้วย
“เพราะฉะนั้นถ้าทั้งคริสตจักรมาชุมนุมกัน และทุกคนต่างก็พูดภาษาแปลกๆ และมีคนที่ไม่รู้ หรือคนที่ไม่เชื่อเข้ามา พวกเขาก็จะพูดว่าท่านทั้งหลายเป็นบ้าไม่ใช่หรือ?” -1 โครินธ์ 14:23 THSV11
5.เราต้องไม่ทำอะไรตามความคิดของเราจนเป็นเหตุให้คนทั้งหลายและคริสตจักรสะดุด
“อย่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้พวกยิว หรือพวกกรีก หรือคริสตจักรของพระเจ้าหลงผิดไป” -1 โครินธ์ 10:32 THSV11
6.เราต้องไม่ปล่อยให้ผู้ใดวางตัวกร่างสร้างปัญหาในคริสตจักร
“เพราะเหตุนี้ ถ้าข้าพเจ้ามา ข้าพเจ้าจะเปิดเผยพฤติกรรมของเขาที่กล่าวใส่ความเราด้วยถ้อยคำเลวทราม เท่านั้นยังไม่พอ ตัวเขาเองยังไม่ยอมรับรองพี่น้องเหล่านั้น ทั้งยังกีดกันคนที่ต้องการจะรับรองพวกเขา และไล่ออกจากคริสตจักร” -3 ยอห์น 1:10 THSV11
7.เราต้องจัดการแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในคริสตจักร ไม่ให้เลยเถิดไปว่าความกันต่อหน้าคนไม่เชื่อ
“เมื่อมีใครในพวกท่านเป็นความกัน เขากล้าไปรับการพิพากษาจากคนไม่ชอบธรรม แทนที่จะรับจากธรรมิกชนหรือ? ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าธรรมิกชนจะพิพากษาโลก? และถ้าพวกท่านจะพิพากษาโลก ท่านไม่เหมาะจะพิพากษาเรื่องเล็กน้อยหรือ? พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเราจะพิพากษาพวกทูตสวรรค์? ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งควรจะพิพากษาเรื่องของชีวิตนี้ เมื่อเป็นความกันในเรื่องชีวิตนี้ พวกท่านจะตั้งคนที่คริสตจักรไม่ยอมรับให้ตัดสินหรือ? ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ ในพวกท่านไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติปัญญาสามารถวินิจฉัยเรื่องระหว่างพี่น้องหรือ? แต่พี่น้องกับพี่น้องต้องถูกพิพากษาต่อหน้าคนที่ไม่มีความเชื่ออย่างนั้นหรือ? อันที่จริง เมื่อไปเป็นความกันพวกท่านก็ตกจากระดับที่ควร ทำไมท่านจึงไม่ยอมทนต่อการร้ายเสียดีกว่า? ทำไมท่านจึงไม่ยอมถูกโกงเสียดีกว่า? แต่พวกท่านกลับทำร้ายกัน และโกงกันแม้กระทั่งพี่น้อง” -1 โครินธ์ 6:1-8 THSV11
8.เราต้องไม่ปล่อยให้คนในครอบครัวของเราเป็นภาระต่อคริสตจักร
“ถ้าหญิงที่มีความเชื่อคนไหนมีญาติพี่น้องที่เป็นแม่ม่าย ก็ให้เธอช่วยเลี้ยงดูพวกนาง และอย่าให้เป็นภาระของคริสตจักรเลย เพื่อคริสตจักรจะได้สงเคราะห์พวกที่เป็นแม่ม่ายไร้ที่พึ่งจริงๆ” -1 ทิโมธี 5:16 THSV11
9.เราต้องไม่ให้การกระทำ หรือการพบปะประชุมของเรา สร้างความอับอายเสื่อมเสียให้แก่คริสตจักร
“แต่ถ้าใครคิดจะโต้แย้ง เราและคริสตจักรต่างๆ ของพระเจ้าก็ไม่รับธรรมเนียมดังกล่าวนี้” -1 โครินธ์ 11:16 THSV11
“ในการกำชับต่อไปนี้ ข้าพเจ้าชมพวกท่านไม่ได้ คือว่าการชุมนุมกันของท่านมักจะได้ผลเสียมากกว่าผลดี ประการแรก ข้าพเจ้าได้ยินว่า เมื่อมาชุมนุมกันในคริสตจักร พวกท่านมีการแตกแยกกัน และข้าพเจ้าเชื่อว่าคงมีส่วนที่เป็นจริง เพราะจะต้องมีการขัดแย้งกันในพวกท่าน เพื่อฝ่ายถูกในพวกท่านจะปรากฏ เมื่อท่านทั้งหลายมาชุมนุมพร้อมกันนั้น จึงไม่ใช่การกินในงานเลี้ยงขององค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าในการกินอาหารนั้น แต่ละคนต่างกินอาหารของตนก่อน บ้างก็ยังหิวอยู่ และบ้างก็เมา อะไรกันนี่ พวกท่านไม่มีบ้านที่จะกินและดื่มหรือ? หรือว่าท่านดูหมิ่นคริสตจักรของพระเจ้า และสร้างความอับอายให้กับคนที่ขัดสน จะให้ข้าพเจ้าพูดอย่างไร? จะให้ชมพวกท่านหรือ? ข้าพเจ้าไม่ขอชมท่านในเรื่องนี้เลย” -1 โครินธ์ 11:17-22 THSV11
10.เราต้องรักษาความสงบสันติ ไม่ทำอะไรตามใจ หรือ ตามที่เราคิดว่าถูกต้อง แต่ก่อเกิดความวุ่นวายขึ้นภายในคริสตจักร
“เพราะว่าพระเจ้าไม่ใช่พระเจ้าแห่งความวุ่นวาย แต่ทรงเป็นพระเจ้าแห่งสันติ ดังที่เป็นอยู่ในคริสตจักรทุกแห่งของธรรมิกชน” -1 โครินธ์ 14:33 THSV11
11.เราต้องสนับสนุนการใช้ของประทานต่างๆ แต่ต้องให้ความสำคัญกับของประทานที่ทำให้คริสตจักรโดยรวมเจริญมาเป็นลำดับต้นๆ
“ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านทุกคนพูดภาษาแปลกๆ แต่ยิ่งกว่านั้น ข้าพเจ้าต้องการให้พวกท่านเผยพระวจนะ เพราะว่าคนที่เผยพระวจนะนั้นก็ใหญ่กว่าคนที่พูดภาษาแปลกๆ นอกจากว่ามีคนแปลได้ เพื่อคริสตจักรจะได้รับความเจริญ” -1 โครินธ์ 14:5 THSV11
12.เราต้องสนับสนุนส่งเสริมให้เกิดการหนุนใจกันให้เกิดความยินดีทั้งภายใน และระหว่างคริสตจักร
“ท่านเข้าไปในแคว้นซีเรียกับแคว้นซิลีเซียหนุนใจคริสตจักรให้เข้มแข็งขึ้น” -กิจการ 15:41 THSV11
“คริสตจักรจึงจัดส่งท่านเหล่านั้นไป และเมื่อเดินทางผ่านแคว้นฟีนิเซียกับแคว้นสะมาเรียพวกท่านก็เล่าเรื่องที่พวกต่างชาติกลับใจใหม่ ทำให้พวกพี่น้องมีความยินดีอย่างยิ่ง” -กิจการ 15:3 THSV11
13.เราต้องไวในการช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนหรือยากจนทั้งภายในคริสตจักร และในคริสตจักรอื่นๆ
“เรื่องการเรี่ยไรเพื่อช่วยธรรมิกชนนั้น ข้าพเจ้าสั่งคริสตจักรที่แคว้นกาลาเทียว่าอย่างไร ท่านทั้งหลายก็จงทำเช่นนั้นด้วย” -1 โครินธ์ 16:1 THSV11
“เพราะว่าบรรดาคริสตจักรในแคว้นมาซิโดเนียและแคว้นอาคายา ยินดีที่จะเรี่ยไรเงินส่งไปให้แก่ธรรมิกชนที่ยากจนในกรุงเยรูซาเล็ม” -โรม 15:26 THSV11
14.เราต้องมีความโปร่งใสในทุกโครงการที่เราทำในคริสตจักรหรือเกี่ยวข้องกับคริสตจักร
“พวกเขาวิงวอนเราอย่างมาก ขอร้องให้มีส่วนในคุณความดีในการช่วยเหลือธรรมิกชนด้วย เราส่งพี่น้องคนหนึ่งที่คริสตจักรทุกแห่งยกย่องในเรื่องการประกาศข่าวประเสริฐไปพร้อมกับเขาด้วย และไม่เพียงเท่านั้น คริสตจักรต่างๆ ยังตั้งคนนี้ให้เป็นผู้ร่วมเดินทางกับเราและเป็นผู้ร่วมงานปรนนิบัติในคุณความดีนี้ ที่เราทำเพื่อถวายพระเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า และเพื่อแสดงถึงความกระตือรือร้นของเรา เราระวังตัวเช่นนี้เพื่อจะไม่ให้ใครติเตียนเราได้ ในเรื่องของบริจาคมากมายซึ่งเรารับมาแจกนั้น เพราะเรามุ่งจะเป็นคนซื่อสัตย์ ไม่เฉพาะในสายพระเนตรองค์พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้น แต่ในสายตาของคนทั้งหลายด้วย เราส่งพี่น้องอีกคนหนึ่งของเราไปกับเขาทั้งสอง เขาเป็นคนที่เราได้ทดสอบแล้วว่า มีความกระตือรือร้นในหลายๆ สิ่ง และบัดนี้เขายิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น เพราะมีความมั่นใจในพวกท่านมาก ส่วนทิตัส เขาเป็นหุ้นส่วนและผู้ร่วมงานของข้าพเจ้าในการรับใช้ท่านทั้งหลาย ส่วนพี่น้องสองคนนั้นของเรา เขาเป็นตัวแทนของคริสตจักรทั้งหลายซึ่งเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระคริสต์ เพราะฉะนั้นจงสำแดงความรักของท่านและสิ่งที่เราได้อวดเกี่ยวกับท่านให้พวกเขาเห็น และสำแดงต่อหน้าคริสตจักรทั้งหลายด้วย” -2 โครินธ์ 8:4, 18-24 THSV11
15.เราต้องทำแต่สิ่งที่นำพระเกียรติมาสู่พระเจ้าในคริสตจักร
“ขอให้พระเกียรติจงมีแด่พระองค์ในคริสตจักรและในพระเยซูคริสต์ตลอดทุกชั่วอายุคนเป็นนิตย์ อาเมน” -เอเฟซัส 3:21 THSV11
16.เราต้องมีใจปรารถนาในการทำหน้าที่ปกครองดูแลหรือรับใช้ในกิจการของคริสตจักรโดยถือว่าเป็นงานที่ประเสริฐ
“คำกล่าวนี้สัตย์จริง คือว่าถ้าใครปรารถนาหน้าที่ผู้ปกครองดูแลคริสตจักร คนนั้นก็ปรารถนากิจการงานที่ประเสริฐ” -1ทิโมธี 3:1 THSV11
17.เราต้องรับผิดชอบในการประพฤติตนให้เหมาะสมกับหน้าที่การงานในคริสตจักร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตำแหน่งที่รับผิดชอบ
“(เพราะถ้าชายคนไหนไม่รู้จักปกครองครอบครัวของตน คนนั้นจะดูแลคริสตจักรของพระเจ้าได้อย่างไร?)” -1 ทิโมธี 3:5 THSV11
18.เราต้องส่งเสริมให้มีการอธิษฐานเผื่อผู้เจ็บป่วยในคริสตจักรเป็นประจำ
“มีใครในพวกท่านเจ็บป่วยหรือ? จงให้คนนั้นเชิญบรรดาผู้ปกครองของคริสตจักรมา และให้ท่านเหล่านั้นอธิษฐานเผื่อเขาและชโลมเขาด้วยน้ำมันในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า” -ยากอบ 5:14 THSV11
19.เราต้องขวนขวายในการเพิ่มพูนสิ่งที่ทำให้คริสตจักรเจริญขึ้น
“ท่านทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น เมื่อท่านกำลังขวนขวายของประทานจากพระวิญญาณ ก็จงพยายามเพิ่มพูนสิ่งที่จะทำให้คริสตจักรเจริญขึ้น” -1 โครินธ์ 14:12 THSV11
20.เราต้องประพฤติตนด้วยความยำเกรงพระเจ้า ทำให้คริสตจักรสงบสุขและมี จำนวนสมาชิกเพิ่มมากขึ้น
“เพราะฉะนั้น คริสตจักรตลอดทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรียก็เกิดความสงบสุขและเจริญเติบโต ต่างประพฤติตนด้วยความยำเกรงองค์พระผู้เป็นเจ้าและรับการหนุนใจจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ คริสตสมาชิกจึงยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้น” -กิจการ 9:31 THSV11
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(cr.ภาพ Jackson David.Unsplash)