คำถาม: ”พระคัมภีร์สอนอะไรเราบ้างเกี่ยวกับการเฝ้าเดี่ยว หรือการมีเวลาอยู่กับพระเจ้าโดยลำพัง(อย่างมีวินัย)?”
คำตอบ: “ในพระคัมภีร์มีคำสอนเกี่ยวกับการเข้าเฝ้าพระเจ้า ทั้งเป็นการส่วนตัวและเป็นหมู่คณะและ ได้เน้นถึงความสำคัญของการมีวินัยในเรื่องนี้อยู่มากมาย ดังนี้
1.เรามีพระเยซูคริสต์เป็นแบบอย่างของการมีวินัยในการเฝ้าเดี่ยวกับพระเจ้า
“และเมื่อทรงให้ฝูงชนไปหมดแล้ว พระองค์เสด็จขึ้นไปบนภูเขาตามลำพังเพื่ออธิษฐาน เวลาก็ดึกมาก พระองค์ยังประทับที่นั่นแต่ลำพัง” ~มัทธิว 14:23 THSV11
“เมื่อพระเยซูทรงทราบว่าพวกเขาจะมาจับพระองค์ไปตั้งให้เป็นกษัตริย์ พระองค์ก็เสด็จขึ้นไปบนภูเขาอีกตามลำพัง” ~ยอห์น 6:15 THSV11
“เมื่อพระเยซูทรงทราบแล้ว จึงทรงลงเรือเสด็จไปจากที่นั่น ไปยังที่สงบตามลำพัง เมื่อฝูงชนทราบ เขาทั้งหลายก็ออกจากเมืองต่างๆ เดินตามพระองค์ไป” ~มัทธิว 14:13 THSV11
2.เราควรชำระมือชำระใจของเราและเข้าเฝ้าพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ
“เพราะฉะนั้น พวกท่านจงนอบน้อมต่อพระเจ้า จงต่อสู้กับมาร แล้วมันจะหนีท่านไป พวกท่านจงเข้าใกล้พระเจ้า แล้วพระองค์จะเสด็จเข้ามาใกล้ท่าน พวกคนบาปเอ๋ย จงชำระมือให้สะอาด คนสองใจ จงชำระใจให้บริสุทธิ์ จงเป็นทุกข์ โศกเศร้า และร้องไห้ ให้เสียงหัวเราะของพวกท่านกลายเป็นความโศกเศร้า และความชื่นชมยินดีกลายเป็นความเศร้าสลด พวกท่านจงถ่อมใจลงต่อองค์พระผู้เป็นเจ้า แล้วพระองค์จะทรงยกชูท่าน” ~ยากอบ 4:7-10 THSV11
“พระยาห์เวห์ทรงเกลียดชังเครื่องบูชาของคนอธรรม แต่ทรงปีติยินดีในคำอธิษฐานของคนเที่ยงธรรม” ~สุภาษิต 15:8 THSV11
3.เราควรเตรียมตัวก่อนเข้าเฝ้าพระเจ้าและทำตามพระประสงค์ของพระองค์
“ข้าพเจ้าจะนำอะไรเข้ามาเฝ้าพระยาห์เวห์ และกราบไหว้พระเจ้าเบื้องสูง? ควรข้าพเจ้าจะเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยเครื่องบูชาเผาทั้งตัวหรือ? ด้วยลูกวัวอายุหนึ่งปีหลายตัวหรือ? พระยาห์เวห์จะพอพระทัยการถวายแกะผู้หลายพันตัว และธารน้ำมันหลายหมื่นสายหรือ? ควรข้าพเจ้าจะถวายบุตรหัวปีไถ่การละเมิดของตนหรือ? คือถวายบุตรไถ่บาปของตน?” มนุษย์เอ๋ย พระองค์ทรงสำแดงแก่เจ้าแล้วว่าอะไรดี? และพระยาห์เวห์ทรงประสงค์อะไรจากเจ้า? นอกจากให้ทำความยุติธรรมและให้รักความเมตตา และให้ดำเนินชีวิตไปกับพระเจ้าของเจ้าด้วยความถ่อมใจ” ~มีคาห์ 6:6-8 THSV11
4.เราต้องตระหนักว่า การเข้าเฝ้าเข้าใกล้พระเจ้าเป็นการลี้ภัยที่ดี
“เพราะนี่แน่ะ บุคคลผู้ห่างเหินจากพระองค์จะพินาศ ทุกคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระองค์จะถูกพระองค์ทำลาย แต่ส่วนข้าพระองค์ ที่จะเข้าใกล้พระเจ้านั้นดี ข้าพระองค์ได้ให้พระยาห์เวห์องค์เจ้านายเป็นที่ลี้ภัยของข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะได้เล่าถึงพระราชกิจทั้งสิ้นของพระองค์” ~สดุดี 73:27-28 THSV11
5.เราควรปลีกตัวพักสงบตามลำพังกับพระเจ้าและนำให้คนอื่นกระทำตาม
“แล้วพระองค์ตรัสกับพวกเขาว่า “มาเถิด จงปลีกตัวออกมาหาที่สงบเพื่อหยุดพักสักหน่อยหนึ่ง” เพราะว่ามีคนไปมามากมายจนไม่มีเวลาแม้แต่จะรับประทานอาหาร พระองค์จึงเสด็จลงเรือกับพวกสาวกไปยังที่สงบตามลำพัง” ~มาระโก 6:31-32 THSV11
6.เราควรมีเวลาเข้าเฝ้าอธิษฐานกับพระเจ้าตามลำพัง แม้มีคนอยู่ใกล้ๆ ด้วย
“ขณะที่พระองค์กำลังอธิษฐานอยู่ตามลำพังโดยมีสาวกทั้งหลายอยู่ใกล้ๆ พระองค์ตรัสถามพวกเขาว่า “คนทั้งหลายพูดกันว่าเราเป็นใคร?” พวกเขาทูลตอบว่า “เป็นยอห์นผู้ให้บัพติศมา แต่บางคนว่าเป็นเอลียาห์ ส่วนคนอื่นๆ ก็ว่าเป็นหนึ่งในพวกผู้เผยพระวจนะโบราณที่กลับเป็นขึ้นมา” พระองค์จึงตรัสถามเขาว่า “แล้วพวกท่านเองคิดว่าเราเป็นใคร?” เปโตรทูลตอบว่า “เป็นพระคริสต์ ของพระเจ้า” ~ลูกา 9:18-20 THSV11
7.เราสามารถเข้าเฝ้าอธิษฐานต่อพระเจ้าเป็นส่วนตัวได้ไม่ว่าจะช่วงสั้นๆหรือยาวๆ
“ในเวลาต่อมาพระเยซูเสด็จไปที่ภูเขาเพื่อจะอธิษฐาน พระองค์ทรงอธิษฐานต่อพระเจ้าตลอดทั้งคืน” ~ลูกา 6:12 THSV11
8.เราควรทราบว่าพระเจ้าใส่พระทัยในเสียงอธิษฐานของเราในยามที่เราเข้าเฝ้าพระองค์ แต่อย่าบ่มความชั่วไว้ในใจเวลาอธิษฐาน
“ปากข้าพเจ้าได้ร้องทูลพระองค์ และลิ้นข้าพเจ้าได้ยกย่องพระองค์ ถ้าข้าพเจ้าได้บ่มความชั่วไว้ในใจ องค์เจ้านายจะไม่ทรงสดับ แต่พระเจ้าทรงสดับแน่ทีเดียว พระองค์ใส่พระทัยในเสียงอธิษฐานของข้าพเจ้า สาธุการแด่พระเจ้า เพราะว่าพระองค์ไม่ทรงปฏิเสธคำอธิษฐานของข้าพเจ้า และไม่ทรงเอาความรักมั่นคงของพระองค์ไปจากข้าพเจ้า” ~สดุดี 66:17-20 THSV11
9.เราควรจะมั่นใจว่าพระเจ้าจะฟังเมื่อเราเข้าเฝ้าพระองค์อย่างจริงใจและจะทรงช่วยเราให้กลับสู่สภาพดี
“แล้วเจ้าจะร้องทูลเรา และมาอธิษฐานต่อเรา และเราจะฟังเจ้า เจ้าจะแสวงหาเราและพบเราเมื่อเจ้าแสวงหาเราด้วยสิ้นสุดใจของเจ้า’ พระยาห์เวห์ตรัสว่า ‘เราจะให้เจ้าพบเรา และเราจะให้เจ้ากลับสู่สภาพดีและรวบรวมเจ้ามาจากบรรดาประชาชาติและจากทุกที่ที่เราขับไล่เจ้าให้ไปอยู่นั้น พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้แหละ และเราจะนำเจ้ากลับมายังที่ซึ่งเราเนรเทศเจ้าให้จากไปนั้น’” ~เยเรมีย์ 29:12-14 THSV11
10.เราควรมีวินัยในการจัดเวลาเข้าเฝ้าพระเจ้า และอธิษฐานเผื่อเรื่องต่างๆ ด้วยใจขอบพระคุณ
“จงอุทิศตัวในการอธิษฐาน จงเฝ้าระวังในเรื่องนี้ด้วยการขอบพระคุณ” ~โคโลสี 4:2 THSV11
11.เราไม่ต้องกังวลว่าจะอธิษฐานกับพระเจ้าอย่างไร เวลาที่เราเข้าเฝ้าพระเจ้าเพราะพระวิญญาณจะช่วยทูลขอแทนเรา
“ในทำนองเดียวกัน พระวิญญาณก็ทรงช่วยเมื่อเราอ่อนกำลังด้วย เพราะเราไม่รู้ว่าควรจะอธิษฐานขออะไรอย่างไร แต่พระวิญญาณทรงช่วยขอแทน ด้วยการคร่ำครวญซึ่งไม่อาจกล่าวเป็นถ้อยคำ” ~โรม 8:26 THSV11
12.เราสามารถเข้าเฝ้าพระเจ้า และมอบความกระวนกระวายใจทุกเรื่องที่เรามีไว้กับพระองค์
“อย่ากระวนกระวายในสิ่งใดๆ เลย แต่จงทูลพระเจ้าให้ทรงทราบทุกสิ่งที่พวกท่านขอ โดยการอธิษฐานและการวิงวอน พร้อมกับการขอบพระคุณ” ~ฟีลิปปี 4:6 THSV11
13.เราควรใช้เวลาที่เราเข้าเฝ้าพระเจ้า อธิษฐานเผื่อคนอื่นๆ นอกเหนือจากเพื่อตัวเองด้วย
“ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าของข้าพเจ้าเสมอ เมื่อระลึกถึงท่านในการอธิษฐานของข้าพเจ้า” ~ฟีเลโมน 1:4 THSV11
“ข้าพระองค์อธิษฐานเพื่อพวกเขา ข้าพระองค์ไม่ได้อธิษฐานเพื่อโลก แต่เพื่อคนเหล่านั้นที่พระองค์ประทานแก่ข้าพระองค์ เพราะว่าเขาเป็นของพระองค์” ~ยอห์น 17:9 THSV11
14.เราต้องมีวินัยในการอ่าน ฟังและทำตามพระบัญญัติของพระเจ้า ในเวลาเข้าเฝ้าพระเจ้า มิฉะนั้น จะเป็นการไร้ ประโยชน์
“ถ้าผู้ใดไม่ฟังธรรมบัญญัติ แม้คำอธิษฐานของเขาก็เป็นที่น่าสะอิดสะเอียน” ~สุภาษิต 28:9 THSV11
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer
(cr.ภาพ Message Magazine)