คำถาม: “พระคัมภีร์สอนอะไรบ้างเรื่องความขัดแย้ง และวิธีแก้ไข?”
คำตอบ: การขัดแย้งเกิดขึ้นมาตลอดประวัติศาสตร์ ทั้งระหว่างมนุษย์กับพระเจ้า และมนุษย์กับมนุษย์ ตราบใดที่มนุษย์ยังให้เนื้อหนังธรรมชาติบาปนำและครอบงำเขาอยู่ ตราบนั้นความขัดแย้งจะเกิดขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้
“เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังขัดแย้งพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ขัดแย้งเนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านปรารถนาจะทำ” กาลาเทีย 5:17 THSV11
แต่คริสเตียนคือผู้ที่มีพระวิญญาณบริสุทธิ์สถิตอยู่ในชีวิต เราจึงควรเป็นผู้ที่สามารถควบคุมตัวเอง ให้จัดการกับความขัดแย้งได้ดีกว่าผู้ที่มีเนื้อหนังควบคุมชีวิตอยู่
แนวทางที่คริสเตียนควรถือปฏิบัติในการรับมือกับความขัดแย้งมีดังนี้
1.เราต้องไม่อารมณ์ร้อน เพราะจะก่อเกิดความขัดแย้งได้ง่าย
สภษ15:18 “คนอารมณ์ร้อนเร้าให้เกิดการวิวาท แต่คนที่โกรธช้าก็ระงับการพิพาท”
2.เราต้องไม่ยโสโอหังจนเกิดความขัดแย้งสร้างความเสียหาย
สภษ13:10“ความโอหังมีแต่ก่อให้เกิดการวิวาท แต่ปัญญาอยู่กับผู้ที่รับคำแนะนำ”
3.เราต้องไม่โลภมากเพราะจะเร้าให้เกิดความขัดแย้ง
สภษ28:25 “คนโลภเร้าให้เกิดการวิวาท แต่ผู้ที่วางใจในพระยาห์เวห์จะเจริญรุ่งเรือง”
ยก4:1-6 1“อะไรเป็นสาเหตุของสงคราม และการทะเลาะวิวาทกันในท่านทั้งหลาย? มันมาจากความปรารถนาชั่วของท่านที่ต่อสู้อยู่ภายในตัวพวกท่านไม่ใช่หรือ? 2ท่านทั้งหลายอยากได้แต่ไม่ได้ ท่านก็ฆ่ากัน พวกท่านโลภแต่ไม่ได้ ท่านก็ทะเลาะและทำสงครามกัน ท่านไม่มีเพราะไม่ได้ขอ 3พวกท่านขอและไม่ได้รับเพราะขอผิด หวังจะเอาไปสนองความปรารถนาชั่วของตนเอง 4คนไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ท่านทั้งหลายรู้ว่าการเป็นมิตรกับโลกนั้นคือการเป็นศัตรูกับพระเจ้าไม่ใช่หรือ? เพราะฉะนั้น ใครก็ตามที่ต้องการเป็นมิตรกับโลก ก็ตั้งตัวเป็นศัตรูกับพระเจ้า 5ท่านคิดว่าเป็นสิ่งไร้สาระหรือที่พระคัมภีร์กล่าวว่า “พระวิญญาณที่พระเจ้าให้สถิตกับเรานั้นทรงหวงแหนอย่างยิ่ง?” 6แต่พระองค์ก็ประทานพระคุณมากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นพระคัมภีร์จึงกล่าวว่า “พระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหอง แต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ”
4.เราต้องไม่แก่งแย่งชิงดีกันจนเกิดความขัดแย้งแต่ควรมีใจถ่อม
ฟป2:3 “อย่าทำสิ่งใดด้วยการชิงดีหรือถือดี แต่จงถือว่าคนอื่นดีกว่าตัวด้วยใจถ่อม”
5.เราต้องไม่คิดถึงแต่ผลประโยชน์ส่วนตนเพราะจะก่อเกิดความขัดแย้งขึ้น
ฟป2:4 “อย่าให้ต่างคนต่างเห็นแก่ประโยชน์ของตนเอง แต่จงเห็นแก่ประโยชน์ของคนอื่นๆด้วย”
6.เราต้องไวในการฟังและช้าในการพูดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
ยก1:19-20 “พี่น้องที่รักของข้าพเจ้า จงเข้าใจในเรื่องนี้ คือให้ทุกคนไวในการฟัง ช้าในการพูด ช้าในการโกรธ 20เพราะว่าความโกรธของมนุษย์ไม่ก่อให้เกิดความชอบธรรมของพระเจ้า”
7.เราต้องช่วยกันระงับไม่ให้เกิดการวิวาทจนความขัดแย้งปะทุขึ้นมา
สภษ17:14 “การเริ่มต้นวิวาทก็เหมือนปล่อยน้ำให้ไหล ฉะนั้นจงหยุดเสียก่อนเกิดการพิพาท”
8.เราต้องไม่ด่วนตัดสินผู้อื่นจนเกิดความขัดแย้ง
ยน7:24 “อย่าพิพากษาตามที่เห็นภายนอก แต่จงพิพากษาอย่างยุติธรรมเถิด”
มธ7:5 “คนหน้าซื่อใจคด จงชักไม้ทั้งท่อนออกจากตาของท่านก่อน แล้วท่านจะเห็นได้ถนัด จึงจะเขี่ยผงออกจากตาพี่น้องของท่านได้”
9.เราต้องตัดสินเรื่องราวความขัดแย้งระหว่างกันอย่างยุติธรรมเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
ฉธบ1:17 “ห้ามลำเอียงในการพิพากษา จงฟังทั้งผู้น้อยและผู้ใหญ่ให้เสมอกัน อย่ากลัวหน้ามนุษย์เลย เพราะการพิพากษานั้นเป็นของพระเจ้า และคดีใดที่ยากจงนำมาให้ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าจะพิจารณาเอง’”
10.เราต้องไม่ขัดแย้งกันจนถึงกับลงมือแก้แค้นกัน
รม12:17-21 17“อย่าทำชั่วตอบแทนชั่วแก่ใครเลย แต่จงมุ่งทำสิ่งที่ใครๆ ก็เห็นว่าดี 18ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน 19นี่แน่ะ ท่านผู้เป็นที่รักของข้าพเจ้า อย่าแก้แค้น แต่จงมอบการนั้นไว้ แล้วแต่พระเจ้าจะทรงลงโทษ เพราะมีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัสว่า “การแก้แค้นเป็นของเรา เราเองจะตอบแทน” 20แต่ว่า “ถ้าศัตรูของท่านหิว จงให้อาหารเขารับประทาน ถ้าเขากระหายน้ำก็จงให้น้ำเขาดื่ม เพราะว่าการทำเช่นนั้น จะทำให้เขารู้สึกตัวและกลับมาคืนดี” 21อย่าให้ความชั่วชนะเราได้ แต่จงชนะความชั่วด้วยความดี”
ลนต19:18 “ห้ามแก้แค้นหรือผูกพยาบาทลูกหลานคนชาติเดียวกับเจ้า แต่จงรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง เราคือยาห์เวห์”
11.เราต้องไม่แพร่กระจายความขัดแย้งออกไปเป็นวงกว้าง
สภษ16:28 “คนตลบตะแลงแพร่การวิวาท และผู้ซุบซิบนินทาก็แยกเพื่อนสนิทออกจากกัน”
12.เราต้องไม่ขัดแย้งกันจนไปเป็นความกันต่อหน้าศาล(ที่ไม่เชื่อพระเจ้า)
1คร6:1-8 1“เมื่อมีใครในพวกท่านเป็นความกัน เขากล้าไปรับการพิพากษาจากคนไม่ชอบธรรม แทนที่จะรับจากธรรมิกชนหรือ? 2ท่านทั้งหลายรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าธรรมิกชนจะพิพากษาโลก? และถ้าพวกท่านจะพิพากษาโลก ท่านไม่เหมาะจะพิพากษาเรื่องเล็กน้อยหรือ? 3พวกท่านรู้แล้วไม่ใช่หรือว่าเราจะพิพากษาพวกทูตสวรรค์? ถ้าเช่นนั้นก็ยิ่งควรจะพิพากษาเรื่องของชีวิตนี้ 4เมื่อเป็นความกันในเรื่องชีวิตนี้ พวกท่านจะตั้งคนที่คริสตจักรไม่ยอมรับให้ตัดสินหรือ? 5ข้าพเจ้ากล่าวเช่นนี้ ก็เพื่อให้ท่านละอายใจ ในพวกท่านไม่มีสักคนหนึ่งที่มีสติปัญญาสามารถวินิจฉัยเรื่องระหว่างพี่น้องหรือ? 6แต่พี่น้องกับพี่น้องต้องถูกพิพากษาต่อหน้าคนที่ไม่มีความเชื่ออย่างนั้นหรือ? 7อันที่จริง เมื่อไปเป็นความกันพวกท่านก็ตกจากระดับที่ควร ทำไมท่านจึงไม่ยอมทนต่อการร้ายเสียดีกว่า? ทำไมท่านจึงไม่ยอมถูกโกงเสียดีกว่า? 8แต่พวกท่านกลับทำร้ายกัน และโกงกันแม้กระทั่งพี่น้อง”
13.เราต้องแก้ไขความขัดแย้งด้วยการพูดความจริงด้วยความรัก
อฟ4:15-16 15“แต่ให้เรายึดถือความจริงด้วยความรัก เพื่อจะเจริญขึ้นในทุกด้านสู่พระองค์ผู้เป็นศีรษะคือพระคริสต์ 16เนื่องจากพระองค์นี้เอง ร่างกายทั้งหมดจึงได้รับการเชื่อมและประสานเข้าด้วยกันโดยทุกๆ ข้อต่อที่ประทานมานั้น และเมื่อแต่ละส่วนทำงานตามหน้าที่แล้ว ก็ทำให้ร่างกายเจริญและเสริมสร้างตนเองขึ้นด้วยความรัก”
14.เราต้องพูดจาอ่อนสุภาพและเมตตาเพื่อลดความขัดแย้งระหว่างกัน
คส4:6 “จงให้ถ้อยคำของท่านทั้งหลายประกอบด้วยเมตตาคุณเสมอ ปรุงด้วยเกลือให้มีรส เพื่อท่านจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร”
สภษ15:1 “คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ”
15.เราต้องแก้ไขความขัดแย้งตามขั้นตอนที่พระเยซูคริสต์สอน
มธ18:15-17 15“หากพี่น้องของท่านคนหนึ่งทำผิดต่อท่าน จงไปหาและชี้ความผิดต่อเขาสองต่อสองเท่านั้น ถ้าเขาฟังท่าน ท่านจะได้พี่น้องคืนมา 16แต่ถ้าเขาไม่ฟังท่าน จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย เพื่อให้คำพูดทุกคำได้รับการยืนยันด้วยปากของสองสามคนเพื่อทุกคำจะเป็นหลักฐานได้ 17ถ้าเขาไม่ฟังคนเหล่านั้น จงไปแจ้งต่อคริสตจักร ถ้าเขายังไม่ฟังคริสตจักรอีก ก็ให้ถือว่าเขาเป็นเหมือนคนต่างชาติหรือคนเก็บภาษี”
16.เราต้องพึ่งพระคุณและไม่ปล่อยให้ความขมขื่นฝังในใจจนเกิดความขัดแย้งขึ้น
ฮบ12:15 “จงระวังให้ดี อย่าให้ใครขาดจากพระคุณของพระเจ้า และอย่าให้มีรากขมขื่นงอกขึ้นมา ก่อความยุ่งยากให้และทำให้หลายคนเป็นมลทิน”
17.เราต้องรีบคืนดีกับพี่น้องที่เราขัดแย้งให้กลับเป็นหนึ่งเดียวกันโดยด่วน
มธ5:23-24 23“เพราะฉะนั้น ถ้าท่านนำเครื่องบูชามาถึงแท่นบูชาแล้ว และระลึกขึ้นได้ว่า พี่น้องมีเหตุขัดเคืองข้อหนึ่งข้อใดกับท่าน 24จงวางเครื่องบูชาไว้ที่หน้าแท่นบูชา และกลับไปคืนดีกับพี่น้องผู้นั้นเสียก่อน แล้วจึงค่อยมาถวายเครื่องบูชาของท่าน”
อฟ4:2-3 2“คือจงถ่อมใจและมีความสุภาพอ่อนโยนอยู่เสมอ จงอดทน จงอดกลั้นต่อกันและกันด้วยความรัก 3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน”
18.เราต้องรีบสารภาพผิด และอธิษฐานเผื่อกันเมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น
ยก5:16 “เพราะฉะนั้นท่านจงสารภาพบาปต่อกันและกัน และจงอธิษฐานเผื่อกันและกัน เพื่อท่านทั้งหลายจะได้รับการรักษาโรค คำวิงวอนของผู้ชอบธรรมนั้นมีพลังมากและเกิดผล”
19.เราต้องฉลาดในการรีบให้อภัยคนที่เราขัดแย้งด้วยให้เร็วที่สุด
สภษ19:11 “ความฉลาดของมนุษย์ทำให้เขาโกรธช้าและการให้อภัยความผิดก็เป็นศักดิ์ศรีแก่เขา”
20.เราต้องทำดีด้วยความรักต่อผู้ที่ขัดแย้งกับเราและอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุข
รม12:18 “ถ้าเป็นได้ เท่าที่เรื่องขึ้นอยู่กับท่าน จงอยู่อย่างสงบสุขกับทุกคน”
21.เราต้องทำตามบทบาทหน้าที่ต่อกันด้วยความรักถ่อมใจเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง
1ปต3:1 “ส่วนพวกท่านที่เป็นภรรยาก็เช่นกัน จงยอมเชื่อฟังสามีของตน เพื่อว่าแม้สามีบางคนไม่เชื่อพระวจนะ แต่ความประพฤติของภรรยาก็อาจจะจูงใจพวกเขาให้เชื่อได้ โดยไม่ต้องพูดเลยสักคำเดียว”
1ปต5:5 “ในทำนองเดียวกัน พวกท่านที่อ่อนอาวุโส ก็จงยอมเชื่อฟังพวกผู้อาวุโส ท่านทุกคนจงสวมความถ่อมตัวในการปฏิบัติต่อกันและกัน เพราะพระเจ้าทรงต่อสู้คนที่หยิ่งจองหองแต่ประทานพระคุณแก่คนที่ถ่อมใจ”
22.เราต้องพึ่งพระเจ้าให้นำและช่วยเรา หากว่าเราหลีกเลี่ยงความขัดแย้งไม่ได้
อพย14:14 “พระยาห์เวห์จะทรงรบแทนท่านทั้งหลาย พวกท่านจงสงบอยู่เถิด”
23.เราต้องพะวงและห่วงใยซึ่งกันและกัน แทนที่จะมาขัดแย้งกัน
1คร12:25~2725“เพื่อไม่ให้มีการแตกแยกกันในร่างกาย แต่ให้อวัยวะต่างๆ มีความห่วงใยแบบเดียวกันต่อกันและกัน 26ถ้าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมทุกข์ด้วย ถ้าอวัยวะหนึ่งได้รับเกียรติ อวัยวะทั้งหมดก็ร่วมชื่นชมยินดีด้วย 27ส่วนท่านทั้งหลายเป็นกายของพระคริสต์ และแต่ละอวัยวะก็เป็นส่วนหนึ่งของกายนั้น”
24.เราต้องช่วยกันระงับความขัดแย้งระหว่างพี่น้องในท่ามกลางเรา
ฟป4:2-32 “ข้าพเจ้าขอเตือนนางยูโอเดีย และขอเตือนนางสินทิเค ให้มีจิตใจปรองดองกันในองค์พระผู้เป็นเจ้า 3ข้าพเจ้าขอร้องตัวท่านด้วยท่านผู้เป็นเพื่อนร่วมงานอย่างแท้จริง จงช่วยผู้หญิงทั้งสองที่สู้เพื่อข่าวประเสริฐร่วมกับข้าพเจ้า เคลเมนท์ และคนอื่นๆ ที่เป็นเพื่อนร่วมงานของข้าพเจ้า ซึ่งชื่อของเขาทั้งหลายมีอยู่ในหนังสือแห่งชีวิตแล้ว”
25.เราต้องดำเนินชีวิตให้พระเจ้าพอพระทัย แล้วพระเจ้าจะทำให้คนที่ขัดแย้งกลับมาคืนดี
สภษ16:7 “เมื่อทางของมนุษย์เป็นที่โปรดปรานแก่พระยาห์เวห์ แม้ศัตรูของเขานั้นพระองค์ก็ทรงทำให้คืนดีกับเขาได้”
26.เราต้องใช้สติปัญญาและใจบริสุทธิ์ในการลดความขัดแย้งและสร้างสันติ
ยก3:17-18 17“แต่ปัญญาจากเบื้องบนนั้นบริสุทธิ์เป็นประการแรก แล้วจึงเป็นความสงบสุข การผ่อนหนัก ผ่อนเบา การยอมรับฟัง การเต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาและผลดีต่างๆ ไม่มีการลำเอียง ไม่มีการหน้าซื่อใจคด 18และพวกที่สร้างสันติ ซึ่งหว่านด้วยสันติ ก็จะได้รับผลคือความชอบธรรม”
ฮบ12:4 “ในการต่อสู้กับบาปนั้น ท่านยังไม่ได้สู้จนถึงกับต้องหลั่งเลือดเลย”
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer