คำถาม: “ ในพระคัมภีร์ได้บอกไว้หรือไม่ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ(แม่)กับลูกนั้นควรจะเป็นอย่างไร?”
คำตอบ: แทนที่จะตอบ ผมขอถามคำถามแทน (พร้อมใส่ข้อพระคัมภีร์ประกอบแทน) จะดีกว่า ว่า…
1.คุณเป็นพ่อที่ทำตัวให้ลูกเคารพนับถือและเต็มใจให้เกียรติ หรือว่าคุณได้ทำตรงกันข้าม? และคุณเป็นลูกที่ให้เกียรติพ่อหรือไม่? และคุณทำอะไรที่พ่อยอมรับนับถือบ้าง?
“เพราะว่าพระเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ‘จงให้เกียรติบิดามารดาของตน’ และ ‘ใครประณามบิดามารดาจะต้องมี โทษถึงตาย’ แต่พวกท่านกลับสอนว่า ‘ใครกล่าวกับบิดามารดาว่า “สิ่งใดของข้าพเจ้าซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อท่าน สิ่งนั้นเป็นของที่ถวายแด่พระเจ้าแล้ว” คนนั้นก็ไม่ต้องให้เกียรติบิดาของตน’ อย่างนั้นแหละ พวกท่านทำให้พระวจนะ ของพระเจ้าเป็นโมฆะไป เพราะคำสอนสืบทอดของท่าน” ~มัทธิว 15:4-6 THSV11
2.คุณเป็นพ่อที่ทำตัวให้ลูกยอมฟังและเชื่อฟังด้วยความเต็มใจหรือไม่? และคุณเป็นลูกที่ยอมฟังและเชื่อฟังพ่อในทุกเรื่องหรือไม่? หรือคุณดูหมิ่นท่าน? (และหากมีเหตุผลที่คุณจะไม่เชื่อฟัง นั่นเป็นเพราะอะไร และคุณทำด้วยท่าทีอย่างไร?)
“บุตรทั้งหลาย จงเชื่อฟังบิดามารดาของท่านในองค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่านี่เป็นเรื่องถูกต้อง “จงให้เกียรติบิดา มารดา ของเจ้า” นี่เป็นบัญญัติข้อแรกที่มีพระสัญญากำกับด้วย “เพื่อเจ้าจะไปดีมาดีและมีอายุยืนยาวบนแผ่นดินโลก”” ~เอเฟซัส 6:1-3 THSV11
“จงฟังบิดาผู้ให้กำเนิดเจ้า และอย่าดูหมิ่นมารดาเมื่อนางแก่” ~สุภาษิต 23:22 THSV11
3.คุณเป็นพ่อที่ประพฤติตัวให้เป็นศักดิ์ศรีของลูกหรือไม่? หรือคุณทำให้ลูกรู้สึกอับอายที่มีพ่ออย่างคุณ? (ถ้าเป็นเช่นนี้คุณจะแก้ไขอย่างไร? เรื่องอะไร และเมื่อไร?) และคุณเป็นลูกที่ทำตัวให้เป็นความภาคภูมิใจหรือความอับอายของพ่อที่ทำให้พ่อขายหน้า?(คุณจะปรับเปลี่ยนแก้ไขหรือไม่? อย่างไร?)
“หลานเป็นมงกุฎของคนแก่ และศักดิ์ศรีของบุตรชายคือบิดาของเขา” ~สุภาษิต 17:6 THSV11
“ทาสที่ฉลาดจะปกครองบุตรชายผู้ก่อเรื่องน่าอับอาย และจะได้ส่วนแบ่งมรดกเหมือนเป็นคนหนึ่งในครอบครัว” ~สุภาษิต 17:2 THSV11
“บุตรที่เฝ้ารักษาธรรมบัญญัติเป็นคนฉลาด แต่เพื่อนของคนตะกละทำให้บิดาของตนขายหน้า” ~สุภาษิต 28:7 THSV11
“บุตรชายที่เก็บสะสมไว้ในฤดูแล้งก็เป็นคนฉลาด แต่บุตรชายผู้หลับในฤดูเกี่ยวก็นำความอับอายมา” -สุภาษิต 10:5 THSV11
4.คุณเป็นพ่อที่รัก เคียงข้างปกป้องเลี้ยงดูลูกเป็นอย่างดี หรือ ทอดทิ้งละเลยลูก? (หากเป็นเช่นนี้ คุณ จะปรับปรุงแก้ไขอย่างไรให้ดีขึ้น?) และคุณเป็นลูกที่ เพิกเฉย ละเลย ทอดทิ้งพ่อหรือขโมยของพ่อของคุณหรือไม่? (ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณจะแก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง?อย่างไร?)
“แม้บิดาและมารดาของข้าพระองค์ทอดทิ้งข้าพระองค์ แต่พระเจ้าจะทรงยกข้าพระองค์ขึ้น” ~สดุดี 27:10 TH1971
“คนดีย่อมทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน แต่ทรัพย์สมบัติของคนบาปนั้นถูกเก็บไว้ให้คนชอบธรรม” ~สุภาษิต 13:22THSV11
“คนที่ขโมยของของบิดาหรือมารดาของตน และพูดว่า “อย่างนี้ไม่ผิด” เขาก็เป็นเพื่อนของนักทำลาย” –สุภาษิต 28:24 THSV11
5.คุณเป็นพ่อที่ชื่นบานและทำให้ลูกมีความสุขยินดีที่อยู่ด้วยหรือไม่? หรือคุณชอบยั่วโทสะ หรือทำร้ายลูก (ไม่ว่าจะทางวาจา ทางกาย หรือทางจิตใจ) จนทำให้ลูกไม่อยากอยู่ใกล้ และอยากออกห่างไกล?(ถ้าเป็นเช่นนี้ คุณจะแก้ไข อย่างไรให้ดีขึ้น?) และคุณเป็นลูกที่ทำให้พ่อมีความสุข ความยินดี หรือทุกข์โศกเศร้า? ยินดีหรือเจ็บปวด?
(ไม่ว่าจะทางวาจา หรือ ทางกาย อย่างเลวร้าย เช่น ทำให้พ่อหายนะ ทำร้ายหรือไล่พ่อ พ่อ ฯลฯ)
แล้วคุณตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอะไรบ้าง?)
“ส่วนท่านทั้งหลายที่เป็นบิดา อย่ายั่วบุตรของท่านให้เกิดโทสะ แต่จงเลี้ยงดูพวกเขาด้วยการสั่งสอนและการเตือนสติตามหลักขององค์พระผู้เป็นเจ้า” ~เอเฟซัส 6:4 THSV11
“บุตรทั้งหลายจงเชื่อฟังบิดามารดาของตนในทุกเรื่อง เพราะสิ่งนี้เป็นที่ชอบพระทัยขององค์พระผู้เป็นเจ้า บิดา ทั้งหลายก็อย่ายั่วบุตรของตนให้ขัดเคืองใจ เพื่อว่าพวกเขาจะไม่ท้อใจ” ~โคโลสี 3:20-21 THSV11
“บรรดาสุภาษิตของซาโลมอน บุตรชายที่มีปัญญาทำให้บิดายินดี แต่บุตรชายที่โง่เป็นความโศกของมารดา เขา” -สุภาษิต 10:1 THSV11
“ผู้ให้กำเนิดคนโง่ย่อมทุกข์โศก และบิดาของคนโง่เขลาไม่มีความชื่นบาน.. บุตรชายโง่เป็นความโศกสลดแก่ บิดา และเป็นความขมขื่นแก่มารดา” สุภาษิต 17:2, 6, 21, 25 THSV11
“คนที่ทำร้ายบิดาและขับไล่มารดา เป็นบุตรชายผู้นำความอับอายและความเสื่อมเสียมา ลูกเอ๋ย ถ้าเจ้าเลิกฟัง คำสั่งสอน เจ้าก็จะหลงไปจากคำแห่งความรู้” ~สุภาษิต 19:13-14, 18, 26-27 THSV11
“บุตรโง่เขลาเป็นความหายนะแก่บิดา และภรรยาขี้ทะเลาะก็เหมือนน้ำฝนย้อยหยดไม่หยุดคนที่ทำร้ายบิดาและ ขับไล่มารดา เป็นบุตรชายผู้นำความอับอายและความเสื่อมเสียมา”~สุภาษิต 19:13, 26 THSV11
“มีคนที่แช่งบิดา และไม่อวยพรมารดาของตน… ดวงตาที่เยาะเย้ยบิดา และดูถูกไม่ฟังมารดา จะถูกฝูงกาแห่งหุบเขาจิกออก และลูกนกแร้งจะกินเสีย” ~สุภาษิต 30:11, 17 THSV11
6.คุณเป็นพ่อที่พูดคุยและหมั่นสั่งสอนหรือมอบสิ่งดีๆให้แก่ลูก(เป็นเหมือนมรดก)ที่เขานำมาปฏิบัติตามบ้างหรือไม่? เรื่องอะไร? และคุณเป็นลูกที่เรียนรู้สิ่งดีๆ จากพ่อและนำมาใช้จริงบ้างหรือไม่?อย่างไร?
“ลูกเอ๋ย อย่าลืมคำสอนของข้า แต่ให้ใจของเจ้าเฝ้ารักษาบัญญัติของข้า เพราะสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มวันเดือนปีของ ชีวิตให้ยืนยาว และทวีความสมบูรณ์พูนสุขแก่เจ้า อย่าให้ความจงรักภักดีและความซื่อสัตย์ทอดทิ้งเจ้า จงพันมันไว้รอบคอของเจ้า จงเขียนมันไว้บนแผ่นจารึกแห่งหัวใจของเจ้า ดังนั้น จงหาความโปรดปรานและชื่อเสียงดี ในสายพระเนตรพระเจ้า และในสายตามนุษย์…ลูกเอ๋ย อย่าดูหมิ่นพระดำรัสสอนของพระยาห์เวห์ และอย่าเบื่อหน่ายพระดำรัสเตือนของพระองค์ เพราะพระยาห์เวห์ทรงตักเตือนผู้ที่พระองค์ทรงรัก ดังบิดาตักเตือนบุตรที่เขาโปรดปราน” ~สุภาษิต 3:1-4, 11-12 THSV11
“คนที่สงวนไม้เรียวก็เกลียดบุตรชายของตน แต่คนที่รักเขาย่อมหมั่นตีสอนเขา” ~สุภาษิต13:24
“คนดีย่อมทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลาน แต่ทรัพย์สมบัติของคนบาปนั้นถูกเก็บไว้ให้คนชอบธรรม” ~สุภาษิต 13:22 THSV11
7.คุณเป็นพ่อที่ศรัทธาในพระเจ้า มีใจกรุณาดีพร้อมเหมือนพระเจ้า สร้างวินัยและสอนลูกให้อยู่ในทางของพระเจ้าตั้งแต่พวกเขายังเป็นเด็กเล็กๆ จนมีความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าอย่างมั่นคง หรือไม่? และคุณเป็นลูกที่ยอมรับการสอน สร้างและลงวินัยของพ่อ ตามพระวจนะของพระเจ้า หรือไม่อย่างไร? และส่งผลอะไรต่อชีวิตของคุณบ้าง? ดีหรือไม่ดี?
“พวกท่านจงมีใจเมตตากรุณาเหมือนอย่างพระบิดาของท่านมีพระทัยเมตตากรุณา” ~ลูกา 6:36 THSV11
“คนที่สงวนไม้เรียวก็เกลียดบุตรชายของตน แต่คนที่รักเขาย่อมหมั่นตีสอนเขา” ~สุภาษิต 13:1, 22, 24 THSV11
“ไม้เรียวและคำตักเตือนให้ปัญญา แต่เด็กที่ถูกปล่อยปละละเลยจะนำความอับอายมาสู่มารดา… จงตีสอนบุตรของเจ้า และเขาจะให้เจ้าสบายใจ เขาจะให้ความปีติยินดีแก่เจ้า”~สุภาษิต 29:3, 15, 17 THSV11
“อย่าละเลยการตีสอนเด็ก เพราะถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว เขาจะไม่ตาย ถ้าเจ้าตีเขาด้วยไม้เรียว เจ้าจะช่วยชีวิต เขาให้พ้นจากแดนคนตาย” ~สุภาษิต 23:13-14 THSV11
“ลูกเอ๋ย ถ้าใจของเจ้ามีปัญญา ใจของข้าเองก็จะยินดีด้วย จิตใจของข้าจะเปรมปรีดิ์ เมื่อปากของเจ้าพูดสิ่งที่ ถูกต้อง เจ้าอย่าริษยาคนบาป แต่จงยำเกรงพระยาห์เวห์ตลอดเวลา เพราะแน่นอนมีอนาคตสำหรับเจ้า และความหวังของเจ้าจะไม่สลาย” ~สุภาษิต 23:15-18 THSV11
สรุป
ขอให้เราเป็นพ่อที่เป็นคนชอบธรรมที่อบรมสั่งสอนลูกให้เป็นคนดีมีคุณธรรมและมีสติปัญญาที่จะนำความยินดีมาสู่ผู้เป็นพ่อตลอดชีวิต หรืออย่างน้อยก็ในบั้นปลาย
“บิดาของคนชอบธรรมจะเปรมปรีดิ์อย่างยิ่ง คนที่ให้กำเนิดบุตรที่มีปัญญาจะยินดีในเขา จงให้บิดามารดาของเจ้ายินดี จงให้ผู้ที่คลอดเจ้าเปรมปรีดิ์” -สุภาษิต 23:24-25 THSV11
ดังนั้นความสัมพันธ์พ่อ และลูกของคุณ ควรจะเป็นอย่างไร? คำแนะนำคือ ควรให้ทั้งพ่อและลูกทุกคู่เป็นคนดีพร้อมตามสถานภาพของตน ถ้าเป็นพ่อก็จงเป็นพ่อที่ดี ถ้าเป็นลูกก็จงเป็นลูกที่ดี เป็นผู้ที่เคารพยำเกรงพระเจ้า รู้จักให้เกียรติกันและกันอย่างที่พระเจ้าทรงพอพระทัย!
“เพราะฉะนั้นพวกท่านจงเป็นคนดีพร้อม เหมือนอย่างที่พระบิดาของท่าน ผู้สถิตในสวรรค์ทรงดีพร้อม” ~มัทธิว 5:48 THSV11
เพราะหากทำเช่นนี้ โลกของเรานี้ ก็จะน่าอยู่มากขึ้น จริงไหม?
-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์- twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer