Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

รับใช้และเติบโตไปพร้อมกันได้อย่างไร? (คอลัมน์คำตอบชีวิต)

คำถาม:     “ทำอย่างไรจึงจะรับใช้เติบโตขึ้นไปพร้อมกัน เพราะเห็นหลายคนยิ่งรับใช้แล้วยิ่งหมดไฟ?”

คำตอบ:     “น่าเสียดายที่หลายคนรับใช้แล้ว ยิ่งถดถอย บางคนถึงกับแฉลบออกนอกทางที่ควรจะเดินไปเลย อาจเป็นเพราะเขาเข้าใจผิดคิดว่า ถ้ารับใช้พระเจ้าแล้วเขาจะเข้มแข็งหรือเติบโตขึ้นโดยอัตโนมัติ
                  แท้จริงกลับไม่ใช่เช่นนั้น เพราะ หากผู้ใดจะรับใช้พระเจ้า เขายิ่งต้องรับผิดชอบทำให้ตัวเองเข้มแข็งและเติบโตอย่างมีวินัย เพื่อจะรับใช้ได้นาน ควบคู่ไปกับการเรียนรู้และฝึกฝนตนในงานรับใช้นั้นๆ จนช่ำชองเพื่อจะรับใช้ได้ดียิ่งขึ้น

คำถาม:      แล้วเราจะรับใช้ ควบคู่ไปกับการเติบโตในพระคริสต์ ได้อย่างไร?

ประการแรก เราต้องเข้าใจก่อนว่า เติบโต หมายความว่า อะไร?

“เติบโตในพระคริสต์” หมายความว่า “เราได้เพิ่มพูนความรู้เรื่องพระคริสต์ เข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้า และ พัฒนาความสัมพันธ์กับพระคริสต์จนมีความรักผูกพัน เชื่อฟังและวางใจพระองค์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และดำเนินชีวิตอย่างชอบธรรมเกิดผลตามพระประสงค์อย่างถวายพระเกียรติแด่พระเจ้า”

ประการที่สอง เราต้องกระทำสิ่งต่อไปนี้ ควบคู่ไปกับการรับใช้เพื่อเราจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

1. เราต้องเข้าหาใกล้ชิดพระเจ้า อธิษฐานต่อพระองค์ในแต่ละวันด้วยความร้อนรน

ยน.15:7  “ถ้าพวกท่านติดสนิทอยู่กับเราและถ้อยคำของเราติดสนิทอยู่กับท่านแล้ว ท่านจะขอสิ่งใดที่ท่านปรารถนาก็จะได้สิ่งนั้น”

2. เราต้องฟัง อ่าน หรือศึกษาพระวจนะของพระเจ้า(ร่วมกับพี่น้อง)เป็นประจำทุกวัน เพื่อค้นหาความจริงฝ่ายวิญญาณอย่างกระตือรือร้น

กจ.17:11 “ยิวในเมืองนี้มีใจยอมรับมากกว่ายิวในเมืองเธสะโลนิกา เพราะพวกเขารับพระวจนะด้วยความอยากรู้และค้นดูพระคัมภีร์ทุกวัน หวังจะรู้ว่าข้อความเหล่านั้นจริงดังที่กล่าวหรือไม่” 

3. เราต้องเชื่อ และเชื่อฟังพระวจนะที่เราอ่าน และลงมือทำตามนั้นในทันที

ยน14:21 “ใครที่มีบัญญัติของเราและประพฤติตามบัญญัติเหล่านั้น คนนั้นเป็นคนที่รักเรา และคนที่รักเรานั้นพระบิดาของเราจะทรงรักเขา และเราจะรักเขาและจะสำแดงตัวให้ปรากฏแก่เขา”

 4. เราต้องติดตามพระคริสต์ และเป็นพยานด้วยคำพูดและการดำเนินชีวิตและเกิดผล

1ธส.2:10 “ท่านเป็นพยานฝ่ายเรา และพระเจ้าก็ทรงเป็นพยานด้วยว่าเราได้ประพฤติตัวบริสุทธิ์ เที่ยงธรรม และปราศจากข้อตำหนิในหมู่พวกท่านที่เชื่อ”

ยน15:8 “พระบิดาของเราทรงได้รับพระเกียรติเพราะเหตุนี้ คือเมื่อพวกท่านเกิดผลมากและเป็นสาวกของเรา” 

5. เราต้องมอบความวิตกกระวนกระวายทุกอย่างไว้กับพระเจ้าด้วยความวางใจ       

1ปต5:7 “จงละความกังวลทุกอย่างของพวกท่านไว้กับพระองค์ เพราะว่าพระองค์ทรงห่วงใยท่านทั้งหลาย”

6. เราต้องดำเนินชีวิตโดยให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำและเสริมพลังในทุกสิ่งที่เราทำและเป็นพยาน

กท5:16-17 “แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าจงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง  เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังขัดแย้งพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ขัดแย้งเนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านปรารถนาจะทำ”

กจ1:8 “แต่พวกท่านจะได้รับพระราชทานฤทธานุภาพ เมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จมาเหนือท่าน และท่านทั้งหลายจะเป็นสักขีพยานของเราในกรุงเยรูซาเล็ม ทั่วแคว้นยูเดีย ทั่วแคว้นสะมาเรีย และจนถึงที่สุดปลายแผ่นดินโลก”

7. เราต้องมีเวลาลงชีวิตร่วมสามัคคีธรรมกับพี่น้องเป็นประจำเพื่อเสริมสร้างกันทุกสัปดาห์ ด้วยความรักห่วงใยกัน

กจ.2:41-41 “คนทั้งหลายที่รับถ้อยคำของเปโตรก็รับบัพติศมา ในวันนั้นมีคนเข้าเป็นสาวกประมาณสามพันคน เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูตและร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน”
                                                                              
กจ.2:46  “ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจ”
                                                                                   
8. เราต้องปลุกใจกันให้จัดเวลาไปนมัสการด้วยกันเป็นประจำทุกวันอาทิตย์โดยไม่ขาดด้วยความซื่อสัตย์

ฮบ10:24-25 “และขอให้เราพิจารณาดูเพื่อจะปลุกใจกันและกันให้มีความรักและทำความดี อย่าขาดการประชุมเหมือนอย่างบางคนทำเป็นนิสัย แต่จงหนุนใจกันให้มากยิ่งขึ้น เพราะพวกท่านก็รู้อยู่ว่าวันนั้นใกล้เข้ามาแล้ว”

9. เราต้องประชุมและสื่อสารกันในการรับใช้เพื่อความเข้าใจ กำจัด ป้องกัน หรือลดความขัดแย้งในหว่างกันด้วยความถ่อมใจ

กจ.15:2  “เมื่อเกิดการโต้แย้งและถกเถียงระหว่างเปาโลและบารนาบัสกับคนเหล่านั้นมากมายแล้ว เขาทั้งหลายก็ตั้งเปาโลและบารนาบัสกับคนอื่นๆ ให้ขึ้นไปหารือกับบรรดาอัครทูตและบรรดาผู้ปกครองในกรุงเยรูซาเล็มเกี่ยวกับเรื่องที่เถียงกันนั้น”

10. เราต้องเอาชนะความเห็นแก่ตัว และความโลภได้ด้วยการมีวินัยในการถวายทรัพย์ สิ่งของ ความสามารถและเวลา เพื่อราชกิจของพระเจ้าที่เรารับใช้อยู่

กจ. 2:44-45  “คนทั้งหมดที่เชื่อถือก็อยู่รวมกัน และนำทุกสิ่งมารวมเป็นของกลาง และพวกเขาขายที่ดินและทรัพย์สิ่งของมาแบ่งให้แก่กันตามความจำเป็น”

สรุป

ในการรับใช้ มักจะต้องเผชิญกับอุปสรรค และปัญหา ทั้งเล็กและใหญ่ ทั้งง่าย และยาก
ผลที่จะตามมาจากการเผชิญหน้ากับอุปสรรค อาจออกมาแบบใดแบบหนึ่ง คือ

  1. ตาย~คือเลิกการรับใช้ไปเลย
  2. เตี้ย~คือ ขออยู่เฉยๆ ไม่หายไปไหน แต่ขอเบรกการรับใช้ไว้ชั่วคราว
  3. โต~คือ รับใช้แล้วเกิดผล เจริญเติบโตในฝ่ายจิตวิญญาณ และสามารถฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆ ไปได้อย่างมีชัย

คนที่รับใช้และเจริญเติบโตไปในเวลาเดียวกันก็คือคนที่ได้กระทำตามคำแนะนำทั้ง 10 ประการนั้นอย่างครบถ้วน!

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.