ความเศร้าเป็นสิ่งดีได้ด้วยหรือ?
มากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด พระโลหิตของพระคริสต์ ผู้ทรงถวายพระองค์เองที่ปราศจากตำหนิแด่พระเจ้าโดยพระวิญญาณนิรันดร์ ก็จะทรงชำระมโนธรรมของเราจากการประพฤติที่เปล่าประโยชน์ เพื่อเราจะปรนนิบัติพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ (ฮีบรู 9:14 THSV11)
บางครั้งเรามีความคิดผิดๆเกี่ยวกับพระคัมภีร์ แม้กระทั่งเกี่ยวกับโบสถ์ ซึ่งต่างก็ส่งอิทธิพลต่อเรา เราต้องการรับพระพร แต่ไม่ต้องการกลับมาดูสิ่งที่ตัวเราทำ เราต้องการมีแต่ความสุข ความทุกข์ไม่ต้องการ เราต้องการได้รับกำลังใจและแรงบันดาลใจ เราต้องการให้ทุกครั้งที่เดินออกจากโบสถ์รู้สึกดีและมีความสุข
แต่ผมก็ไม่ได้ต้องการให้คุณมีความสุขโดยตกอยู่ในความบาป คุณอาจต้องกลับมาทบทวนการกระทำของคุณ ฟังเสียงตักเตือนจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อให้คุณได้สำนึกผิด กลับใจ และได้เดินออกจากโบสถ์ด้วยความสุขใจแท้จริง เพราะพระเยซูตรัสว่า “คนที่โศกเศร้าก็เป็นสุขเพราะว่าเขาทั้งหลายจะได้รับการหนุนใจ” (มัทธิว 5:4 THSV11)
คำว่า “เป็นสุข” หรือมีความสุขที่พระเยซูใช้ เราอาจแปลได้ว่า “ความสุขจะเป็นของคนที่โศกเศร้า เพราะพวกเขาจะได้รับความสุข”
เมื่อการสร้างกรุงเยรูซาเล็มเสร็จลง เอสรานำพระวจนะของพระเจ้ามาอ่านให้ประชาชนฟัง และในเนหะมีย์ 8 บอกเราว่า “ประชาชนได้ร้องไห้ เมื่อได้ยินถ้อยคำของธรรมบัญญัติ” (ข้อ 9 THSV11)
อย่างที่นักวิชาการวอร์เรน ไวส์เบอร์ ชี้ให้เห็น “เป็นสิ่งผิดที่ยังคร่ำครวญในสิ่งที่พระเจ้าให้อภัยแล้ว พอๆกับยินดีที่บาปมีชัยชนะเหนือเรา” พูดอีกแบบคือถ้าคุณหาเหตุผลมาอ้างในความคิดว่าบาปเป็นสิ่งที่พอรับได้ และแม้แต่บอกกับตัวเองได้ว่าพระเจ้าก็ไม่ได้ว่าอะไร คุณก็ตกอยู่ในอันตรายฝ่ายวิญญาณแล้ว หัวใจคุณจะแข็งกระด้าง และจิตสำนึกคุณก็ถูกทำลาย
พระเจ้าทรงชี้ให้เราเห็นบาปของเรา เพื่อให้สำนึกผิด และให้เข้าพึ่งพิงพระเยซูคริสต์ผู้แบกรับโทษแทนแล้วที่บนกางเขน เพื่อให้เราได้รับการอภัยจากบาป
โดย: Pastor Greg Laurie
อนุญาตโดย Harvest Ministries with Greg Laurie
PO Box 4000,Riverside,CA92514
(Cr.ภาพ FineArtAmerica – Chaitawat Pawapoowadon)