คุณสะสมรอยแผลไว้หรือ?
เพราะว่าคนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของเนื้อหนัง แต่คนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณ ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ (โรม 8:5 THSV11)
เกลียวคลื่นที่ทะยอยเข้าหาชายหาดเป็นระลอกเมื่อฉันเดินย่ำไปบนพื้นทรายที่เปียกและอ่อนนุ่มใต้ฝ่าเท้า ฉันชอบที่จะเก็บการเดินบนหาดทรายไว้ในวันสุดท้ายของการพักร้อน มองหาผลึกแก้วสมุทร (อัญมณีขยะจากท้องทะเล) เปลือกหอยสวยๆ และความทรงจำดีๆ ของสะสมพวกนี้กำลังเพิ่มมากขึ้น ทำให้ต้องเลือกเก็บให้รอบคอบมากขึ้น
สองชั่วโมงที่ย่ำเท้าไปบนหาดทรายทำให้มีเวลาะท้อนคิด คิดถึงการเยียวยาที่ฉันต้องการอย่างยิ่ง – ความทุกข์โศก การสูญเสีย ถูกทรยศ และถูกปฏิเสธ …
ทั้งหมดคือฤดูกาลของการปล่อยวางและเดินหน้า ฉันกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่พระเจ้าตรัสเข้ามาในหัวใจ
“เหมือนอัญมนีที่มีค่าจากท้องทะเล ลูกเอ๋ย เจ้าเลือกที่จะหยิบรอยแผลกลับขึ้นมา สะสมเอาไว้จนมันพอกพูนและกำลังกลืนกินเจ้า”
ฉันรู้สึกท้องไส้ปั่นป่วนทันที น้ำตาไหลรินใต้แว่นกันแดดลงมาอาบแก้ม ความเจ็บปวดจากการสูญเสียทำให้หัวใจอ่อนแอและหยาบกระด้าง สภาพที่เปราะบางต่อคำพูดทำร้ายที่รับเข้ามา ไม่ต้องใช้อารมณ์มากมายเพื่อกดน้ำหนักลงไปบนหัวใจที่แหลกสลาย
ลมเย็นจากท้องทะเลที่พัดผ่านใบหน้าและผมที่ปลิวตาม รู้แล้วว่าพระบิดากำลังบอกให้ฉันเลิกสะสมรอยแผลเสียที ความเจ็บลึกที่เก็บเอาไว้ได้ส่งผลกระทบต่อเนื่อง สร้างแต่ความสับสนวุ่นวายในอารมณ์ และทำให้ความทุกข์โศกยิ่งจมลึกลงไป
เราเลือกได้ว่าจะสะสมรอยแผล หรือจะปล่อยผ่านไป มารปรารถนาให้เราสะสมรอยแผลที่เจ็บปวดนั้นไว้แทนที่จะให้พระวิญญาณเข้ามาเยียวยา มันเล่นกับอารมณ์ของเรา ปลุกความเจ็บปวดให้ทวีขึ้น และใช้ทุกโอกาสเหยียบเราให้จมมิดลงไปในความเจ็บปวดนั้น
ที่แย่คือ เปิดรอยแผลเดิมก็เท่ากับเปิดประตูสู่ความขมขื่น เลือกความเจ็บปวดเป็นตัวนำชีวิตและปิดประตูตายสำหรับคนอื่นๆ ไม่อยากเปิดใจฟังใคร ทั้งที่รู้ว่าความรักของพระเจ้านั้นเยียวยาได้ทุกสิ่ง และพระองค์ปรารถนาให้เราเข้าไปสู่ความรักที่สมบูรณ์นั้นของพระองค์
แค่ชั่วขณะที่ประสบการณ์ความเจ็บปวดแตะมาบนบ่า ไม่ได้แปลว่าต้องหันกลับไปต้อนรับมัน เมื่อฉันร้องวิงวอนขอพระเจ้าให้เข้ามาเยียวยา ฉันสัมผัสได้ทันทีว่าพระองค์ปรารถนาให้ฉันเปลี่ยนความคิด
พระวจนะวันนี้เตือนว่า “เพราะว่าคนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายเนื้อหนัง ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของเนื้อหนัง แต่คนทั้งหลายที่อยู่ฝ่ายพระวิญญาณ ก็สนใจในสิ่งซึ่งเป็นของพระวิญญาณ” (โรม 8:5 THSV11)
มันง่ายที่จะให้ธรรมชาติบาปของเราผลักเราให้จมดิ่งลงไปในรอยแผลเดิมนั้น ใช่หรือไม่?
ฉันพบว่าการจมปลักอยู่ในความเจ็บปวดจะนำไปสู่ทัศนคติที่เป็นบาป และแตกหน่อไปเป็นความคิดที่หลุดไปจากทางของพระเจ้า … เปิดประตูให้รอยแผลทั้งเก่าและใหม่ทะลักเข้ามา
ยิ่งจมอยู่ในความทุกข์นานเท่าใด ความคิดยิ่งเป็นกบฎมากเท่านั้น ปล่อยอดีตและทัศนคติเชิงลบที่มีต่ออนาคตให้ผ่านพ้นไป คือหนทางเดียวที่จะเป็นอิสระจากหัวใจที่แตกสลาย
ขอบพระคุณที่พระวิญญาณคอยเตือนฉันด้วยความอ่อนโยนเสมอ ให้เอารอยแผลที่เจ็บปวดนั้นไปแลกกับอิสรภาพจากอารมณ์ที่มุ่งแต่จะทำร้าย
เช่นเดียวกับอัญมณีจากธรรมชาติบนหาดทราย ฉันคงต้องเลือกเก็บแต่สิ่งดีๆไว้ ปล่อยอดีตไปกับท้องทะเลกว้าง ก้าวข้ามรอยแผลที่ไม่เกิดประโยชน์ ที่มีแต่จะพันธนาการฉันไว้ในที่เดิมๆ
โดย Melanie Davis Porter
จาก Encouragement for today: www.proverb31.org
(Cr.ภาพ glassbeach Fort Bragg CA)