Categories
บทความ โดย ศจ. ธงชัย

คอลัมน์คำตอบชีวิต

คำตอบชีวิต

คำถาม: “ทำไมเราต้องไปเรียนพระคัมภีร์ที่โบสถ์? เรียนเองอยู่ที่บ้านไม่ได้หรือ?”

คำตอบ:

“จริงๆ แล้ว ถ้าเราเรียนรู้พระคัมภีร์ด้วยตัวเองอยู่ที่บ้านได้ ก็โอเคเลยครับ ก็คงคล้ายๆ เราเรียนหนังสืออยู่ที่บ้านโดยไม่ต้องเข้าโรงเรียนเลยก็ได้ แต่นั่นจะแทนที่การเรียนด้วยกันอย่างสิ้นเชิงคงไม่ได้แน่ เพราะการเรียนรู้มีหลายมิติ

ดังนั้น เราควรไปเรียนพระคัมภีร์ที่โบสถ์ เพราะมีประโยชน์มากมาย ในหลายประการและหลายมิติ มีดังนี้

  1. มิติด้านการเรียนรู้:   ความเข้าใจในเนื้อหา หรือบทเรียน ที่ได้จากการอ่านหรือศึกษาอะไรโดยลำพัง นั้น มักจะเป็น มุมมองที่จำกัดและแคบ (จนเกินไป) แตกต่างจากการมาเรียนพระคัมภีร์(หรือวิชาใดวิชาหนึ่งด้วยกัน) ร่วมกับผู้เรียนคนอื่นๆ ที่มาจากภูมิหลังและประสบการณ์ที่แตกต่างกัน เพราะแต่ละคนจะช่วยกันทำให้มุมมองที่มีต่อเนื้อหาบทเรียน หรือพระคัมภีร์ตอนนั้นอย่างหลากหลายความคิดเห็น และช่วยให้เกิดการตีความที่ครอบคลุมมิติแห่งความลึก กว้างและยาวของพระธรรมหรือบทเรียนที่เรียนรู้นั้น แบบที่คนๆ เดียวไม่มีทางเข้าใจได้หมดครบถ้วนโดยลำพัง   โดยเฉพาะยิ่งในการนำสิ่งที่เรียนรู้นั้นมาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้แบบรอบคอบเหมาะสมนั้น เพราะจำเป็นต้องผ่านการขัดเกลา   วิเคราะห์กลั่นกรองจากผู้ร่วมศึกษาคนอื่นๆ จึงจะสามารถสรุปแนวทางที่รัดกุมและปฏิบัติได้จริงที่ดีที่สุดออกมา
  2. มิติด้านสัมพันธภาพ และสังคม : การเรียนรู้อะไรโดยลำพัง แม้จะรู้มากแต่ไหน ก็มาปฏิบัติใช้จริงอย่างมีประสิทธิภาพได้ยากเพราะขาดมิติทางสังคม ไม่เข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นอยู่จริง อีกทั้งยังไม่ได้ประโยชน์อะไรจากความสัมพันธ์ที่พึงมีกับคนอีกหลายๆ คน ด้วยเหตุนี้เอง ทักษะการใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเรียนรู้จึงมีความสำคัญพอๆ กับการเรียนรู้เนื้อหาของพระคัมภีร์เลยทีเดียว  ดังนั้นการเรียนรู้พระคัมภีร์โดยปราศจากความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ จะนำมาสู่การปฏิบัติที่ถูกต้องเหมาะสมได้อย่างไร?
  3. มิติด้านจิตวิญญาณ สำหรับผู้ที่เชื่อในพระเจ้าแล้ว การศึกษาพระคัมภีร์ไม่ใช่เรื่องของการเพิ่มความรู้ที่หัวสมอง แต่ต้องขับเคลื่อนใจ และจิตวิญญาณของเราให้รู้สึกอย่างที่พระเจ้ารู้สึก  และทำให้จิตวิญญาณของเราและคนอื่น ๆ ที่ร่วมศึกษาพระคัมภีร์ล้วนเติบโตขึ้นด้วยกันพระเจ้าจะใช้เราและคนอื่น ๆ สะท้อนให้เห็นตัวตนของกันและกัน ทำให้ถ่อมใจถ่อมตัวมากขึ้นในการปฏิบัติต่อผู้อื่น ซึ่งการศึกษาพระคัมภีร์อยู่ตามลำพังจะไม่มีปัจจัยสำคัญส่งเสริมในการพัฒนาจิตวิญญาณของผู้เรียนเช่นนี้เลย

หากจะถามว่าอะไรคือประโยชน์จากการไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันที่โบสถ์? 

ก็คงตอบโดยสรุปได้ว่า

การไปเรียนพระคัมภีร์ที่โบสถ์หรือที่ไหนๆ จะก่อได้ด้วยกันอย่างต่อเนื่อง จะก่อเกิดประโยชน์อย่างน้อย 9 ประการดังนี้

  1. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เรามีความรู้ และเข้าใจความหมายของพระคัมภีร์ได้ถูกต้อง กว้าง ลึกและมากขึ้น เพราะทุกคนในกลุ่มหรือในชั้นจะช่วยกันมองเหตุการณ์ในพระคัมภีร์จากหลายๆ ด้าน และหลายๆ มุม และแบ่งปันสิ่งที่เห็น ทำให้เห็นภาพรวมชัดเจนมากขึ้น
  2. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เรารู้จักกัน มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและผูกพันกันในฐานะพี่น้องได้มากกว่าการไม่ได้ไปเรียนอย่างเห็นได้ชัด
  3. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เราก่อเกิดชุมชนแห่งสามัคคีธรรมที่ช่วยเหลือกันและอธิษฐานเผื่อกันได้ในยามที่ต้องการทันที (เพราะพบกันทุกสัปดาห์)
  4. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เราสามารถรับผิดชอบเตือนสติ ดูแลรักษาและพัฒนาจิตวิญญาณของกันและกันให้ปลอดภัย และห่างไกลจาก คำสอนเท็จที่ล่อลวง การทดลองและกับดักของมาร
  5. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เราต่างสามารถหนุนใจซึ่งกันและกันให้ยืนหยัดในความเชื่อ ผ่านการพูดให้กำลังใจต่อกัน และการเป็นพยานถึงพระคุณและฤทธิ์เดชของพระเจ้า
  6. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เรามีเวที และช่องทางในการฝึกฝนการรับใช้ที่เปิดให้แก่สมาชิกที่ปรารถนาจะปรนนิบัติได้แสดงฝีมือและมีส่วนร่วม
  7. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เราเกิดเครือข่ายเชื่อมโยงในการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร สามารถเกื้อกูลกันได้กว้างขวางและกว้างไกล อย่างรวดเร็ว (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีคนจากหลายกลุ่ม หลายคริสตจักร มาร่วมศึกษาพระคัมภีร์ด้วยกัน)
  8. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้เราและผู้สนใจที่แสวงหาความจริงจากพระวจนะของพระเจ้าสามารถแยกแยะ หายสงสัย เข้าใจ กลับใจ และเปิดใจรับความรอดจากพระเจ้าด้วยความมั่นใจ
  9. การไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันเป็นประจำทำให้ดำเนินชีวิตอย่างเติบโตขึ้นในความศรัทธาวางใจพระเจ้ามากขึ้น และสามารถตอบคำถามต่างๆ ทั้งในใจของตนเองและผู้อื่นได้อย่างมั่นใจ ด้วยหลักการจากพระคริสตธรรมคัมภีร์ อันจะเป็นเหตุที่ทำให้คริสตจักรเจริญเติบโตขึ้น ดังที่พระเจ้าทรงประสงค์

ดังนั้น ให้เราไปศึกษาพระคัมภีร์ที่โบสถ์กันเถอะ!

“เขาทั้งหลายอุทิศตัวเพื่อฟังคำสอนของบรรดาอัครทูต และร่วมสามัคคีธรรม รวมทั้งหักขนมปังและอธิษฐาน…ทั้งสรรเสริญพระเจ้าและได้รับความชื่นชอบจากทุกคน องค์พระผู้เป็นเจ้าก็โปรดให้คนทั้งหลายที่กำลังจะรอดเพิ่มจำนวนเข้ามามากยิ่งขึ้นทุกๆ วัน”  กิจการ 2:42, 47 THSV11

คำเชิญชวน!!! 

เนื่องเพราะตระหนักในความสำคัญอย่างยิ่งของการไปศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกันในทุกสัปดาห์ คริสตจักร นิมิตใหม่ คริสตจักรแห่งความสุข คริสตจักรแห่งความรักและศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์(BSC) จึงได้ร่วมกันเปิดชั้นเรียนขึ้นในทุกวันพฤหัสขึ้น เพื่อเสริมสร้างสมาชิก และผู้สนใจไม่ว่าจะมาจากไหน(คริสตจักรใด) สามารถไปร่วมเรียนได้ ในทุกวันพฤหัส โดยมี

  • อาหารรับประทานฟรี ตั้งแต่ 18.00-19.00 น.
  • การสามัคคีธรรม(อธิษฐาน ร้องเพลง & เป็นพยาน) 19.00-19.30 น. และ
  • ศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกัน เวลา 19.30-21.00 น.

ณ BSC สี่แยก พญาไท ห้อง 401 ชั้นที่ 4 ของอาคารศูนย์รวมนกศึกษาแบ๊บติสต์ 

จึงขอเชิญชวนและหวังว่าจะได้เห็น พี่น้องจำนวนมากตั้งใจ ตั้งเวลา มาศึกษาพระคัมภีร์ร่วมกัน เพื่อเราจะนำความรู้และความเชื่อที่ได้จากการศึกษาพระคัมภีร์มา เสริมสร้างจิตวิญญาณของกันและกันให้มากยิ่งขึ้น ตั้งแต่พฤหัสนี้ เป็นต้นไป จะดีไหม?

หมายเหตุ บางวันอาจเริ่มเร็วกว่ากำหนดการ หากคนส่วนใหญ่มาเร็ว!

 

-ธงชัย ประดับชนานุรัตน์-

twitter.com/thongchaibsc, facebook.com/thongchaibsc, twitter.com/lifeanswer, facebook.com/lifeanswer

(Cr.ภาพ Dangnaja)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.