การประชุมสภาของคริสตจักรครั้งแรกในประวัติศาสตร์
พระธรรม กิจการ15:1-21
อ้างอิง กจ.1:18;5:1,9,17;6:14;10:1-48;11:30;12:17;13:15;14:27;15:4-5,29;21:19
บทนำ การมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันเป็นสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่เราต้องไม่ให้ความแตกต่างในความคิด หรือความเชื่อที่หยุมหยิมของเราก่อเกิดความแตกแยกขึ้นในพระกายของพระคริสต์ เราควรปรึกษาหารือ ด้วยความรัก และการเคารพให้เกียรติแก่กัน โดยให้พระคริสต์เป็นศูนย์กลางและมีบทสรุปที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้าและนำความเจริญมาสู่คริสตจักรและแผ่นดินของพระองค์
บทเรียน
15:1 “มีบางคนลงมาจากแคว้นยูเดียสั่งสอนพี่น้องว่า ถ้าไม่เข้าสุหนัตตามจารีตของโมเสสก็จะไม่สามารถได้รับความรอด”
(But some men came down from Judea and were teaching the brothers, “Unless you are circumcised according to the custom of Moses, you cannot be saved.”)
15:2 “เมื่อเกิดการโต้แย้งและถกเถียงระหว่างเปาโลและบารนาบัสกับคนเหล่านั้นมากมายแล้ว เขาทั้งหลายก็ตั้งเปาโลและบารนาบัสกับคนอื่นๆ ให้ขึ้นไปหารือกับบรรดาอัครทูตและบรรดาผู้ปกครองในกรุงเยรูซาเล็มเกี่ยวกับเรื่องที่เถียงกันนั้น )
(And after Paul and Barnabas had no small dissension and debate with them, Paul and Barnabas and some of the others were appointed to go up to Jerusalem to the apostles and the elders about this question. )
15:3 “คริสตจักรจึงจัดส่งท่านเหล่านั้นไป และเมื่อเดินทางผ่านแคว้นฟีนิเซียกับแคว้นสะมาเรียพวกท่านก็เล่าเรื่องที่พวกต่างชาติกลับใจใหม่ ทำให้พวกพี่น้องมีความยินดีอย่างยิ่ง”
(So, being sent on their way by the church, they passed through both Phoenicia and Samaria, describing in detail the conversion of the Gentiles, and brought great joy to all the brothers.)
15:4 “เมื่อมาถึงกรุงเยรูซาเล็ม คริสตจักรและบรรดาอัครทูตและบรรดาผู้ปกครองก็มาต้อนรับพวกท่าน แล้วพวกท่านจึงเล่าให้พวกเขาฟังถึงเหตุการณ์ทั้งปวงที่พระเจ้าทรงทำร่วมกับพวกท่าน”
(When they came to Jerusalem, they were welcomed by the church and the apostles and the elders, and they declared all that God had done with them. )
15:5 “แต่มีบางคนในพวกฟาริสีที่มีความเชื่อยืนขึ้นกล่าวว่า เราจำเป็นต้องกำชับพวกเขาให้เข้าสุหนัตและถือปฏิบัติตามธรรมบัญญัติของโมเสส”
(But some believers who belonged to the party of the Pharisees rose up and said, “It is necessary to circumcise them and to order them to keep the law of Moses.)
15:6 “บรรดาอัครทูตกับบรรดาผู้ปกครองจึงประชุมปรึกษากันในเรื่องนั้น”
(The apostles and the elders were gathered together to consider this matter.)
15:7 “เมื่อถกเถียงกันมากแล้ว เปโตรจึงยืนขึ้นกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย พวกท่านทราบอยู่แล้วว่า เมื่อแรกเริ่มนั้น พระเจ้าทรงเลือกข้าพเจ้าจากท่ามกลางท่านทั้งหลายมาเป็นผู้ประกาศถ้อยคำแห่งข่าวประเสริฐให้คนต่างชาติฟังและเชื่อ”
(And after there had been much debate, Peter stood up and said to them, “Brothers, you know that in the early days God made a choice among you, that by my mouth the Gentiles should hear the word of the gospel and believe.)
15:8 “พระเจ้าผู้ทรงทราบจิตใจมนุษย์ทรงรับรองคนต่างชาติ และประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขาเช่นเดียวกับที่ให้แก่เรา”
(And God, who knows the heart, bore witness to them, by giving them the Holy Spirit just as he did to us,)
15:9 “พระองค์ไม่ทรงถือเราถือเขา แต่ทรงชำระใจพวกเขาให้บริสุทธิ์โดยความเชื่อ”
(and he made no distinction between us and them, having cleansed their hearts by faith.)
15:10 “เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำไมท่านทั้งหลายจึงทดลองพระเจ้าโดยวางแอกบนคอของพวกสาวก ซึ่งเป็นสิ่งที่บรรพบุรุษหรือเราเองแบกไม่ไหว”
(Now, therefore, why are you putting God to the test by placing a yoke on the neck of the disciples that neither our fathers nor we have been able to bear?)
15:11 “แต่ตรงข้าม เราเชื่อว่าเราเองจะรอดโดยพระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าเช่นเดียวกับพวกเขา”
(But we believe that we will be saved through the grace of the Lord Jesus, just as they will.”)
15:12 “คนทั้งหลายก็นิ่งฟังบารนาบัสกับเปาโลเล่าเรื่องหมายสำคัญและการอัศจรรย์ต่างๆ ซึ่งพระเจ้าทรงทำผ่านท่านทั้งสองท่ามกลางพวกต่างชาติ”
(And all the assembly fell silent, and they listened to Barnabas and Paul as they related what signs and wonders God had done through them among the Gentiles. )
15:13 “หลังจากกล่าวจบแล้วยากอบจึงกล่าวว่า “พี่น้องทั้งหลาย ขอฟังข้าพเจ้า”
(After they finished speaking, James replied, “Brothers, listen to me.)
15:14 “สิเมโอนบอกแล้วว่า พระเจ้าทรงเยี่ยมเยียนคนต่างชาติครั้งแรกเพื่อจะทรงเลือกชนกลุ่มหนึ่งออกจากเขาทั้งหลายให้เป็นของพระองค์”
(Simeon has related how God first visited the Gentiles, to take from them a people for his name.)
15:15 “คำของผู้เผยพระวจนะก็สอดคล้องกับเรื่องนี้ ดังที่เขียนไว้แล้วว่า”
(And with this the words of the prophets agree, just as it is written)
15:16 “‘ภายหลังเราจะกลับมา และเราจะสร้างพลับพลาของดาวิดซึ่งพังลงแล้วขึ้นใหม่ ที่ย่อยยับนั้นเราจะก่อขึ้นอีก และจะตั้งขึ้นใหม่”
(“‘After this I will return, and I will rebuild the tent of David that has fallen; I will rebuild its ruins, and I will restore it,)
15:17 “เพื่อคนอื่นๆ จะแสวงหาองค์พระผู้เป็นเจ้า รวมทั้งคนต่างชาติทั้งหมดที่ออกนามของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ทรงแจ้งเหตุการณ์เหล่านี้”
( that the remnant of mankind may seek the Lord, and all the Gentiles who are called by my name, says the Lord, who makes these things)
15:18 “ให้ทราบแต่โบราณกาลตรัสไว้แล้ว’”
(known from of old.’)
15:19 “เพราะฉะนั้นตามความเห็นของข้าพเจ้า อย่าให้เราเพิ่มความยุ่งยากแก่คนต่างชาติที่กลับมาหาพระเจ้า”
(Therefore my judgment is that we should not trouble those of the Gentiles who turn to God,)
15:20 “แต่ให้เขียนจดหมายถึงพวกเขาว่า ให้งดเว้นเสียจากสิ่งที่เป็นมลทินเนื่องด้วยรูปเคารพ จากการล่วงประเวณี จากการกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย และจากการกินเลือด”
(but should write to them to abstain from the things polluted by idols, and from sexual immorality, and from what has been strangled, and from blood.)
15:21 “เพราะว่าตั้งแต่โบราณมา มีคนประกาศเรื่องของโมเสสในทุกเมือง และมีการอ่านเรื่องของท่านในธรรมศาลาทุกวันสะบาโต”
(For from ancient generations Moses has had in every city those who proclaim him, for he is read every Sabbath in the synagogues.”)
ข้อมูลมีประโยชน์
15:1 “บางคน” ( some men ) -อาจเป็นกลุ่มฟาริสีในข้อ 5 ที่ยืนกรานว่าใครจะมาเป็นคริสเตียนต้องเข้าสุหนัตรักษาบัญญัติของโมเสสด้วย
“แคว้นยูเดีย” (Judea ) = แสดงว่าพวกนิยมยิวเหล่านี้ไม่ได้เป็นตัวแทนของอัครทูตและผู้ปกครองคริสตจักรเยรูซาเล็มอย่างถูกต้อง(ปท.ข้อ24)
15:2 “ขึ้นไป…ในกรุงเยรูซาเล็ม” ( to go up to Jerusalem) -12:1;กท2:1; 15:4-22~ บอกถึงลำดับการประชุมไว้ดังนี้
1.พบปะ เพื่อต้อนรับและรายงาน(4-5)
2.ประชุมของผู้นำ ขณะที่คริสตจักรยังประชุมกันอยู่(6-11)
3.ประชุมรวมทั้งของอัครทูต ผู้นำ และทั้งคริสตจักร(12-22)
15:4~เป็นการประชุมครั้งแรก รายงานเรื่องพันธกิจที่กระทำกับคนต่างชาติ ซึ่งได้รับการยอมรับด้วยมิตรไมตรี
15:5 “บางคนในพวกฟาริสี” (the Pharisees) = ฟาริสีบางคนมาเป็นคริสเตียนและนำเอาความเชื่อแบบยิวมาปะปน ต้องการให้คนต่างชาติเป็นยิวก่อนเป็นคริสเตียน และต้องเข้าสุหนัต
15:7 “เปโตรจึงยืนขึ้น” ( Peter stood up ) -หลังจากได้มีการอภิปรายกันยืดยาว เปโตรจึงลุกขึ้นกล่าวกับพวกเขา
“ให้คนต่างชาติฟังและเชื่อ” ( the word of the gospel and believe)
~เปโตรใช้ประสบการณ์ของตนเองเป็นข้อโต้แย้งว่า พระเจ้าทรงส่งท่านให้ไปเทศนาแก่คนต่างชาติ(19:28-29)
15:8 “ประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่พวกเขา” ( giving them the Holy Spirit ) -เป็นข้อพิสูจน์ว่าพระเจ้ายอมรับคนต่างชาติ(10:44,47;11:17-18)
15:9 “ชำระใจพวกเขาให้บริสุทธิ์ด้วยความเชื่อ” ( having cleansed their hearts by faith.) -คำพูดของเปโตรสอดคล้องกับคำพูดของเปาโล (รม5:1;กท2:15-16)
15:10 ”วางแอก” ( placing a yoke ) =บทบัญญัติ (กท5:1) ปท.มธ11:28-29,
15:11 “โดยพระคุณของพระเยซูคริสต์” ( the grace of the Lord Jesus ) =ไม่จำเป็นต้องเข้าสุหนัต ก็รอดได้เพราะพระคุณ(รม3:9)
15:12 “คนทั้งหลายก็นิ่งฟัง” ( the assembly fell silent, and they listened ) =ใน15:4-22 คนทั้งหลายยังอยู่ในที่เดิมในขณะที่อัครทูตและผู้ปกครองยังพูดคุยกันก่อนหน้านี้ไม่ได้นิ่งเงียบแต่เวลานี้ทุกคนเงียบและฟังในขณะที่เปาโลกับบารนาบัสเล่าเรื่องให้ฟัง
15:13-18 “ยากอบ” (James)=น้องของพระเยซูคริสต์(12:17)ใช้ข้อพระคัมภีร์มาอธิบายให้เข้าใจ
15:14 “สิเมโอน” (Simeon) ในตอนนี้คือ ชื่อภาษาฮีบรูของเปโตรซีโมน (ข.7)
“เยี่ยมเยียนคนต่างชาติ ….เลือกชนกลุ่มหนึ่งออกจากเขาทั้งหลายให้เป็นของพระองค์” (visited the Gentiles, to take from them a people for his name.) = ชุมชนใหม่ของพระคริสต์นี้ประกอบด้วยคนต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ และมีชาวยิวอยู่ร่วมกัน (ยน.10:16;1ปต.2:9-10)
15:15 “ผู้เผยพระวจนะ” (the prophets) -อมส.9:11-12
15:16 “ภายหลังเราจะกลับมา” (After this I will return) = การยืนยันพระประสงค์ของพระเจ้าที่จะช่วยคนต่างชาติให้รอด แต่บางคนตีความว่า คำกล่าวตอนนี้เป็นการบอกลำดับเหตุการณ์ของยุคสุดท้าย ประกอบด้วย
- ยุคคริสตจักร = การเลือกคนต่างชาติมาเป็นประชากรของพระเจ้า (ข.14)
- การรื้อฟื้นชนชาติอิสราเอล (ข.16)
- ความรอดสุดท้ายของคนต่างชาติ (ข.17-18)
15:18 “แต่โบราณกาล” (from of old.) = “หลายยุคสมัย” ตั้งแต่ยุคพันธสัญญาเดิม (รม.15:9)
15:19 “เพิ่มความยุ่งยาก” (not trouble) = ไม่ควรหรือไม่จำเป็นต้องสร้างความยุ่งยากให้ชาวต่างชาติ ที่ต้องการเป็นคริสเตียนด้วยการต้องเข้าสุหนัต แต่กระนั้น ก็ยังมีเงื่อนไขอีก 4 ประการ ที่กำหนดให้ (ข.20) ซึ่งเป็นเรื่องจุดอ่อนของคนต่างชาติโดยเฉพาะ ที่คนยิวรับไม่ได้ หากปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้ จะช่วยทั้งตัวบุคคลและสัมพันธภาพระหว่างคนต่างชาติและคนยิว
15:20 “สิ่งที่เป็นมลทินเนื่องด้วยรูปเคารพ” (from the things polluted by idols) -ข.29:1คร.8:7-13; วว.2:14,20
“การล่วงประเวณี” (sexual immorality) = การทำผิดทางเพศซึ่งเป็นบาปที่คนกรีกถือว่าเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก และเกี่ยวข้องกับเทศกาลทางศาสนาของคนต่างชาติในเวลานั้นด้วย
“การกินเนื้อสัตว์ที่ถูกรัดคอตาย” (been strangled) = เป็นสิ่งที่ห้ามรับประทาน (ปฐก.9:4)
“การกินเลือก” (blood ) = ยิวมีบทบัญญัติเป็นพิเศษในการห้ามกินเลือดเจาะจง (ลนต.17:10-12)
คำถามนำอภิปราย
- คุณเคยรับใช้แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีคนสร้างความหนักใจหรือปวดหัวให้แก่คุณบ้างหรือไม่? เป็นใคร? และเรื่องอะไร?
- คุณเคยโต้แย้งหรือถกเถียงเรื่องใดกับใครที่รุนแรงที่สุดตั้งแต่เคยเป็นมา? แล้วมีผลอะไรตามมา?
- คุณเคยมีประเด็นปัญหาใดที่ตัดสินกันเองไม่ได้ในหมู่ของพวกคุณ จนต้องหาทางแก้ไขปัญหาโดยพึ่งบุคคล ที่ 3 บ้างหรือไม่ ? แล้วผลเป็นอย่างไร?
- คุณเคยได้ยินเรื่องใดที่ทำให้คุณมีความยินดีมากที่สุด (โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในการรับใช้ของคุณ?) ทำไม?
- คุณเองเคยวางแอกหรือเพิ่มภาระหนักบนบ่าคนอื่นหรือถูกคนอื่นวางแอกนั้นบนบ่าของคุณบ้างหรือไม่?ในเรื่องอะไร? แล้วคุณจัดการอย่าไร?
- มีข้อตกลงใดบ้างที่คุณและคนอื่น เคยตกลงร่วมกันเพื่อแก้ปัญหาที่ขัดแย้งกัน? แล้วส่งผลดีอะไรบ้าง?
ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์