Categories
บทความแปล

แค่กล่าวขอบคุณ

แค่กล่าวขอบคุณ

แต่ถ้าท่านทั้งหลายไม่ได้ถูกตีสอนเช่นเดียวกับคนอื่นๆ ท่านก็ไม่ใช่บุตร แต่เป็นลูกนอกกฎหมาย (ฮีบรู 12:8 THSV11)

คุณเคยทานข้าวแล้วมีผักติดฟันแต่ไม่มีใครบอกหรือไม่? ต้องมีเพื่อนดีๆสักคนที่กระซิบว่า “มีผักติดฟันนะ” สิ่งที่เพื่อนบอกคุณนั้นเป็นสิ่งที่ช่วย ไม่ใช่เพื่อทำลาย เราจะได้รับสติปัญญาเมื่อยอมรับการแก้ไข  ไม่ว่าเรื่องใหญ่หรือเล็ก  เพื่อมีโอกาสทำให้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อท้าทายหรือปฏิเสธ ….. เมื่อคุณได้รับคำเตือนให้แก้ไข คุณมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างไร?

ฉันเพิ่งเรียนรู้วิธีใหม่ที่ควรตอบสนองเมื่อได้รับการเตือนให้แก้ไข ทบทวน ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือทำให้ถูกต้อง เพื่อนที่ร่วมรับใช้เคียงข้างสามีในพันธกิจอนุชนที่คริสตจักร ระหว่างทานข้าวด้วยกันเธอเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เธอบอกพวกอนุชน:

“เวลาที่เราขอให้พวกคุณ (พวกอนุชน) ให้เก็บโทรศัพท์ออกไป หรือเมื่อพ่อแม่บอกให้แก้ไขบางอย่าง คุณอาจจะหน้าร้อนผ่าว เจ็บจี๊ดในใจ แต่สิ่งที่คุณควรตอบคือ “ขอบคุณ” ที่คุณถูกเตือนให้แก้ไขเพราะพวกเขารักคุณ”

เรื่องนี้ไม่ใช่ง่ายเสมอไป แต่ไม่นานฉันก็มีโอกาสได้ฝึกฝน – สถานที่ออกกำลังกายเล็กๆแถวบ้านที่ไปมาเป็นปี ขณะกำลังยกน้ำหนัก ครูสอนแก้ไขวิธีของฉันต่อหน้าคนอื่นๆ แทนที่จะรู้สึกอายหรือเสียหน้า ฉันพูดว่า “ขอบคุณค่ะ” รู้สึกทึ่งที่คำตอบเล็กๆนี้ช่วยให้ฉันยอมรับการแก้ไข (จากที่ยกน้ำหนักผิดวิธี) และปลุกจิตสำนึกให้คืนกลับมา

ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นอย่างไร แต่ปฏิกิริยาแรกของฉันคือปกป้องตัวเองเวลาถูกเตือน แต่พระคัมภีร์สอนว่าเราไม่ควรท้อหรือเสียความมั่นใจเมื่อรับการแก้ไข ฮีบรู 12:5ข กล่าวว่า “บุตรชายของเราเอ๋ย อย่าละเลยต่อการตีสอนขององค์พระผู้เป็นเจ้า และอย่าท้อใจเมื่อพระองค์ทรงตักเตือน” (THSV11) – จงอย่าท้อใจ

เมื่อพระเจ้ากระซิบเตือน “ลูกเอ๋ย ไปขอโทษเพื่อนเสียนะ…” หรือ “พูดแรงไป…” เราเรียนรู้ที่จะตอบสนองด้วยการ “ขอบพระคุณ” ขอบคุณพระเจ้าที่ตักเตือนเราเพราะพระองค์ทรงรักเรา ขอบคุณที่ทรงช่วยเราให้เป็นเหมือนพระองค์

พระวจนะวันนี้พูดว่า ถ้าเราไม่รับการเตือนสอน – แต่คนอื่นๆน้อมรับการเตือนสอน เราก็เป็นเหมือนลูกนอกกฎหมาย ไม่ใช่ลูกแท้ๆ  เราเรียนรู้ว่าถ้าพ่อบนโลกเตือนสอนเราและเราให้ความเคารพ จะดีกว่าสักแค่ไหนที่เราน้อมรับคำเตือนจากพระเจ้า?

แม้พ่อแม่ฝ่ายโลกยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ท่านก็แก้ไขในสิ่งผิดของเรา แต่พระเจ้าทรงฝึกวินัยเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อเราไม่ใช่เพื่อทำร้ายเรา นี่เป็นการแยกแยะที่ชัดเจน พระเจ้าทรงแก้ไขเพื่อกันไม่ให้เราไปสู่ความตายและวิญญาณถูกทำลาย ในทำนองเดียวกันการลงวินัยอาจไม่สนุก เจ็บปวด “แต่ภายหลังก็ก่อให้เกิดผลคือสันติสุขและความชอบธรรม แก่บรรดาคนที่ถูกฝึกฝนโดยการตีสอนนั้น” (ข้อ 11ข THSV11)

วิธีหนึ่งที่เราควรฝึกฝนวินัยฝ่ายวิญญาณคือตอบสนองด้วยความจริงใจ “ขอบพระคุณพระเจ้า” เมื่อพระองค์ (หรือคนอื่นๆ) ตักเตือนเรา แต่ถ้าคนที่ตักเตือนเรามีจุดมุ่งหมายอื่นแอบแฝง? คุณยังกล้ากล่าวได้ว่า “ขอบคุณ” และจบที่ตรงนั้น ไม่จำเป็นต้องไปใส่ใจการตักเตือนของคนที่ไม่ได้หวังดี แต่มุ่งหวังที่จะทำร้ายเรา

สุภาษิต 15:1 กล่าวว่า “คำตอบนุ่มนวลช่วยละลายความโกรธเกรี้ยวให้หายไป แต่คำกักขฬะเร้าโทสะ” (THSV11) พูดอีกแบบคือให้ตอบสนองด้วยพระคุณ แม้อีกฝ่ายไม่ได้พูดด้วยพระคุณ สิ่งนี้จะทำให้เราเป็นเหมือนพระคริสต์และแตกต่างจากโลก

ดังนั้นครั้งหน้าที่มีคนมาให้คำแนะนำ ตักเตือน หรือบอกคุณให้เอาผักที่ติดฟันออก ให้ตอบว่า “ขอบคุณค่ะ” และเมื่อพระวิญญาณบริสุทธิ์เตือนคุณถึงบางสิ่งที่ควรแก้ไข ควรตอบว่า “ขอบคุณพระเจ้า ที่ทรงห่วงใยตักเตือนเพราะทรงรักลูก” 

 

โดย  Arlene Pellicane

จาก Encouragement for Today : www.crosswalk.com

(Cr. ภาพ shutterstock)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.