ลังเลอยู่ระหว่างสองฝ่าย
และเอลียาห์ก็เข้ามาใกล้ประชาชนทั้งปวงกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจะขยักขย่อนอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานสักเท่าใด ถ้าพระเยโฮวาห์ทรงเป็นพระเจ้า จงติดตามพระองค์ แต่ถ้าพระบาอัลเป็น ก็จงตามท่านไปเถิด” และประชาชนไม่ตอบท่านสักคำเดียว (1พงศ์กษัตริย์ 18:21 TH1971)
ตอนนี้ราเชลลูกสาวของฉันเดินขาเขยก เข่าของเธอน่าจะบาดเจ็บจากการกระโดดหมุนตัวระหว่างฝึกเชียร์ลีดเดอร์ อาการเจ็บเข่าทำให้เธอเดินไม่ถนัด ทำให้เห็นถึงความเปราะบางและอ่อนแอของเรา ฉันเคยเอานิ้วเท้าไปกระแทกประตู เคยหกล้มคางแตก และเส้นประสาทอักเสบจนเดินเหมือนคนอายุแก่กว่าสองเท่า คำพูดของเอลียาห์ก่อนการท้าพนันบนภูเขาคารเมลที่ท่านถามคนอิสราเอล “ท่านทั้งหลายจะขยักขย่อนอยู่ระหว่างสองฝ่ายนี้นานสักเท่าใด?” ดูเหมือนชนชาติอิสราเอลกำลังตกอยู่ในอาการลังเลไม่ตัดสินใจ
คำถามนี้เอลียาห์ใช้สำนวนที่แปลตรงตัวว่า โผเผไปมาระหว่างกิ่งไม้สองกิ่ง ทำให้เห็นภาพนกที่กระโดดไปมาระหว่างกิ่งไม้ หรือคนที่เดินโดยใช้ไม้ค้ำยัน เอลียาห์กำลังบอกคนอิสราเอลให้เลิกนั่งอยู่บนรั้วเสียที ก่อนหน้านี้ในประวัติศาสตร์อิสราเอล โยชูวาเคยขีดเส้นลงบนผืนทรายและสั่งประชากรที่กำลังเข้าสู่แผ่นดินแห่งพันธสัญญาให้เลือกว่าจะปรนนิบัติผู้ใด: “และถ้าพวกท่านไม่เห็นด้วยที่จะปรนนิบัติพระยาห์เวห์ ท่านก็จงเลือกเสียในวันนี้ว่าท่านจะปรนนิบัติใคร” (โยชูวา 24:15 THSV11)
พระวจนะเช่นนี้ทำให้เราอึดอัดใจ เพราะเราต่างก็มีเรื่องขยักขย่อนอยู่ในใจ ไม่มีใครในพวกเราทำถูกทุกครั้ง เราทำไปตามระดับความต่างในสิ่งที่เราพูดว่าเราเชื่อ และวิธีที่เราคิดและปฏิบัติ หลายครั้งสิ่งที่ไม่ตรงกันนี้ไม่ใช่เราตั้งใจ แต่เราช้ากว่าจะตระหนักรู้ เช่นสิ่งที่เราทำคือประกาศเรื่องของพระเยซูคริสต์ แต่ทำในสิ่งที่ตรงข้ามกับคำสอนของพระองค์ เราจีงต้องสู้กับความหน้าซื่อใจคดของตนเอง เราพยายามเชื่อมต่อความเชื่อและการประพฤติ แต่พฤติกรรมบางอย่างก็ไม่อาจไปด้วยกันได้
เช่นเดียวกับการนมัสการพระยาห์เวห์และพระบาอัลที่คนอิสราเอลทำ เราเองอาจกำลังปรนนิบัติพระเจ้าไปพร้อมๆกับความโลภ หรือพระเจ้าและประพฤติผิดทางเพศ หรือพระเจ้าและการไม่เชื่อฟัง เราไม่สามารถเลือกได้ทั้งคู่ จะปรนนิบัติพระเจ้าและเชื่อฟังพระบัญญัติของพระองค์ หรือดำเนินชีวิตตามมาตรฐานที่เรากำหนดเอง
แม้พยายามทำให้ได้ เราต้องระวังไม่ให้ตกอยู่ในอาการไม่รู้ร้อนรู้หนาวเหมือนคริสตจักรในเลาดีเซียในพระธรรมวิวรณ์ พระเจ้าตรัสว่า “เรารู้จักความประพฤติของเจ้า คือว่าเจ้าไม่เย็นและไม่ร้อน เราอยากให้เจ้าเย็นหรือร้อน เพราะว่าเจ้าเป็นแต่อุ่นๆ ไม่ร้อนและไม่เย็น เราจะคายเจ้าออกจากปากของเรา” (วิวรณ์ 3:15-16 THSV11) ทำให้เห็นถึงการลังเลไม่ตัดสินใจ – เหมือนนั่งอยู่บนรั้ว
วอลเตอร์ บรุ๊กแมน เขียนถึงความลังเลของคริสเตียนเยอรมันในยุคของฮิตเลอร์ “นี่เป็นคนของคริสตจักรที่คิดว่าสามารถดำเนินไปอย่างซื่อสัตย์ได้โดยไม่ต้องเลือกระหว่างการครอบงำโดยลัทธินาซี และเรื่องราวของพระเยซูคริสต์” เราไม่สามารถเอนไปมาในเรื่องของศีลธรรมได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของรสชาตไอศครีมที่เราโปรดหรือทรงผมที่เราชอบ เราเปลี่ยนไปมาได้
แต่ในการติดตามพระเจ้าและหลีกเลี่ยงจากบาปที่ทำลายวิญญาณของเรา เราไม่อาจลังเล เราต้องเลือก พระเจ้าไม่ได้สร้างนกให้กระโดดไปมาบนกิ่งไม้ พระองค์สร้างนกให้บิน ทำนองเดียวกัน พระเจ้าทราบว่าโอนเอนไปมาไม่อาจนำไปถึงชีวิตแห่งชัยชนะที่เตรียมไว้ให้เราได้ เอลียาห์จึงย้ำกับชาวอิสราเอลว่าพวกเขาไม่อาจได้ทั้งสองอย่าง และผู้คนก็นิ่งเงียบเมื่อต้องตัดสินใจ
ทุกวันเรามีตัวเลือก: กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพหรือที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ กระฉับกระเฉงหรือเรื่อยเปื่อย เล่นโซเชี่ยลหรือออกไปสัมผัสชีวิตจริงของผู้คน นับพระพรหรือนับปัญหา อธิษฐานและอ่านพระวจนะหรือหาอย่างอื่นทำฆ่าเวลา พระเจ้าเรียกให้เราเลือกว่าจะรักหรือไม่รักพระองค์ เมื่อตั้งใจจะรักและทำตามคำสั่งของพระองค์ จะพบว่าเราเหนื่อยน้อยลง จิตวิญญาณจะแข็งแกร่งขึ้น จะเป็นเหมือนพระองค์ในความเชื่อ ในความรัก และในการให้อภัย แทนที่จะพยายามทำให้ได้เอง ให้เชิญพระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาและทำทุกสิ่งผ่านทางพระองค์ โดยไม่รีรออีกต่อไป
เมื่อมีสิ่งที่ต้องเลือกในชีวิตและตัดสินใจไม่ได้ ทูลขอการทรงนำ อย่านั่งนิ่งอยู่ในความเงียบเหมือนที่คนอิสราเอลทำ เมื่อเราตัดสินใจเลือกเดินตามพระเจ้า ให้ดำเนินชีวิตเต็มที่ให้พระองค์ แม้ไม่มีใครในพวกเราสมบูรณ์แบบ แต่เราจะเติบโตขึ้นและก้าวไปสู่ความสมบูรณ์ในพระเจ้าด้วยใจที่รักและเชื่อฟังพระองค์
โดย Melissa Spoelstra
อนุญาตโดย Girlfriends in God: www.crosswalk.com
(Cr.ภาพ Nuisri)