Categories
บทเรียนพระคัมภีร์

บทเรียนพระธรรมกิจการ บทที่ 15

ชื่อคริสเตียนปรากฏเป็นครั้งแรก

พระธรรม        กิจการ 11:1-30

อ้างอิง            กจ.1:16;2:38;8:29,40;9:10-11;10:9-32,44-45,11:26;13:43;14:23-26; 15:19,40;20:24;21:10,26:1-2;รม.10:12-13;15:26;2คร.7:10;มธ.27:32;ลก.1:15

บทนำ             คุณละอายที่จะบอกกับคนอื่น ๆ หรือไม่ว่า คุณเป็นคริสเตียน?

                        และคุณมาเป็นคริสเตียนได้อย่างไร?

                        คุณเองเคยช่วยหรือนำผู้หนึ่งผู้ใดมาเป็นคริสเตียนบ้างหรือไม่?  อย่างไร?

                        คุณรู้สึกอย่างไร เมื่อเห็นคนที่คุณรู้จักหรือคนที่คุณรักมาเป็นคริสเตียน?  

                        และคุณรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นเขาเจริญเติบโตขึ้นในชีวิตคริสเตียนมากกว่าคุณ?

 

11:1 “ส่วนบรรดาอัครทูตกับพี่น้องที่อยู่ในแคว้นยูเดียได้ข่าวว่าคนต่างชาติยอมรับพระวจนะของพระเจ้าด้วย” 

    (Now the apostles and the brothers who were throughout Judea heard that the Gentiles also had received the word of God.) 

11: 2 “เมื่อเปโตรขึ้นไปที่กรุงเยรูซาเล็มแล้ว พวกเข้าสุหนัตจึงต่อว่าท่านว่า” 

     (So when Peter went up to Jerusalem, the circumcision party criticized him, saying) 

11:3 “ทำไมท่านไปหาคนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต และรับประทานอาหารกับพวกเขา?” 

     (“You went to uncircumcised men and ate with them.” )

11:4 “เปโตรจึงอธิบายให้พวกเขาฟังตั้งแต่ต้นเป็นลำดับมาว่า” 

     (But Peter began and explained it to them in order)

11:5 “เมื่อข้าพเจ้าอยู่ในเมืองยัฟฟาและกำลังอธิษฐานอยู่ก็ได้เห็นนิมิตในภวังค์เป็นสิ่งหนึ่งที่เหมือนผ้าผืนใหญ่ ซึ่งมุมผ้าทั้งสี่ด้านถูกกางออกและหย่อนจากฟ้าลงมาใกล้ข้าพเจ้า”

     (“I was in the city of Joppa praying, and in a trance I saw a vision, something like a great sheet  descending, being let down from heaven by its four corners, and it came down to me.)

11:6 “เมื่อข้าพเจ้าจ้องดู ก็เห็นพวกสัตว์บกสี่เท้า พวกสัตว์ป่า พวกสัตว์เลื้อยคลานและพวกนกในอากาศ” 

    (Looking at it closely, I observed animals and beasts of prey and reptiles and birds of the air. )

11:7 “แล้วข้าพเจ้าได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับข้าพเจ้าว่า ‘เปโตรเอ๋ย จงลุกขึ้นฆ่ากินเถิด’” 

     (And I heard a voice saying to me,’Rise, Peter; kill and eat.’)

11:8 “แต่ข้าพเจ้าทูลว่า ‘ไม่ได้ องค์พระผู้เป็นเจ้า เพราะว่าสิ่งที่ไม่บริสุทธิ์หรือเป็นมลทินยังไม่เคยเข้าปากข้าพระองค์เลย’” 

     (But I said, ‘By no means, Lord; for nothing common or unclean has ever entered my mouth.’ )

11:9 “แต่มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าเป็นครั้งที่สองว่า ‘สิ่งที่พระเจ้าทรงชำระแล้ว เจ้าอย่าว่าเป็นสิ่งไม่บริสุทธิ์’” 

    (But the voice answered a second time from heaven, ‘What God has made clean, do not call common.’)

11:10 “เป็นอย่างนั้นถึงสามครั้ง แล้วสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดก็ถูกรับขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง” 

       (This happened three times, and all was drawn up again into heaven. )

11:11 “และในทันใดนั้นมีชายสามคนมาหยุดอยู่ตรงหน้าบ้านที่ข้าพเจ้าอาศัย พวกเขาถูกส่งจากเมืองซีซารียามาหาข้าพเจ้า” 

     (And behold, at that very moment three men arrived at the house in which we were, sent to me from Caesarea.)

11:12 “พระวิญญาณจึงสั่งให้ข้าพเจ้าไปกับพวกเขาโดยไม่ลังเลใจ และพี่น้องทั้งหกคนนี้ก็ไปกับข้าพเจ้าด้วย เราจึงเข้าไปในบ้านของชายคนนั้น”

      (And the Spirit told me to go with them, making no distinction. These six brothers also accompanied me, and we entered the man’s house. )

11:13 “ชายคนนั้นจึงเล่าให้เราฟังว่าท่านได้เห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งปรากฏในบ้านของท่านอย่างไร และบอกท่านว่า ‘จงใช้คนไปที่เมืองยัฟฟา เชิญซีโมนที่เรียกกันว่าเปโตรมา” 

      (And he told us how he had seen the angel stand in his house and say, ‘Send to Joppa and bring Simon who is called Peter)

11:14 “เขาจะกล่าวถ้อยคำกับท่าน ซึ่งจะช่วยท่านกับครอบครัวของท่านให้รอด’” 

       (he will declare to you a message by which you will be saved, you and all your household.) 

11:15 “เมื่อข้าพเจ้าเริ่มต้นพูด พระวิญญาณบริสุทธิ์ก็เสด็จลงมาสถิตกับเขาทั้งหลายเหมือนกับที่เคยเสด็จลงมาสถิตกับเราเมื่อเริ่มแรกนั้น” 

       (As I began to speak, the Holy Spirit fell on them just as on us at the beginning.) 

11:16 “แล้วข้าพเจ้าก็ระลึกถึงพระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่พระองค์ตรัสไว้ว่า ‘ยอห์นให้บัพติศมาด้วยน้ำ แต่พวกท่านจะรับบัพติศมาด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์’”

       (And I remembered the word of the Lord, how he said, ‘John baptized with water, but you will be baptized with the Holy Spirit.’ )

11:17 “เพราะฉะนั้น ถ้าพระเจ้าประทานแก่พวกเขาเหมือนแก่เราเมื่อเชื่อในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าเป็นใครที่จะขัดขืนพระเจ้าได้” 

       (If then God gave the same gift to them as he gave to us when we believed in the Lord Jesus Christ, who was I that I could stand in God’s way?” )

11:18 “เมื่อคนทั้งหลายได้ยินคำเหล่านั้นก็นิ่งอยู่ แล้วสรรเสริญพระเจ้าว่า “พระเจ้าก็ทรงโปรดแก่คนต่างชาติให้กลับใจใหม่จนได้ชีวิตรอดด้วย

      (When they heard these things they fell silent. And they glorified God, saying, “Then to the Gentiles also God has granted repentance that leads to life.”)

11:19 “คนทั้งหลายที่กระจัดกระจายไปเพราะการข่มเหงเนื่องจากสเทเฟน ก็พากันไปยังเมืองฟีนิเซีย เกาะไซปรัส และเมืองอันทิโอกและกล่าวพระวจนะกับยิวพวกเดียว” 

      (Now those who were scattered because of the persecution that arose over Stephen traveled as far as Phoenicia and Cyprus and Antioch, speaking the word to no one except Jews. )

11:20 “แต่มีบางคนในพวกที่กระจัดกระจายไปนั้นที่เป็นชาวเกาะไซปรัสและชาวไซรีน คนเหล่านี้เมื่อมาถึงเมืองอันทิโอกก็กล่าวประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้ากับพวกกรีกด้วย

      (But there were some of them, men of Cyprus and Cyrene, who on coming to Antioch spoke to the Hellenists also, preaching the Lord Jesus. )

11:21 “และพระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่กับพวกเขา คนจำนวนมากที่เชื่อก็กลับมาหาองค์พระผู้เป็นเจ้า” 

      (And the hand of the Lord was with them, and a great number who believed turned to the Lord. )

11:22 “ข่าวนี้แพร่มาถึงหูของคริสตจักรในกรุงเยรูซาเล็ม พวกเขาจึงส่งบารนาบัสไปที่เมืองอันทิโอก” 

      (The report of this came to the ears of the church in Jerusalem, and they sent Barnabas to Antioch. )

11:23 “เมื่อบารนาบัสไปถึงและได้เห็นพระคุณของพระเจ้าก็ปีติยินดี จึงเตือนคนเหล่านั้นให้ตั้งจิตใจมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ”

     (When he came and saw the grace of God, he was glad, and he exhorted them all to remain faithful to the Lord with steadfast purpose,)

11:24 “บารนาบัสนั้นเป็นคนดี เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ คนที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้าก็ทวีจำนวนมากขึ้น”

      (for he was a good man, full of the Holy Spirit and of faith. And a great many people were added to the Lord.)

11:25 “บารนาบัสจึงไปหาเซาโลที่เมืองทาร์ซัส” 

      (So Barnabas went to Tarsus to look for Saul, )

11:26 “เมื่อพบแล้วก็พามาที่เมืองอันทิโอก ท่านทั้งสองประชุมร่วมกับคริสตจักรตลอดหนึ่งปีและสั่งสอนคนจำนวนมาก และที่เมืองอันทิโอกนี่เองที่พวกสาวกได้ชื่อว่าคริสเตียนเป็นครั้งแรก”

      (and when he had found him, he brought him to Antioch. For a whole year they met with the church and taught a great many people. And in Antioch the disciples were first called Christians.)

11:27 “เวลานั้นมีพวกผู้เผยพระวจนะจากกรุงเยรูซาเล็มลงมาที่เมืองอันทิโอก” 

      (Now in these days prophets came down from Jerusalem to Antioch.)

11:28 “และคนหนึ่งในพวกเขาที่ชื่ออากาบัส ลุกขึ้นกล่าวโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ว่า จะเกิดการกันดารอาหารครั้งยิ่งใหญ่ทั่วแผ่นดินโลก เรื่องนี้เกิดขึ้นในรัชสมัยจักรพรรดิคลาวดิอัส” 

      (And one of them named Agabus stood up and foretold by the Spirit that there would be a great famine over all the world (this took place in the days of Claudius). 

11:29 “พวกสาวกทุกคนจึงตกลงใจว่าจะเรี่ยไรกันตามกำลัง ฝากไปช่วยบรรเทาทุกข์พวกพี่น้องที่อยู่ในแคว้นยูเดีย” 

      (So the disciples determined, every one according to his ability, to send relief to the brothers living in Judea. )

11:30 “พวกเขาก็ได้ทำอย่างนั้น และฝากไปกับบารนาบัสและเซาโลเพื่อนำไปให้พวกผู้ปกครอง”

       (And they did so, sending it to the elders by the hand of Barnabas and Saul.)

ข้อมูลมีประโยชน์

11:1     “อัครฑูตกับพี่น้อง” (the apostles and the brothers)  = พวกพี่น้องในที่นี้หมายถึง

  1. คนยิวตามสายโลหิต (2:29;7:2)
  2. กลุ่มคนที่เข้าร่วมเป็นหนึ่งในพระคริสต์ (6:3;10;23;รม.1:13)

-ปกติถ้าเรื่องสำคัญพิเศษ พวกอัครทูตจะไม่ทำกันเองโดยลำพัง แต่ปรึกษาและถามความเห็นชอบจากคริสตจักรด้วย – 6:5;11:1;11:22;15:4,22

11:2     “พวกเข้าสุหนัต” (the circumcision party) = คริสเตียนยิว

11:3     “คนที่ไม่ได้เข้าสุหนัต” (uncircumcised men) = คนต่างชาติซึ่งไม่ถือรักษาบัญญัติเรื่องการรับประทานอาหารที่สะอาด ที่เป็นมลทินและละเมิดกฎระเบียบบัญญัติเรื่องการกินอาหารของคนยิว

            “รับประทานอาหารกับพวกเขา” (ate with them ) –ลก.15:2

11:4-7 – ดูคำอธิบายใน 10:1-23,28-33

1:14   “ท่านกับครอบครัวของท่าน” (you and all your household) = ครอบครัวรวมทั้งทาส และลูกจ้างที่อยู่ภายใต้สิทธิอำนาจของตัวโครเนลิอัสด้วย (ปฐก.6:18)

11:17   “ข้าพเจ้าเป็นใครที่จะขัดขืนพระเจ้าได้” (who was I that I could stand in God’s way) = เปโตรบอกว่าเขาไม่สามารถห้ามคนต่างชาติรับบัพติศมา (10:47) หรือห้ามไม่ให้พวกเขาสัมพันธ์สนิทกับพระคริสต์อย่างเต็มที่  แต่อธิบายโน้มน้าวพวกผู้เชื่อชาวยิวว่า พระเจ้ากำลังช่วยให้คนต่างชาติได้รับความรัก และความรอดเท่าเทียมกับชาวยิว เพราะเป็นพระเจ้าผู้เปิดประตูให้แก่คนต่างชาติ ไม่ใช่มนุษย์เป็นผู้ทำ

11:18   “ให้กลับใจใหม่จนได้ชีวิตรอดด้วย” (repentance that leads to life) = การเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อบาป นำไปสู่การหันหลังให้บาป แล้วก้าวมาหาพระเจ้าได้รับชีวิตนิรันดร์ (2:38)

11:19   “การข่มเหงเนื่องจากสเทเฟน” (the persecution that arose over Stephen) –8:1-4

            “ฟีนิเซีย” (Phoenicia )  = ประเทศที่มีพื้นที่กว้างประมาณ 24 กิโลเมตร ยาวประมาณ 193 กิโลเมตร เลียบชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (ซึ่งก็คือ เลบานอนในปัจจุบัน) เมืองสำคัญคือ ไทระ และไซดอน

            “เกาะไซปรัส” (Cyprus)  = เกาะในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ด้านตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของบารนาบัส (4:36)

            “เมืองอันทิโอก” (Antioch) = เมืองสำคัญอันดับ 3 ของจักรวรรดิโรมัน (รองจากโรม และอเล็กซานเดรีย) อยู่บนแผ่นดินซึ่งห่างมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประมาณ 24 กิโลเมตร คริสตจักรท้องถิ่นแห่งแรกของคนต่างชาติซึ่งมีขนาดใหญ่ตั้งอยู่ที่นี่ และเปาโลถูกส่งไปเดินทางประกาศข่าวประเสริฐครั้งที่ 3 จากคริสตจักรแห่งนี้ (13:1-4;15:40;18:23)

11:20   “ไซรีน” (Cyrene) = เมืองหลวงของแคว้นลิเบีย ชื่อ ไซรีไนกา (2:10)

            “พวกกรีก” (the Hellenists) = คนต่างชาติ , ไม่ใช่ชาวกรีกที่พูดภาษายิว

11:21   “พระหัตถ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้า”(the hand of the Lord )=บ่งบอกถึงการสถิตอยู่ด้วยของฤทธานุภาพของพระเจ้าในการช่วยเหลือและอวยพร (4:30;ลก.1:16;ปท กจ.13:11)  และในการสำแดงหมายสำคัญและการอัศจรรย์ (ปท.อพย.8:19)

11:22   “บารนาบัส” ( Barnabas) –4:36;9:27

            “เมืองอันทิโอก” (Antioch)  -11:19; การส่งบารนาบัสไป บ่งบอกถึงแนวทางปฏิบัติของคริสตจักรเยรูซาเล็มที่จะส่งผู้นำไปตรวจสอบพันธกิจใหม่ ๆ ที่อยู่ในความสนใจ (8:14)

11:23   “จึงเตือน…ให้ตั้งจิตใจมั่นคงในองค์พระผู้เป็นเจ้าด้วยสิ้นสุดใจ” (he exhorted them all to remain faithful to the Lord with steadfast purpose) = ให้กำลังใจพวกเขา, ชื่อของบารนาบัสก็มีความหมายถึง

            “ลูกแห่งการให้กำลังใจ” อยู่แล้ว (4:36)

11:24   “เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และความเชื่อ (full of the Holy Spirit and of faith.) = คุณลักษณะเด่นที่สเทเฟนมี (6:5)

11:25   “เมืองทาร์ซัส” (Tarsus) -9:11,30; ปท.22:3

11:26   “ตลอดหนึ่งปี” (whole year) = หนึ่งปีเต็ม ลูกามักบันทึกเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ อย่างเจาะจง (18:11;19:8,10;4:27;28:30)

            “ได้ชื่อว่าคริสเตียนเป็นครั้งแรก” (first called Christians)  = ชื่อที่เหมาะกับคนที่ “เป็นของพระเยซูคริสต์” (ซึ่งเป็นความหมายของคำ ๆ นี้) ไม่ว่าจะตั้งกันเองหรือเป็นคำประณามเยาะเย้ยคำ ๆ นี้ปรากฏอยู่ในพระคัมภีร์อีกเพียงใน 26:28;1ปต.4:16

11:27   “ผู้เผยพระวจนะ” (prophets) = เป็นครั้งแรกที่เอ่ยถึงคำ ๆ(หรือของประทาน) นี้ในพระธรรมกิจการ

            -ผู้เผยพระวจนะมีหน้าที่เทศนา หนุนใจ อธิบาย หรือพยากรณ์ (13:1;15:32;19:6; 21:9-10; รม.12:6;1คร.12:10;13:2,8;14:3,6,29-37 ;ปท.ยนา.3:2;ศคย.1:1;อฟ.4:11)

11:28   “อากาบัส” (Agabus) ผู้ที่พยากรณ์ว่า เปาโลจะถูกจำคุก (21:10) ในพระธรรมกิจการผู้เผยพระวจนะมีหน้าที่ทั้งพยากรณ์ (ข.27;21:9-10) และเผยพระวจนะ (15:32)

           “จักรพรรดิคลาวดิอัส” (Claudius) = จักรพรรดิโรมในช่วง ค.ศ. 41-54

11:29   “จะเรี่ยไรกันตามกำลัง” (determined, every one according to his ability,) = ตามกำลังของแต่ละคน -ปท.2คร.8:3

11:30   “พวกผู้ปกครอง” (the elders)  = เป็นครั้งแรกที่อ้างถึงคำนี้ในพระธรรมกิจการ (1ทธ.3:1;5:17) พวกอัครฑูตอาจไม่ได้อยู่ในกรุงเยรูซาเล็ม ในเวลานี้ จึงไม่ได้เอ่ยถึง

คำถามนำอภิปราย

  1. คุณเคยทำดี (หรือทำสิ่งที่พระเจ้าทรงนำให้ทำ) แล้วถูกวิพากษ์วิจารณ์บ้างหรือไม่? โดยผู้ใด? เรื่องอะไร?      คุณรู้สึกอย่างไร หากว่าคุณถูกวิจารณ์ต่อว่าจาก
  • คนภายนอกคริสตจักร
  • คนภายในคริสตจักรของคุณ?

แล้วส่งผลกระทบแตกต่างอะไรต่อคุณบ้าง?

  1. คุณเคยอดทนอธิบายชี้แจงเรื่องอะไรต่อผู้วิพากษ์วิจารณ์คุณต่อผู้ใดบ้างหรือไม่? อย่างไร แล้วผลเป็นอย่างไร?
  2. คุณเคยเห็นผลดีที่เกิดจากการข่มเหง คนของพระเจ้าบ้างหรือไม่? อย่างไร?
  3. คุณเคยเห็นหรือมีประสบการณ์กับพระหัตถ์ของพระเจ้าที่ทำให้คน(มากมาย) กลับใจมาเชื่อพระเจ้าบ้างหรือไม่? ที่ไหน? อย่างไร? ส่งผลอะไรต่อความเชื่อศรัทธาของคุณบ้าง?
  4. คุณเคยได้รับมอบหมายให้ตรวจตราดูความเชื่อหรือปรากฏการณ์บางอย่าง แล้วอดสรรเสริญพระเจ้าไม่ได้บ้างหรือไม่? อย่างไร? (แบ่งปัน)
  5. คุณเคยให้กำลังใจแก่ผู้ใดหรือรับกำลังใจจากผู้ใดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตคริสเตียนของเขาหรือของคุณบ้างหรือไม่? อย่างไร?
  6. คุณเคยพบคนดีที่มีคุณค่าอย่างบารนาบัสบ้างหรือไม่? (แบ่งปัน)
  7. คุณเคยให้โอกาสคนอื่น ๆ ในการรับใช้และส่งเสริมเขาให้ก้าวหน้าขึ้นในชีวิตการรับใช้บ้างหรือไม่ (แบ่งปัน)
  8. วันนี้ คุณละอายหรือภูมิใจที่จะแนะนำตัวของคุณต่อคนที่คุณพบปะว่า คุณเป็นคริสเตียน? ทำไม? และส่งผลอะไรต่อคุณ?
  9. คุณเคยร่วมมือกับพี่น้องในการช่วยเหลือผู้ใดบ้าง? อย่างไร? แล้วเกิดอะไรตามมา?

 

ศจ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.