Categories
บทความแปล

เมื่อหัวใจของคุณไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ

เมื่อหัวใจของคุณไม่เป็นที่น่าไว้วางใจ

ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ (สดุดี 73:26THSV11)

“ทำตามหัวใจของคุณเถอะ!” เป็นคำแนะนำที่เรามักจะได้ยิน ไม่ว่าเรากำลังตกหลุมรัก ต้องตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆ เป็นคำพูดที่ผู้คนชอบพูดเมื่อเราตกอยู่ในอารมณ์ที่ไม่เป็นตัวของตัวเอง

แต่ปัญหาของคำแนะนำนี้คือ หัวใจของเราไม่ได้เป็นที่น่าไว้วางใจเสมอไป

  • หัวใจของฉันอาจตอบสนองต่ออารมณ์ชั่ววูบ และไม่ทันคิดถึงผลกระทบระยะยาว
  • หัวใจของฉันอาจอนุญาตให้ฉันทำในสิ่งที่อยากทำ โดยลืมคิดถึงหัวใจของผู้คนรอบข้าง
  • หัวใจของฉันอาจหลอกลวงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ

ไม่นานมานี้ฉันรู้สึกท้อถอย มันเริ่มมาจากได้ยินข่าวที่ไม่คาดคิดซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยากและเจ็บปวด ปกติแล้วฉันเป็นคนมองโลกในแง่ดี แต่ครั้งนี้ท้าทายเกินไป ฉันไม่อาจแก้ไข ไม่อาจทำให้มันดีขึ้นมาได้

หลายวันผ่านไป ความท้อมันคอยแต่ทิ่มแทง และนี่คือเสียงที่ฉันได้ยินก้องไปมาในหัวใจ

  • คุณมีเหตุผลที่จะท้อได้ ไม่เป็นไรหรอก
  • มันไม่มีทางจะดีขึ้นได้
  • มันยากเกินไปสำหรับพระเจ้า

อาสาฟ ผู้เขียนพระธรรมสดุดี รู้ตัวดีว่าท่านมีทั้งความอ่อนแอและเข้มแข็ง ในกำลังของท่านเอง ท่านหมดสภาพ แต่ท่านไม่ได้อยู่ลำพัง ท่านผูกพันเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าผู้ทรงฤทธิ์ และความผูกพันนี้นำมาซึ่งสิ่งดีมากมาย

ร่างกายและจิตใจของข้าพระองค์จะวายไป แต่พระเจ้าทรงเป็นกำลังใจและเป็นมรดกส่วนของข้าพระองค์เป็นนิตย์ (สดุดี 73:26THSV11)

ฉันตกอยู่ในสงครามความท้อถอย แต่หัวใจและตัวตนของฉันไม่ได้ผูกติดอยู่กับสถานการณ์หรืออารมณ์เท่านั้น ในฐานะผู้เชื่อ หัวใจของฉันผูกพันอยู่กับพระเจ้า พระบิดาผู้ทรงฤทธานุภาพไม่จำกัด ผู้ทรงสัพพัญญูรู้ทุกสิ่ง และทรงอยู่ด้วยทุกหนแห่ง  แปลว่าหัวใจของฉันผูกพันอยู่กับความจริง สติปัญญา กำลัง การเยียวยา และอีกมากมาย  ไม่ว่าเรื่องใดที่ถูกกลั่นกรองผ่านหัวใจฉันจะต้องผ่าน “ความเชื่อ” ของฉันด้วย

ยอมรับว่าหัวใจของฉันอาจไม่น่าไว้วางใจในชั่วขณะ นั่นไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่เป็นความเข้มแข็ง ต้องให้การสารภาพมาก่อนอารมณ์และความรู้สึก เพื่อให้เดินไปในทิศทางที่ถูกต้อง เราต้องเลือกยืนบนพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่บนอารมณ์ที่เปราะบางและสถานการณ์ที่ชั่วคราว

อย่าให้คำว่า “ทำตามหัวใจของคุณเถอะ” เข้ามามีอำนาจในช่วงเวลาเช่นนี้ แต่ให้วางใจ พระเจ้าทรงทราบแล้วถึงข่าวที่เราได้ยิน เราต้องวางใจในการสถิตอยู่ ต้องวางใจว่าพระองค์จะช่วยเราออกมาจากความสูญเสีย หรือใจที่แตกสลาย เราไว้ใจว่าพระองค์จะไม่ทอดทิ้งหรือละทิ้งเราเลย และเมื่อทำเช่นนี้ เราได้วางใจในพระเจ้าด้วยสุดใจ สุดกำลัง และสุดความคิดของเรา

เมื่อเข้ามาวางใจในพระองค์แทนที่จะวางใจในหัวใจที่ไม่มั่นคงของเรา พระองค์จะยึดเราไว้ แม้ความวางใจไม่ได้แก้ไขสถานการณ์ในทันที แต่จะปักเราลงในแหล่งแห่งกำลังที่ไม่คลอนแคลนและดำรงอยู่ชั่วนิรันดร์  

 

โดย Susan Eller

Encouragement for today: www.crosswalk.com

(Cr.ภาพ shutterstock)

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.